ปลายปีแบบนี้ คนไอทีก็อยากจะได้ของเล่นเป็นธรรมดา แต่ส่วนใหญ่ไปซื้อของที่สามารถเสพสุขได้ อวดได้ แต่หารู้ไม่ว่า ของเหล่านั้นต้องวิ่งอยู่บน Network ดีๆนะจ๊ะ ถึงจะแสดงแสนยานุภาพความเทพของมันออกมาได้ เลยทำ Top 5 อุปกรณ์ Network ที่น่าซื้อ สำหรับการแก้ปัญหาในบ้านมาให้เลือกกันครับ
ถ้าคุณมี Wireless Router ที่ดีอยู่แล้ว แต่สัญญาณไม่ครอบคลุมตัวบ้าน! ผมขอแนะนำให้สอยเจ้านี่เลยครับ Wireless Range Extender AC1200 ของ NETGEAR เป็น Range Extender ที่ว่ากันว่าแรงที่สุด ไกลที่สุด อ้อ แพงที่สุดด้วย ฮ่าๆ
Spec ของมัน
- Range Extender ที่รองรับมาตรฐาน AC
- มี Gigabit LAN ให้ 5 Port เผื่ออยากจะเอาไปขยายวง Network ต่อ / เชื่อมกับ PS4 หรือ Smart TV อะไรก็ว่าไป ซึ่งส่วนใหญ่ Range Extender มันให้กันแค่ 1 Port เท่านั้นแหละ
- มีเทคโนโลยี Beamforming ที่ช่วยปรับความแรงของสัญญาณ Wireless ให้พุ่งมาทางเครื่องของเราโดยตรงไม่เป๋ไปไหน
- CPU 800Mhz แบบ Duo Core
- กำลังส่ง 700 mw มาพร้อมเสาอากาศ 5dbi
- มี Fastlane Technology ที่สามารถดึงเอา คลื่นวิทยุหนึ่งคลื่นมาทำเป็น Repeater Channel อย่างเดียวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและ Bandwidth ของ Wireless ให้เต็มที่
แรงสุด แพงสุด และจบปัญหาที่สุด จัดไปเห๊อะ
ถ้าคุณอยากจะติดกล้องวงจรปิด แต่มันแพงเหลือเกิน จัดเจ้าหมอนี่ไปประดับบ้านได้เลยครับ
ระบบกล้องวงจรปิดบ้านเรามี 2 แบบ
- CCTV : เป็นกล้องที่เชื่อมกับกล่อง DVR … จำนวนกล้องที่เพิ่มได้ขึ้นอยู่กับความเก่งของกล่อง การขึ้นระบบครั้งแรกค่อนข้างราคาสูง เพราะต้องติดอย่างน้อย 5-8 ตัวถึงจะคุ้ม
- IPCam : เป็นกล้องที่มี OS ในตัวไม่ต้องใช้ DVR ทำงานได้ด้วยตัวมันเอง ข้อดีคือเก่งมาก ข้อเสียก็คือ ราคาต่อตัวแพงมากๆ ถ้าจะติดเกิน 3 ตัวก็เครียดแล้ว เพราะตัวนึง 4,000 – 6,000 บาท
แต่เจ้ากล้อง IPCAM : TPLINK NC220 เป็นกล้อง IPCAM ที่ Setup ง่าย ดูผ่าน App ได้ มีระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแล้วส่งมารายงานทางมือถือ ไม่ต้องทำระบบ Dynamic DNS เพราะมี Cloud ในตัว แถมตัวกล้องยังปล่อยทำหน้าที่เป็น WIFI Repeater ออกมาอีกด้วย ถึงจะมีข้อเสียที่บันทึกภาพลง SDCard ไม่ได้ แต่ด้วยค่าตัวถูกสัส ประมาณ 2,xxx บาทเท่านั้น เลยทำให้มันน่าสนใจมากเลยทีเดียว โคตรคุ้ม ไปดูรีวิวตัวเต็มที่นี่
สำหรับคนที่เริ่มจะเห็นความสำคัญของข้อมูลที่จะต้อง Backup ในแต่ละวัน และชักจะไม่อยากลงทุนจ่ายกับพวก Cloud Storage ราคาแสนแพงทั้งหลาย จงใส่ NAS เข้าไปในบ้านเพื่อทำระบบ Backup ส่วนตัวเสียเถอะ เจ้า DS216SE เป็น NAS รุ่นประหยัด ใส่ Hard Disk ได้ 2 ลูก เหมาะกับใช้งานในบ้าน 5-8 คน ความเจ๋งของ Synology คือ มันเป็น NAS ที่ลง App เพิ่มเติมได้ครับ โดยทั่วๆไปแล้ว NAS ส่วนใหญ่จะทำหน้าที่เก็บไฟล์อย่างเดียว แต่ต่อมาภายหลังทาง Synology พบว่า NAS ก็เหมือน Server เล็กๆในบ้น ดังนั้นการที่จะทำให้มันมี Network Service เหมือน Server ก็เป็นการเพิ่มความสามารถที่ดีเนาะ
– Load Bit ได้ในตัว
– มี Antivirus
– ลง App เพิ่มได้
– มี App ไว้เชื่อมกลับเข้ามาเอาไฟล์
– รองรับ CloudSync
– เป็น Time Machine ได้
– ใส่ HDD 2.5 นิ้ว หรือ 3.5 นิ้วก็ได้
– รองรับ File Syste, ทั้ง Mac / Windows / iOS / Android
– กินไฟแค่ 15 watt โดยประมาณ หรือประมาณ 25 บาทต่อเดือน ถูกมากๆเลยครับ
ค่าตัวเฉพาะ Body อยู่ที่ 6,xxx – 7,xxx บาทครับ แต่ราคานี้ไม่มี Hard Disk นะ
สำหรับคนที่อยู่บ้านมีคนอยู่กันไม่เยอะ แต่อยากอัพเกรด Network ที่บ้านให้เป็น Wireless AC ในราคาที่ถูกมากๆ ก็ต้องยกให้มันเลยครับ มันเป็น Wireless AC Router ที่ราคาโคตรถูกมากๆ เมื่อเทียบกับความสามารถ
– มี App ในการช่วย Config
– Block Web หรือ บีบความเร็ว Client ที่เชื่อมกับเราได้
– มี Filtering ไว้ Block web
– เปลี่ยน Mode ได้ 3 Mode Wireless Router / Repeater / Access Point
– ถ้าเสียบ External HDD ไว้หลังเครื่องผ่าน USB ก็โหลดบิทผ่านตัวมันได้
– มี App สำหรับ backup ข้อมูลในมือถือ Android มาเก็บไว้ใน Harddisk ที่เสียบบนตัวมันด้วย
– ข้อเสียที่เจอก็คือ LAN Port เป็นแค่ 10/100 กับ Firmware ที่มาเป็นภาษาจีนต้องหาเรื่องเปลี่ยนภาษาให้ได้ แต่ด้วยราคาแค่ 700 บาททำให้ด่าอะไรมันไม่ได้จริงๆ
อ่านรีวิวเต็มๆของ Mi Mini Router ได้ที่นี่
ปิดท้ายมาดู Wireless Router รุ่นใหญ่ สำหรับบ้านที่คิดว่างบประมาณเป็นเรื่องไม่สำคัญ แต่เน็ตฉันต้องแรง ก็ยกให้เจ้าตัวนี้เลย
ASUS RT-AC88U
คือเจ้าพวก Wireless Router ที่เป็นรุ่นใหญ่เนี่ย มันไม่ค่อยต่างกันมากหรอกครับ ไอ้ที่ต่างกันก็มีแค่
– Bandwidth สูงสุดของ WIFI ที่ทำได้
– รองรับ MU-MIMO หรือเปล่า
– ตัว Firmware เก่งแค่ไหน
ซึ่งในบรรดา รุ่น Topๆ ทั้งหลายแหล่ ผมว่าเจ้านี่คุ้มราคาและมี Feature เจ๋งกว่าเพื่อนเยอะสุดครับ เพราะตัวมันเองรองรับการเชื่อมต่อ VPN ของ WTF (What the Fast : เป็น Gamer Network ที่เอาไว้เชื่อมเพื่อเล่นเกมออนไลน์บน Server ต่างประเทศให้ได้เร็วกว่าการเชื่อมต่อแบบปกติ)
แถมยังทำ Link Aggregate (การวม LAN 2 Port เข้าด้วยกันเพิ่อเพิ่มความเร็วให้เป็น 2 เท่าในการก็อปไฟล์) ได้ด้วย ซึ่งมันเป็น Enterprise feature ชัดๆ แม่เจ้าาาา มี App ไว้ควบคุมการทำงาน แถมมี LAN Port มากถึง 8 รู!!! เอาเหอะ ยกให้เมิงเลยยย
ซึ่งถ้าราคาสูงพอๆกันแล้ว เจ้าไหนที่พิศดารก็ต้องยกให้เจ้านั้นไปนั่นแหละครับ
เอาล่ะครับนี่คือ 5 อุปกรณ์ Network ที่ผมว่าน่าซื้อมาประดับบ้าน ลดภาษี เสริมบารมี แก้ปีชง อะไรก็ว่าไป ขอให้มี Internet เร็วๆและไม่มีปัญหาใช้กันถ้วนหน้านะคร้าบ อิอิ