รีวิวหุ่นยนต์ทำความสะอาดรุ่นใหญ่ของค่าย Autobot … ค่ายนี้เน้นหุ่นยนต์ราคาประหยัดโดยตัด Feature บางอย่างออกไป แล้วทดแทนด้วยเทคโนโลยีง่ายๆ เพื่อทำให้ราคาประหยัดมากขึ้น ตัว Autobot รุ่น Smart มีความสามารถเพิ่มขึ้นมาจากรุ่น Autobot mini หลายอย่างมาก แต่ราคาเพิ่มขึ้นไม่เท่าไหร่ ลองดูครับว่าจะถูกใจกันหรือเปล่า
หลังจากที่ผมรีวิวพวกหุ่นยนต์ทำความสะอาดมาหลายตัว ผมพบว่าสิ่งสำคัญของหุ่นยนต์ทำความสะอาดที่ผมคิดว่าจำเป็นมากมีดังต่อไปนี้ครับ
- ระบบตั้งเวลาทำความสะอาดอัตโนมัติ
- ความสามารถในการหลบหลีกและวิ่งกลับมายังแท่นชาร์จได้
- ความสามารถในการไต่พื้นต่างระดับซัก 0.5 – 1 ซม.
3 อย่างนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากครับ อย่างระบบตั้งเวลาการทำความสะอาด ที่จำเป็นก็เพราะว่าส่วนใหญ่เราจะลืมครับว่า ต้องปล่อยหุ่นออกไปวิ่งทำความสะอาด อย่างระบบวิ่งหลบหลีกและการวิ่งกลับไปแท่นชาร์จก็ช่วยลดปัญหาในการเดินหาว่าหุ่นของเรามันไปวิ่งแล้ว Battery หมดอยู่ที่ไหน อย่างน้อยถ้า Battery ใกล้หมด มันก็จะวิ่งกลับมาชาร์จเองได้
ส่วนความสามารถในการไต่พื้นต่างระดับแบบเตี้ยๆ แล้วข้ามไปได้เนี่ยก็จำเป็นสำหรับการทำความสะอาดให้ครอบคลุมทั้งห้องครับ
3 อย่างนี้แหละ คือสิ่งที่ควรจะมีในหุ่นยนต์ทำความสะอาดเพื่อให้เราสามารถหมดปัญหาในการใช้งานมันในแต่ละวันได้ครับ
เกริ่นมาซะขนาดนี้ ยังไม่ได้ดูของกันซะที เอ้ามาแกะกล่องกันเลยครับ ของทุกอย่างอัดแน่นมาในกล่องขนาดนี้เลยทีเดียว
เมื่อเราเทของออกมาจากกล่องทั้งหมดแล้ว จะพบอุปกรณ์ดังต่อไปนี้ครับ
- หุ่น Autobot รุ่น Smart x 1
- Battery ขนาด 1,500 mAh x 1
- Remote Control x 1
- แปลงปัดฝุ่นเข้าถังดูดฝุ่น x 2
- แท่นชาร์จ พร้อม Power Adapter
- Filter ถังเก็บฝุ่น x 2
- ผ้าเปียกทำความสะอาด Scott x 2
- ผ้า Micro Fiber สำหรับทำความสะอาด x 2
- คู่มือและใบรับประกัน
หุ่น Autobot รุ่น Smart จะมีสีม่วง ขนาด 29.5 x 29.5 แล้วก็มีความสูง 7.5 ซม มีปุ่มควบคุมอยู่ด้านบน และตรงฝาโลโก้ Autobot ก็สามารถเปิดขึ้นมาเพื่อนำเอาถังเก็บฝุ่นไปทิ้งได้
พลิกมาใต้เครื่อง จะมี Sensor ในการตรวจจับพื้นอยู่ 3 จุดด้วยกัน มีช่องเสียบแปรงทำความสะอาด และท่อดูดฝุ่น ส่วนแผ่นใหญ่ๆตรงกลางจะเป็นตัวยึดผ้าเปียกทำความสะอาดครับ
ทีนี้ก่อนที่เราจะเริ่มใช้งานได้ก็คือต้องประกอบร่างกันก่อน เริ่มจากการพลิกเครื่องเปิดฝา แล้วใส่ Battery เข้าไป
(ดูขั้วบวก – ลบ ) ให้ดีด้วยนะครับ
ใส่แปรงทำความสะอาดและนำเอาผ้าทำความสะอาดยึดกับที่ยึด
จากนั้นก็เปิดเครื่อง แล้วค่อยชาร์จไฟครับ พอไฟเต็มแล้วจึงทำงานได้ (ตอนผมได้มาครั้งแรก ไม่รู้ว่าต้องเปิดก่อนถึงจะชาร์จได้ ดันชาร์จทิ้งไว้ทั้งคืน ไม่เห็นไฟจะเข้าเลย ปรากฏว่าเซ่อเองครับ ฮ่าๆ)
ปุ่มควบคุมจะมี 2 ปุ่มด้วยกัน และจะมีไฟบอกสถานะอยู่ 4 จุดครับ
การกดปุ่มโหมด จะเปลี่ยนโหมดในการทำความระหว่าง การทำความสะอาดแบบมีการเปิดระบบดูดฝุ่น และ ไม่เปิด (MOP) เพื่อให้ถูพื้นอย่างเดียวก็ได้ครับ
ไฟสถานะด้านข้างรูปกากบาท จะเป็นตัวบอกสถานะ Error ในแบบต่างๆ และรูปถังขยะ ถ้ามีไฟติดขึ้นมาก็แปลว่าถังเก็บฝุ่นเต็มให้เราเอาฝุ่นไปทิ้งได้แล้ว
ด้านหน้าของหุ่นมีกันชนกันกระแทกครับ เมื่อมันวิ่งชนกำแพง ผนังหรือสิ่งกีดขวางก็จะมีการปรับมุมเพื่อวิ่งใหม่
ด้านหลังของหุ่นจะมีขั้วชาร์จไฟอยู่เพื่อเอาไว้ใช้กับ Docking ครับ
ตัว Docking จะมี 2 โหมด นั่นก็คือ โหมด 24H กับ FullGo โดยที่แต่ละโหมดจะทำงานแตกต่างกันดังต่อไปนี้ครับ
24H หมายถึงเมื่อครบ 24 ชม หลังจากที่กดปุ่มนี้ ก็จะปล่อยหุ่นวิ่งออกไปทำความสะอาด (เป็นระบบการตั้งเวลาทำความสะอาดแบบง่ายๆนั่นเอง)
FullGo คือโหมดที่เมื่อหุ่นชารฺ์จไฟเต็มแล้ว ให้วิ่งออกไปทันที
ทั้ง 2 โหมดนี้ก็จะช่วยให้เราตั้งเวลาทำความสะอาดได้ง่ายๆครับ
หลักการทำความสะอาดของหุ่น Autobot ก็คือ จะใช้การดูดฝุ่นของระบบ ผสมกับการถูพื้นด้วยผ้าเปียกครับ ทำให้ได้ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดมาก แต่ราคาประหยัดนั่นเอง
ทาง Autobot ให้ผ้า Micro Fiber มา 2 ผืนเพื่อทำงานร่วมกับระบบดูดฝุ่น แต่ผ้าพวกนี้อาจจะคุณภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คือใช้แปบเดียวก็ดำมากแล้วครับ ประมาณ 2-3 วันก็ต้องเปลี่ยนผืนนึงแล้ว แต่ทาง Autobot ก็เลยให้ผ้าเปียกของ Scott มาในกล่องด้วยถึง 2 Pack เพื่อให้ผู้ใช้งานไม่ยุ่งยาก
ข้อดีคือ ผ้าเปียกเช็ดพื้นได้ดีมากครับ ข้อเสียคือ ใช้ได้ครั้งเดียวก็หมดประสิทธิภาพแล้ว เลยต้องเปลี่ยนบ่อยๆ แต่ถ้าต้องมาเปลี่ยนมัน ก็ปล่อยให้มันทำความสะอาดอัตโนมัติไม่ได้น่ะสิฟระ!!!
ตัวรีโมทสามารถสั่งให้มันวิ่งไปวิ่งมาเหมือนรถบังคับได้ รวมถึงสามารถเลือกโหมดในการทำความสะอาด และ เลือกรูปแบบการวิ่งทำความสะอาดได้ด้วยครับ โดยที่แต่ละโหมดจะวิ่งต่างกันดังต่อไปนี้
- โหมดก้นหอย จะวิ่งจากจุดที่ตัวมันเองเริ่มแล้วค่อยๆขยายวงก้นหอยให้กว้างขึ้นเรื่อยๆ
- โหมด Random ก็จะวิ่งสุ่มไปเรื่อยๆ
- โหมดไต่ขอบผนังก็จะหาผนังหรือกำแพงให้เจอเพื่อไล่ขอบไปเรื่อยๆ
- โหมด Zigzag ก็จะวิ่งไล่พื้นที่ไปเรื่อยๆ ซ้ายขวาสลับกัน
ทีนี้หลังจากที่ทดสอบมาซักพัก ก็ขอสรุปความสามารถของ Autobot Smart ดังต่อไปนี้นะครับ
- เสียงรบกวนพอๆกับรุ่น Autobot Mini ครับ และเบากว่า iRobot Roomba มากๆ อาจจะเพราะกำลังของระบบดูดฝุ่นไม่ได้มากนั่นเอง
- ระบบการดูดฝุ่น + การถูพื้นด้วยผ้าเปียกดีมากๆ คือเป็นวิธีที่ทำให้ Autobot ทำความสะอาดได้ดี แต่ต้นทุนไม่แพง อันนี้ผมนับถือวิธีนี้เลยนะ
- ระบบหลบหลีกสิ่งกีดขวางยังบ๊องๆ อยู่บ้าง บางทีก็ไปติดอยู่ใต้เก้าอี้ เพราะปรับมุมออกมาไม่ได้
- การปีนป่ายสิ่งกีดขวางเตี้ยๆระดับ 0.5 – 1 ซม ยังมีปัญหาอยู่บ้าง บางทีปีนข้ามสายไฟได้ แต่บางทีก็ไม่ได้ เรียกได้ว่าแล้วแต่ดวงและมุมของการไต่ล้วนๆครับ
- ทดลองใช้งานประมาณ 2 อาทิตย์พบว่าการวิ่งกลับ Docking ยังมีปัญหาอยู่มาก เพราะประมาณ 10% – 20% จะกลับไม่ได้เพราะไปหลงๆ ตรงโน้นตรงนี้ของห้องครับ
- ถ้าลืมเปลี่ยนผ้าเปียกเพื่อทำความสะอาด ก็จะทำให้ประสิทธืภาพในการทำความสะอาดไม่ค่อยดีเท่าไหร่
- โหมดถูพื้น (MOP) เหมาะกับห้องที่ผู้ป่วยหรือคนแก่นอนมากครับ วิ่งเงียบดีมาก แต่อย่าลืมเปลี่ยนผ้าเปียกล่ะ
ตอนนี้ Autobot Smart ราคา 12,900 ครับ ทาง Melonbox มี Promotion ลดเหลือ 6,900 บาทเท่านั้น ลองคลิกดูรายละเอียดได้ที่นี่เลยครับ http://www.melonbox.com/Autobot-Smart-Robot-Vacuum-RC530R?tracking=53ac2ced38062
15 comments