Freeware.in.th
กระแสของผู้คนที่กำลังเห่อหมีแพนด้ากันในช่วงนี้ มีผลต่อวงการซอฟแวร์ด้วยเหมือนกัน เพราะช่วงนี้มีโปรแกรมออกใหม่ ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ของโปรแกรมแอนตี้ไวรัส ชื่อว่า Panda Cloud Antivirus ที่บอกว่าเป็นรูปแบบใหม่ก็คือ เจ้าตัวนี้ทำงานผ่านเซิฟเวอร์แบบ cloud computing ทำให้โปรแกรมไม่ต้องอัพเดตข้อมูลไวรัส และกินแรมน้อย น่าสนใจมั้ย…ไปอ่านต่อกัน…
Panda Cloud Antivirus เป็นผลงานของ บริษัท panda security ซึ่งได้สร้างโปรเจ็คใหม่ขึ้นมาโดยเปลี่ยนแนวคิดของโปรแกรมแอนตี้ไวรัสเดิมๆ มาเป็นการทำงานผ่าน cloud computing แทน Cloud คือคอมพิวเตอร์ที่อยู่ตามที่ต่างๆทั่วโลกและเชื่อมต่อกันด้วยอินเตอร์เน็ตและทำงานร่วมกัน พูดง่ายๆ cloud คือซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่งนั่นเอง แนวคิดของ Panda Cloud Antivirus คือการออกแบบให้โปรแกรมมีขนาดเล็ก เบา กินพื้นที่และทรัพยากรเครื่องน้อย ในขณะเดียวกันได้ย้ายการทำงานหลักๆ ออกไปทำงานบนเซิฟเวอร์ cloud แทน ไม่ว่าจะเป็น realtime protection , fully scanning , และข้อมูลของไวรัสที่ออกมาใหม่ๆ
ทำให้ Panda Cloud Antivirus เป็นโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่มีขนาดเบา กินแรมน้อย มีความปลอดภัยสูง และไม่ต้องมานั่งอัพเดตข้อมูลไวรัสล่าสุด เพราะข้อมูลและการทำงานของโปรแกรมจะถูกเชื่อมต่อกับเซิฟเวอร์ตลอดเวลาผ่านทางอินเตอร์เน็ตนั่นเอง
มาลองใช้งาน Panda Cloud Antivirus ดูครับ
ดาวโหลดโปรแกรมได้ที่ http://www.cloudantivirus.com/
ขนาดไฟล์เล็กมากเมื่อเทียบกับแอนตี้ไวรัสแบบเก่า แค่ 18.7 MB เท่านั้น
จะได้ไฟล์ cloudantivirus.exe มีไอคอนเป็นหมีน่ารักแบบนี้ ติดตั้งเลยครับ
เสร็จเรียบร้อย จะมีไอคอนโปรแกรมเป็น หมีแพนด้า มายิ้มให้เราตรง tray แบบนี้
หน้าตาของโปรแกรม Panda Cloud Antivirus
โผล่มาถึงก็ OK เลย เฮ้ย..ยังไม่ได้สั่งสแกนเลย ทำไม OK ง่ายจัง แต่เอ๊ะ…ตรงมุมล่างขวา มีข้อความให้คลิก
โช๊ะ…แค่ติดตั้งเสร็จไม่ถึง 10 วินาที มันจับ malware ในเครื่องผมได้ถึง 6 ตัว โอ้โห….สุดยอด
หน้าจอในส่วนของ report เจอโทรจันไป 5ตัว
หน้า setting ในกรณีที่อินเตอร์เน็ตของคุณต้องตั้งค่า ก็ต้องมาตั้งที่โปรแกรมนี้ด้วย ไม่งั้นมันไม่ทำงาน
สั่งสแกนได้ที่หน้านี้
ถ้ามีไวรัส หรือ มัลแวร์ ปุ่มสีเขียวจะเด้งขึ้นมา เอ..ทำไมเครื่องเราไวรัสเยอะจังหว่า…..
ผลการทดลองใช้ เป็นโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่กินแรมน้อยมาก ขณะที่รันตามปกติ กินแรมประมาณ 19 MB และเมื่อสั่งสแกน จะกินแรมประมาณ 30 MB แต่ข้อจำกัดของโปรแกรมตัวนี้คือ ทำงานผ่านระบบ cloud จึงทำให้ใช้ได้กับเครื่องคอมที่ต่อเน็ตตลอดเวลาเท่านั้น ถ้าเป็นเครื่องที่ไม่ได้ต่อเน็ต โปรแกรมนี้ก็ทำงานไม่ได้ครับ ใครที่จะเปลี่ยนมาใช้ Panda Cloud Antivirus ต้องเข้าใจตรงจุดนี้ด้วยนะครับ
อยากทราบว่า ความเร็วเน็ตที่เหมาะสมควรจะซักเท่าไรครับกับระบบนี้?
ซัก 1 mbps ก็ทำงานได้แล้วครับ
หลังจากอ่านแล้ว ผมก็ลองลบร่มแดง แล้วใช้บริการแพนด้าดู คงลองใช้ดูสักพักคับ
ในหน้าของ recycle bin ผมก็มีอยู่ตัวนึง เขียนว่าอาจติดไวรัส แล้วต้องทำไงต่อคับ ปล่อยมันไว้อย่างงั้นแล้วมันจะจัดการให้เองใช่เป่าคับ
มันคือตัวที่โปรแกรมจับได้ว่าเป็นไวรัสครับ ลบทิ้งเลยก็ได้ครับ
สามารถติดตั้งได้ใน Windows 7 ได้ด้วยครับ
http://blog.cloudantivirus.com/2009/07/03/cloud-antivirus-beta2-under-windows-7/
แหล่มเลย ขอบคุณครับ
ผมลองใช้อยู่คับ เอา Nod ออกแล้ว แต่… สแกนนานมากกกกกกกกกกกกก
สแกนนานไม่นานอยู่ที่สองอย่างครับ จำนวนไฟล์ในเครื่องกับความเร็วอินเตอร์เ์เน็ต
Interface น่าใช้มากกกกกก
แต่ใช้ Avast อยู่ ไม่อยากเปลี่ยนแล้ว
(เปลี่ยนจาก KIS มาใช้เลยนะเนี่ย)
Avast ก็ดีอยู่แล้วครับ
แหล่มๆ อย่างงี้ต้องลอง.. ผมใช้ pandaantivirus กับ panda วักซีนอยู่ เดียวเอาแพนด้านน้อยไปลองอีกตัว อิอิ
ระวังอย่าลงแอนตีไวรัส สองตัวในเครื่องเดียวกันนะครับ ถึงแม้จะยี่ห้อเดียวกันก็ตามที มันจะตีกันครับ
ผมใช้ Avast อยู่ครับพอได้ข้อมูลที่พอชัดเจนเลยไม่สับสน ขอบคุณครับ
เขาเจอไว้รัสแล้วแจ้งให้เราทราบ block ไว้นี่แปลว่าเขา kill ไวรัสรึยังคับ ทำไงจะคิวได้
ตอนนี้ผมใช้ ร่มเเดงอยู่คับ
มีข้อดีข้อเสียอย่างไรเเนะนำด้วย
panda cloud antivirus ต้องใช้เน็ตแระทำให้ความเร็วมันช้าลง+เข้าเว็บไซอื่นๆก็ช้าลงด้วยช่ายมัยครบ
ไม่ถึงกับช้าลงหรอกครับ มันก็ใช้บ้างแต่ไม่ได้ใช้ตลอดเวลาขนาดนั้น
คือถ้าเราใช้ไวเรสแบบมีพาสเวิร์ดอะครับ เราต้องใส่ช่องเซตติ้งหรือป่าวครับ
ถ้าใส่แล้วช้อง ฟรอกซี่ กับ พอร์ต เอาจากตรงไหนอ่ะครับ
ตอบคำถามคุณ darktowing นะครับ
ผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจนะครับว่าถ้าใช้ไวเลสแบบมีพาสเวิร์ดต้องใส่รึเปล่า
แต่ผมคิดว่าถ้าหากเราต่อไวเลสเล่นได้ แล้วเจ้า Panda Cloud Antivirus
ไม่ได้มีตัวกากบาทตรงมุมไอคอนรูปหมีแพนด้าที่ System Tray
ก็คงไม่มีปัญหาอะไรครับ วิธีตรวจสอบแสนง่ายว่ามันใช้ได้แน่ของผมก็คือ
จะหาไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่มีไฟล์ขนาดไม่ใหญ่มากแล้วสั่งสแกนครับ
เพราะโปรแกรมมีคำสั่ง Scan other items… ให้ อยู่ใกล้ๆกับคำสั่ง
Scan all my computer หละครับ เราก็เลือกที่ๆมันจะสแกนไม่นานมาก
ถ้ามันสามารถสแกนได้ครบ 100% ได้ผมว่าก็คงไม่มีปัญหาแล้วหละครับ
ปล. ทั้งนี้ ทั้งนั้น ผมว่ารอคำตอบจากผู้ที่รู้จริงก็ได้ครับ
เพราะผมไม่ได้รู้อะไรมากหรอก แต่อาศัยว่าใช้มาได้ระยะนึงแล้ว
เลยคิดว่าวิธีนี้น่าจะเป็นวิธีง่ายๆที่น่าจะชัวร์นะ ยังไงผมก็จะรอคนรู้จริงมาตอบเหมือนกัน
ว่าจะมีที่ง่าย สะดวกสบาย หรือถูกต้องมากกว่านี้อีกรึเปล่า หรือว่าผมเข้าใจผิดไป
ต้องขอโทษนะครับที่คอมเม้นซ้อนอีกรอบ
เพราะลืมไปว่าคุณ darktowing ถามเรื่อง Proxy และ Port ด้วย
ซึ่งอันนี้ผมว่าคุณน่าจะต้องไปขอค่านี้กับ ISP ที่คุณใช้บริการอยู่
แต่ลองทำวิธีที่ผมบอกก่อนก็ได้ครับ ถ้ามันสแกนได้ 100%
ไม่มีปัญหาอะไร ผมว่าก็ไม่ต้องไปใส่ค่า Proxy และ Port ก็ได้ครับ
ตอบคุณ darktowing ไม่ต้องเซ็ตอะไรครับ แค่คอนเน็คไวร์เลสใส่พาส พอเข้าได้ก็ใช้ได้แล้วครับ
ขอบคุณมากครับทั้ง2ท่าน ^^
ทำไมมันลง ใน windows 7 64 bit ไม่ได้อ่ะครับหรือว่าต้องลง กับ 32 bit อย่างเดียว
เเล้วมีตัวเเก้ไขให้ลง กับ 64 ได้ไหม ครับ
เวอร์ชั่นฟรีอาจจะยังไม่ได้ออกแบบมาสำหรับ 64bit ก็ได้
คนใช้ 64 bit ก็ซวยไปสิครับงาน นี้ – -*
พี่หลามลงทุนซื้อของแท้มาเล่นด้วยนะครับ 7 wonder ที่มันฟ้องน่ะ ละเมิดลิขสิทธิ์คร้าบบบบบบ
ขอวิธีลงโปแกรม CloudAntivirus สำหรับ vista ลงไม่สำเร็จเลยคับ
เเล้วตั้งค่า proxy ทำไงอ่า ครับ
ของผมมันต้องตั้งค่าด้วย อ่าครับ
ก็ ต้องรู้ค่า พร๊อกซี่ ในระบบ ของคุณก่อนซิครับ ถึงจะตั้งได้ ไม่งั้นก็ปิดเจ้าพร๊อกซี่นั้นไปเลย จบ
เมื่อมันสแกนเจอแล้วต้องทำไงต่อคะ แต่ดีนะคะ เพราะตัวที่ใช้อยู่ไม่เคยสแกนเจอเลย…เขาเจ๊งจริงๆ
รบกวนตอบด้วยนะคะ^^
ขอบคุณค่ะ
แล้วมันอัพเดตยังไง
เปิดกี่ทีกี่ทีมันก็ยังเหมือนเดิมเลย งงอ่า
บอกหน่อยนะคะ!