ประเทศไทยบ้านเรานอกจากเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่ชาวต่างประเทศชอบมาแล้ว คนไทยเองยังเป็นนักเที่ยวที่ไม่เกรงกลัวว่าวงเงินในบัตรเครดิตจะเต็ม หรือเงินสดในกระเป๋าจะไม่พอใช้ พอถึงเวลาวันหยุดยาวทีไร เป็นต้องแพ๊คกระเป๋าเที่ยวกันแบบลืมตาย
ก็เลยเป็นโอกาสทางการตลาดของกลุ่มคนเทคโนโลยีที่พัฒนาแอปขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือในการจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมให้ง่ายขึ้น ก่อนหน้านี้ เรามี Expedia , Agoda , SkyScanner มาหลายปี ในปีนี้ ตลาดของการจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมคึกคักด้วยน้องใหม่ในไทยแต่เป็นเจ้าใหญ่ในอินโดนีเซียอย่าง Traveloka.com ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=MQHdWmqdAFk
ประวัติสั้นๆที่ไปลองศึกษามาเพิ่มเติม : Traveloka ก่อตั้งเมื่อปี 2012 ในตอนแรกเป็นแค่เว็บที่ทำหน้าที่เปรียบเทียบราคาค่าตั๋วเครื่องบินเฉยๆ ต่อมาภายหลังในปี 2013 เลยเพิ่มเติมความสามารถให้จองตั๋วเครื่องบินได้เลย จากนั้นก็กลายเป็นเบอร์หนึ่งในอินโดนีเซียในเรื่องของบริการจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมครับ ซึ่งตอนนี้ Traveloka ก็มาบุกตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจัง โดยที่มาพร้อมโฆษณาทีวีตัวข้างบนนี่เลย
ส่วนใหญ่ App ที่เป็นระบบจอง ตั๋วเครื่องบิน+โรงแรมนี่ใช้งานไม่ยากครับ ทุกตัว Template ในการใช้งานเหมือนกันเกือบหมด หลักๆแล้วก็คือ ใส่ข้อมูล ค้นหา แล้วพอเลือกได้แล้ว ก็จ่ายตังค์ แค่นั้นเอง ส่วนใหญ่สิ่งที่คุณจะต้องเตรียมก่อนที่จะจองโรงแรมหรือตั๋วเครื่องบินก็คือ
- จะเดินทางวันไหน (ถ้าเป็นเครื่องบิน ระมัดระวังเรื่องของการบินช่วงหลังเที่ยงคืนให้ดี ผมเคยตกเครื่องมาแล้วเพราะเข้าใจวันเดินทางผิดไป 24 ชั่วโมงนี่แหละ)
- ชื่อผู้โดยสาร ต้องตรงกับ Passport .. (โดยส่วนตัวเคยจอง Air Asia ไปเกาหลี แต่ดันมีปัญหาตอน Checkin เพราะชื่อที่ลงทะเบียนใน App กับ Passport ไม่ตรงกัน โดยที่ต่างกันแต่ตัวหนังสือตัวเดียว เดือดร้อนต้องทำเรื่องเปลี่ยนชื่อในตั๋ววุ่นวายมาก)
- ถ้าจองตั๋วเครื่องบินไปต่างประเทศต้องเตรียมหมายเลข Passport ด้วย
- เงิน!!
ก็ประมาณนี้แหละครับ ผมลองโหลด Traveloka มาเล่นดู ซึ่งก็มีให้ใช้งานทั้ง iOS และ Android หน้าตาเหมือนกัน ทำงานรวดเร็วดี กดแล้วไม่ค่อยคิดมาก ไม่โหลดนาน เลยลองกดเล่นๆ เพราะตอนสิ้นปีจะเดินทางไปญี่ปุ่นอยู่แล้วเลยลองเล่นดูซักหน่อย
ผู้ใหญ่สองคน เดินทางไปฟุคุโอกะช่วงประมาณ 3 ธันวาคม – 11 ธันวาคม
ผลการค้นหาออกมาเป็น Singapore Airliane ออกมาเป็นตัวเลือกบนสุด ซึ่ง เราสามรถเรียงข้อมูลการค้นหาได้ด้วย แต่จะว่าไป ผมก็ว่าเส้นทาง Singapore Airline ที่เค้าเลือกมาให้มันก็ค่อนข้างดีอยู่แล้วนะ
- ถึงแม้ไม่บินตรง แต่พัก 1 จุดที่สิงค์โปร์ก็ยังพอรับได้ เพราะแวะพักปุ๊บก็บินต่อเลย ไม่ต้องพักนาน
- มีตารางเวลา บินเย็น ถึงตอนเช้า เวลาก็ไม่เลว
- ราคาแบบ Full Services บินระดับ Singapore Airlines ในราคา 10,350 บาท ต่อเที่ยว ถึงจะแพงไปซักนิด แต่ก็พอรับได้
ระบบ Filter ตามพื้นฐาน แต่ที่ชอบคือ มีแยกช่วงเวลาในการบินออก และ บินถึงเป็นช่วงเวลาแบบนี้ โดยส่วนใหญ่ถ้าบินไปญี่ปุ่นผมจะชอบบินกลางคืน แล้วให้ถึงตอนเช้า ทำให้ไม่เสียเวลาเที่ยวครับ
พอเลือก Flight ทั้งขาไปและขากลับเสร็จแล้ว ก็กรอก Contact Detail .. เพื่อให้รายละเอียดในการติดต่อ ซึ่งตรงนี้ดีตรงที่ว่า มันจองให้คนอื่นผ่าน App ได้ด้วย เพราะชื่อผู้โดยสารกับ Contact Detail จะเป็นคนละคนกัน หรือถ้าติ๊ก Add to passenger list ก็จะเอาชื่อ Contact Detail เป็นชื่อผู้โดยสารได้เลย
ชอบตรงกรอกรายละเอียดเสร็จ จะมีรายละเอียดน้ำหนักให้ด้วยครับว่าทริปนี้ของเรามีน้ำหนักได้เท่าไหร่ (30 กิโลกรัมนี่ก็พอจะขนจักรยานสินะๆๆๆๆ) ส่วนข้างล่างคือ Total Price ที่เป็นราคารวมจริงๆ เคยจองสายการบินนึง ตอนโปรราคานึง พอกดจองเสร็จกลายเป็นแพงกว่าเยอะมาก เพราะแอบเพิ่มข้าว เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มประกัน ในหน้าจอแล้วหลอกให้เราคลิกยอมรับแบบงงๆครับ มันทำให้เราต้องเสียเวลากลับไปหา Flight ใหม่ที่เป็นราคาที่เรารับไหวจริงๆ
แต่ Total Price ของ Traveloka นี่คือรวมทุกอย่างแบบทุกอย่างแล้ว ไม่มีหมกแต่อย่างใด ซึ่งราคานี้เป็นราคาที่เราเห็นตั้งแต่ตอนแสดงรายการค้นหาเลยครับ ซึ่งทำให้เราตัดสินใจเลือก Flight ได้จากตรงนั้นเลย
พอกรอกข้อมูลเสร็จแล้วทาง Traveloka จะส่งคำสั่งจองตั๋วไปยังสายการบินพร้อมกับสรุป Flight Detail มาให้เราครับ บอกหมดว่าออกจากที่ไหน กี่โมง ไปลงที่ไหน ใช้เวลาเท่าไหร่ มีอาหารให้หรือเปล่า แล้ว แต่ละ Flight มี Flight No. อะไรบ้าง และถ้าเป็น Late Night Flight ก็จะบอกด้วย เพราะเราจะได้ชุดเครื่องนอนขึ้นไปให้พร้อมบนเครื่อง
จองตั๋วเครื่องบินเสร็จก็ลองมาจองโรงแรมต่อ… การจองโรงแรมของ Traveloka จะมีสองแบบ จองโดยค้นหาจากสถานที่ที่คุณจะไป กับจองโดยค้นหาจากสถานที่ที่คุณอยู่โดยอ้างอิงจากตำแหน่ง GPS
ผลการค้นหา Best Result ออกมาเป็นโรงแรมดังต่อไปนี้ ….. เอิ่มมมมม APA Hotel Kokura Ekimae ก็แล้วกันนะ ที่เหลือมันแพงไปหน่อยวุ้ยยย สำหรับหน้าแสดงผลการค้นหาโรงแรมก็เหมือนกับของตั๋วเครื่องบินครับ
ราคาเป็นราคาที่เน็ตแล้วไม่มีบวกเพิ่มจากหน้านี้อีก
มีพิกัด GPS โรงแรมในหน้านี้เพื่อกดดูได้เลยจะได้ประเมินได้ว่าโรงแรมนี้มีทำเลดีอย่างที่เราอยากจะได้หรือเปล่า
มีระดับดาวของโรงแรมให้ด้วยว่าเป็นโรงแรมมาตฐานกี่ดาว
Rating จะมีสองค่าด้วยกัน คือค่ารีวิวของ Traveloka เอง กับ รีวิวที่ไปดึงข้อมูลมาจาก Trip Advisor .. ซึ่งเป็นรีวิวจากกองทัพนักเดินทางทั้งโลก เรียกได้ว่ามีถ้า Trip Advisor ช่วยรีวิวเนี่ย ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ ไม่ได้โม้ หรือถ้ามันจะมีโรงแรมที่แย่มากๆ ก็สามารถดูได้จากที่นี่เช่นเดียวกัน
ลองกดเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติม ก็มีภาพโรงแรม , Facility พื้นฐาน (WIFI กับร้านอาหาร) , ส่วนรีวิวของ Traveloka ยังไม่มีใครมาเขียนแฮะ ส่วน Trip Advisor มี 51 คนโดยได้คะแนนประมาณ 3 ดาวครึ่ง ก็ไม่เลวนะ
รีวิวเขียนชมไว้ค่อนข้างดี มีได้คะแนน 1 ดาวแค่ครั้งเดียว โดยที่ส่วนใหญ่จะเป็น 3 กับ 4 ดาว … เออ ไม่เลวแฮะ เอาที่นี่แหละ
พอกดจองเสร็จก็ถึงขั้นตอนการจ่ายเงิน โดยที่ช่องทางการชำระเงินนี่ทาง Traveloka ทำการบ้านมาดีมากครับ มีเกือบจะทุก Payment Gateway ที่คนไทยใช้ Credit Card ,Debit card (หลายๆที่ยังไม่รับชำระเงินผ่านบัตรDebit) , ATM , Counter Payment , Internet Banking แหม่ ขาด Line Pay นะเนี่ยยยยย ซึ่งการจองก็จะมีตัวเวลากำหนดไว้ด้วยว่า การจองของคุณจะมีผลค้างไว้ถึงเมื่อไหร่ ถ้าคุณไม่รีบชำระเงินมา เค้าต้องปล่อยทั้งตั๋ว และ ห้องนี้ ให้คนอื่นไปต่อนะครับ โดยที่ Time Limit ในการจองอยู่ที่ 1 ชั่วโมง 50 นาที (ก็แปลกดี ทำไมไม่เป็น 2 ชั่วโมงฟระ งง??) สามารถตรวจสอบรายละเอียดการชำระเงินเพิ่มเติมได้ที่ http://www.traveloka.com/th-th/howto#howToPayment
หลายๆคนที่ดูรีวิว ก็อาจจะมีความรู้สึกที่แตกต่างกัน บางคนอาจจะชอบว่าเออ Interface ใช้ง่ายดีแฮะ ชอบดี บางคนก็อาจจะบอกว่า เหมือนเจ้าเดิมที่ฉันเคยใช้เลย ใช้อันเดิมดีกว่า แต่ผมว่าสิ่งที่ทำให้แตกต่างกันในแต่ละยี่ห้อเนี่ย มันคือฐานข้อมูลโรงแรม และสายการบินว่าใครมีมากกว่ากัน รวมไปถึง ราคาที่ไปต่อรองจากสายการบินหรือแต่ละโรงแรมมาเนี่ยแหละ
สำหรับผมแล้ว ราคาที่มันค้นหามาได้ก็เป็นราคาที่ผมค่อนข้างพึ่งพอใจนะครับ เคยบินไปญี่ปุ่นช่วงโปรโมชั่นในราคา หมื่นนิดๆ แต่พบว่าทรมาณขั้นสุดจากความแคบของ Low Cost (เศร้าจริงเป็นคนตัวใหญ่) เลยอยากจะจองที่มันนั่งสบายๆดีกว่า
ปิดท้ายด้วยใน App จะมีปุ่มโปรโมชั่น พอเรากดเข้าไป ก็จะมี Code ให้เราไปกรอกกับการจองในแต่ละครั้งว่าจะได้ส่วนลดเท่าไหร่ แล้วแต่โปรที่ทาง Traveloka จัดมา
ใช้แล้วค่อนข้างน่าพึงพอใจ ยังไม่มีอะไรให้ติครับ ก็ถือว่าเป็นการมาเพิ่มความคึกคักให้ตลาดการท่องเที่ยวของคนไทยมากขึ้น
Download iOS : https://itunes.apple.com/th/app/traveloka-book-cheap-flight/id898244857?mt=8
Download Android : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.traveloka.android&hl=en