ช่วงสิ้นปี เป็นเทศกาลหาเงินมาถมในกองทุนเพื่อทำการลดภาษี ผมว่าหลายๆคนน่าจะเป็นแบบนี้นะครับ สำหรับชนชั้นกลางอย่างเราที่มีรายได้เยอะหน่อย ปลายปีมีโบนัส ก็ไม่พ้นรายรับเกินขีดจำกัดต้องหาเรื่องลงทุนในกองทุนเพื่อลดภาษี อันนี้เป็นสูตรที่มีมานานแล้ว
ผมเองก็เหมือนกันครับ แต่ทุกปี พ่อจะเป็นคนดูแลให้ตลอด …. เพราะป๊าของผมผู้ซึ่งเป็นอดีตผู้จัดการบัญชีชื่อดังของบริษัทข้ามชาติจากไต้หวัน มีความสามารถอย่างยิ่งในวิชาฝ่ามือโยกย้ายเงิน ไม่รู้แกทำอีท่าไหน รายรับผมค่อนข้างจะสูง ถึงจะไม่เยอะมากเท่าหลายๆคนก็เถอะ แต่ป๊าก็ยังสามารถเล่นแร่แปรธาตุ ตบแผละ เสกเช็คคืนภาษีมาให้ผมได้ทุกปี เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจจริงๆ
แต่ในปีนี้ จากที่ผมทำงานพิธีกรอย่างเดียว ผมเริ่มมีรายรับหลายทางมากขึ้น ทั้งเปิดบริษัท ทั้งทำ Blogger แถมยังทำรายการทีวีอีกด้วย บวกกับป๊าธุระยุ่ง… ป๊าแกเลยบอกมาว่า
ปีนี้แกจัดการเองละกันนะ
อ้าว เฮ้ยย!!!!
ซึ่งในปีก่อนๆ ป๊าก็จะมีคำสั่งมาทาง LINE และโทรศัพท์ บอกว่า
เอ้า แกไปธนาคารนี้นะ ซื้อกองทุนนี้มา หมื่นนึง แล้วก็ไปอีกธนาคารนี้ ซื้อมาอีกหมื่นนึง …
ผมก็วิ่งวุ่นอยู่ต้องไปต่อคิวซื้อ 4-5 ธนาคาร ต้องเปิดบัญชี ทำอะไรเยอะแยะ
ผมก็งงนะ แล้วทำไมเราไม่ซื้อกองเดียวไปเลยล่ะป๊า (แบบว่าขี้เกียจวิ่งไปหลายธนาคาร)
โดนป๊าบ้องกระโหลก ป๊าตอบว่า ต้องรู้จักกระจายความเสี่ยงสิฟระ
แล้วทำไมมันซื้อจากธนาคารเดียวไม่ได้ล่ะป๊า??
กองทุนที่แต่ละธนาคารดูแลไม่เหมือนกัน อย่างเจ้านี้ ต้องซื้อที่ธนาคารนี้เท่านั้น
แน่นอน คนที่ไม่ได้อินเรื่องการเงินแบบผม ฟังแล้วก็งง แต่ก็ทำตามที่ป๊าสั่งแหละ
จนกระทั่งปีนี้ต้องมาซื้อเองครับ ก็ไม่รู้ทำไง … แต่เวลานึกไม่ออก การโพสต์ถามไปในอินเทอร์เน็ตนี่แหละ ช่วยได้ ฮ่าๆ
ขอบคุณแฟนๆ รายการมากครับ ได้ข้อมูลมาหลายอัน ได้วิธีมาหลายแบบ แถมโดนพ่อด่าใน Post ด้วย ฮ่าๆ (นี่แหละ ผลกรรมของการบ่นพ่อในโลก Social)
จนกระทั่งมีแฟนรายการท่านนึง เป็นเจ้าหน้าที่ของทาง TMB มาแนะนำบริการกองทุนของ TMB ที่ชื่อว่า TMB Open Architecture ครับ แล้วก็เชิญผมไปที่ TMB สาขาพารากอน แกบอกว่า ขอเรียนเชิญอาจารย์ ศุภเดชมาที่นี่เลย จะได้ สะดวกในการอธิบายข้อมูลและแนะนำกองทุนแต่ละตัวได้
ว่ากันว่า เวลาขอความช่วยเหลือใคร ถ้าเค้าให้ความช่วยเหลือมาแล้ว อย่าเรื่องมาก ผมก็ไปสิครัช
ก็ได้พบกับผู้จัดการธนาคาร TMB สาขาพารากอนครับ ได้มีโอกาสรับฟังคำสั่งสอนเรื่องของการเงินสำหรับมือใหม่อย่างผมมีประโยชน์มากเลย
แกก็ช่วยอธิบายให้ว่า ก่อนอื่นต้องเริ่มก่อนว่า อยากลงทุนเพื่ออะไร
- ลดภาษี
- รับปันผล
- ออมเงินเกษียณยามแก่เฒ่า
- กระจายความเสี่ยงจากการลงทุน
แล้วก็อธิบายกองทุนแต่ละแบบว่า มีประวัติยังไง LTF/RMF ต่างกันยังไง (ก็พึ่งรู้นะเนี่ย)
ซึ่งผมก็ถามกลับว่า แล้ว TMB Open Architecture มันต่างกับที่อื่นยังไงครับ
แกก็บอกว่า อย่างแรกเลย TMB OA สามารถลงทุนใน บลจ ดังๆได้ครบ จากที่เดียว ทำให้ไม่ต้องไปทำเรื่องซื้อจากหลายๆที่ สะดวกกว่าเยอะมาก
แล้วก็มีแบ่งหมวดหมู่สำหรับนักลงทุนหลายๆแบบเอาไว้ สำหรับนักลงทุนสมัครเล่น ก็จะมีหลายกองทุนให้เลือก เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนสูงและไม่เสียภาษี
สำหรับนักลงทุนแบบมือโปร ก็จะมีคัดแยกตัวที่คึกคัก ผลตอบแทนสูง แต่ก็จะมีความเสี่ยงสูงรวมกันเอาไว้ให้
หรือสำหรับ ลดหย่อนภาษี (แบบผม) ก็จะมีกองทุนรวมหุ้นระยะยาว กับ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพเอาไว้ให้ครับ
และที่สำคัญยังไม่มีค่าบริการ (ยกเว้นบางกองทุนที่มีค่าธรรมเนียม อันนี้ก็แล้วแต่)
จากการพูดคุยและสอบถามกับผู้จัดการสาขาและข้อมูลที่ได้มา ผมพบว่า ถ้าคนงบประมาณน้อยๆแบบผม อยากจะไปทดลองเล่นหุ้น … ด้วยงบประมาณที่จำกัดอาจจะทำให้เราลงทุนในหุ้นได้แค่ไม่กี่ตัว ในแง่ความเสี่ยงแล้ว อาจจะไม่สามารถกระจายความเสี่ยงได้มากเท่าไหร่ แต่ถ้ามาลงกับกองทุนแล้ว สามารถประเมินความเสี่ยงได้ง่ายกว่า แล้วก็ไม่ต้องมานั่งลุ้นหัวใจวาย เวลาเปิดแอปหุ้นด้วยครับ ฮ่าาาา
สุดท้าย เงินสำหรับการซื้อกองทุนปีนี้ ก็โดน TMB Open Architecture สอยเรียบ ซื้อตัวเก่า อย่าง CG / UOB แล้วก็เพิ่มเติมด้วย Aberdeen โดยลงทุนเป็น RMF ยิงยาวยันแก่ไปเลยครับ
สำหรับคนที่สนใจ TMB Open Architecture ก็ไปดูรายละเอียดได้ที่นี่เลยนะครับ สำหรับผม ผมว่าที่นี่ง่ายตรงที่ มาที่เดียวซื้อตัวดังๆได้ครบเนี่ยแหละ จะเป็นสไตล์การลงทุนแบบไหนก็ตอบโจทย์หมด