ผมเขียน Blog นี้ขึ้นมาด้วยไอเดียที่คิดขึ้นมาได้ตอนนั่งส้วมฉลองวันเกิดอายุ 37 ปีของตัวเอง เพราะระหว่างที่นั่งส้วมก็คิดว่า คอนโดที่อาศัยอยู่นี่อีก 20 ปี จะเป็นแบบไหนต้องตกแต่งยังไงบ้าง แล้วก็พาลนึกไปถึงเรื่องของ Internet of Things ที่อุปกรณ์บนโลกจะเชื่อมกันผ่านโครงข่าย Internet ทั้งหมด คิดไป คิดมา เพลินมาก เลยเขียน Blog มาสรุปไอเดียไว้ เดี๋ยวรอดูตอนของจริงมา มันจะเป็นอย่างที่ผมคิดเอาไว้ไหม
กล่อง Controller ที่จะเป็น Center ของบ้าน อาจจะเป็น Main Router ของบ้าน ที่มีระบบปฏิบัติที่มากกว่า Router ทั่วไป ตอนนี้ที่ใกล้เคียงที่สุดน่าจะเป็น Google OnHub กับ Mi Router
Network ในบ้านจะทำงานบนตัวกลาง 3 อย่างนั่นก็คือ Wireless LAN / สาย LAN ปกติ และ Power Line Adapter ระบบแปลงข้อมูลเพื่อส่งสัญญาณผ่านสายไฟ) เพื่อที่ให้ส่งได้ทั้งไฟฟ้าและดาต้าไปกับสายไฟเลย อาจจะมี Network Switch กลางที่สามารถ เป็นได้ทั้ง PoE (จ่ายไฟผ่าน LAN ) และ PLA (ส่งข้อมูลผ่านสายไฟในตัว)
กล่อง Router นี้จะเชื่อมต่อกับ NAS หรือจะมี Harddisk ในตัวก็ได้ เพื่อเก็บ Log ของสถานะอุปกรณ์ทุกตัวในบ้าน รวมไปถึง อาจจะทำหน้าที่ Backup ข้อมูลในมือถือร่วมกันไปด้วยเลย เป็นเหมือนถังกลางสำหรับเก็บข้อมูลประจำครอบครัว
ภาพจากกล้องวงจรปิดทั่วบ้าน โดยตัวกล้องจะเชื่อมต่อกับ Cloud ตรงเพื่อไม่ต้องมาทำระบบ Dynamic DNS แบบเมื่อก่อนแล้ว ตัวกล้องน่าจะรองรับระดับ 4K ได้ไม่ยาก ในยุคที่ Internet of things มาถึง ความง่ายของกล้องยุคใหม่คือ ติดตั้งง่าย แค่เสียบปลั๊ก แล้วจับจิ้มเข้าระบบ ไม่ว่าจะเป็น WIFI / LAN ก็จบเลย โดยรับ Config จากกล่อง Controller ตรงกลาง จะติดตั้งกี่กล้องก็ติดไป มีระบบ Face Recognition เพื่อดูว่า คนในรูปเดินทางจากห้องไหน ไปห้องไหนของบ้านบ้าง ส่วนเรื่องความชัดน่าจะไม่มีปัญหา ตอนนี้ Sensor รับภาพดีๆ ราคาไม่แพง + โปรแกรมประมวลผลภาพดีๆก็มีเยอะแยะ
Smart TV จะเป็น Internet of Things ที่คนเลือกเปลี่ยนง่ายที่สุด ในอนาคตนอกจากจะทำหน้าที่ดูทีวีแล้ว มันยังต่อ Internet + ดึงข้อมูลมาจากกล่อง Controller เพื่อมาแสดงผลว่าสถานะของบ้านเป็นยังไง เช่นระดับการใช้พลังงาน , Notification จากส่วนต่างๆของบ้าน
ประตูระบบ Smart Door ที่จะ ตั้งเวลา เปิด/ปิด ได้ มีกล้องไว้ยืนยันตัวกับเจ้าของบ้าน เพื่อขอเข้ามาในบ้าน และ เจ้าของบ้านไม่ต้องปั๊มกุญแจให้คนในบ้านอีกต่อไป แต่ทำระบบ Digital Key แจกให้คนในบ้าน และแขกที่จะมาบ้านได้เลย Key ตัวไหน ใช้เสร็จอยากยกเลิกก็กดยกเลิกได้เลย
แสงสว่างก็จะเป็นอีกส่วนที่สามารถเชื่อมกับกล่อง Controller ได้ง่าย เพราะหลอดไฟทุกดวงจะเชื่อมกับ Controller ผ่านทางสายไฟบนระบบ PoE อยู่แล้ว สั่งเปิดปิดไฟในบ้านผ่าน App ได้เลย ตั้งเวลาเปิดไฟในบ้านตามจุดต่างๆได้เลย
เครื่องปรับอากาศจะทำงานร่วมกับ Sensor ตรวจจับอุณหภูมิที่ทำงานอยู่ในบ้าน อันนี้ไม่ค่อยมีอะไรซับซ้อนเท่าไหร่ ก็คือ เหมือนแอร์แบบปกติ แต่ทำงานอัตโนมัติมากขึ้นนั่นเอง
จะมีการเพิ่ม Proximity Sensor หรือ เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว ไว้ในส่วนต่างๆของบ้านด้วย เพื่อเอาไว้ช่วยกระตุ้นให้อุปกรณ์ต่างๆทำงานโดยอัตโนมัติ เช่นไฟฟ้า แอร์ แสงสว่าง ถ้าคนออกนอกพื้นที่ก็หยุดทำงานโดยอัตโนมัติ รวมไปถึงช่วยเรื่อง Security ด้วย เช่นถ้ามีคนเข้ามาในพื้นที่ตามเวลาที่กำหนดไว้ ตัว Alarm ก็จะดัง
iBeacon หรือตัวตรวจจับสถานะจากมือถือระยะใกล้ๆ ก็ถือว่าเป็นตัวอย่างหนึ่งที่จะทำหน้าที่เป็น Proximity Sensor ในกรณีนี้ก็เป็นได้ อย่าง Android อาจจะเป็น NFC Tag แทน
เวลาออกจากบ้าน ก็เอามือถือแตะที่ตัว iBeacon หรือ NFC Tag เพื่อบอกให้ระบบล็อคบ้านทั้งหมด
ห้องครัวเป็นส่วนที่ยังไกลตัวอยู่ ความเปลี่ยนแปลงเรื่อง Internet of things ที่เกิดขึ้นกับ ตู้เย็น เตาอบ เครื่องซักผ้า อาจจะยังน้อยและยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ ต้องรอประมาณ 5-10 ปี
อนาคตแผง Solar Cell เก็บพลังงานอาจจะเป็นของประจำบ้านเลยก็ได้ เห็น Tesla Powerwall ของ Elon Musk นี่ใช่เลย มันคือ ต้นแบบของ Clean Energy ของโลกอนาคตเลย เจ๋งสุดๆ
IP Address คงไม่ค่อยเป็นปัญหา เพราะอนาคตเราจะต้องอัพเกรดระบบ IP Address จาก version 4 เป็น version 6 กันอยู่แล้ว แต่บ้านหลังนึงอาจจะมีอุปกรณ์ที่ต้องออนไลน์เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 50-60 ชิ้นเลยทีเดียว
ความเร็วของ Internet ในบ้านอาจจะอยู่ที่ 1Gbps ตามที่ Google Fiber ให้บริการนะ คือเร็วระดับไม่ต้องคิดแล้วว่าจะไม่พอ ความเร็วระดับนี้ ต่อให้ลูกโหลดบิทรัวๆ ยังเหลือ Bandwidth พอให้พ่อดู Video Streaming เลย
แต่สุดท้าย อุปกรณ์ที่จะเป็น Controller กลางก็คือ Smartphone นั่นแหละครับ ตอนนี้เท่าที่ดู Android มีภาษีที่ดีที่สุดนะ ในการเอามาทำ Internet of Things แถม Google ยังมี NEST ที่เอาไว้พัฒนาด้าน Internet of Things อีกหลายอย่าง
สำหรับ Apple น่าจะยังยากอยู่ เพราะ Solution เหมือนยังไม่ครบแถมถ้ามี iHOME จริงๆ แม่งจะราคาหลังเท่าไหร่วะเนี่ย???