เมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ก่อน ได้มีโอกาสจับ Mi Notebook Air จาก Xiaomi เป็นเวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ ทำรีวิวอะไรได้ไม่มาก แค่มีโอกาสถ่ายรูปกับวัด Performance นิดหน่อย เลยเอามาเขียนเป็น Short รีวิวสั้นๆ ทิ้งไว้ซักหน่อยครับ
เล่าเรื่อง Xiaomi Notebook ให้ฟังแบบคร่าวๆซะก่อน เมื่อประมาณปลายเดือน 07/2016 ทาง Xiaomi ได้เปิดตัว Notebook เป็นของตัวเองสองรุ่นด้วยกันคือ Mi Notebook Air 13.3 กับ Mi Notebook Air 12.5 โดยที่สเป็คและการตั้งชื่อ กะมาชนกับ Macbook Pro Retina กับ Macbook Air โดยเฉพาะเลยล่ะครับ
พอดีทางรายการล้ำหน้าโชว์ได้มีโอกาสทำความรู้จักกับร้าน inwgadget ที่ขาย Gadget มากมาย และแกได้มีโอกาสสั่ง Mi Notebook Air 12.5 มาด้วยเครื่องนึง ทางรายการจึงติดต่อขอยืมมารีวิว ซึ่งมีคิวรีวิวสั้นๆเท่านั้นเองครับ (ประมาณ 1-2 วันที่ยืมมา และมาอยู่กับผมได้เพียง 2 ชั่วโมง)
เปิดกล่องออกมาตกใจมาก เฮ้ยยย ทำไมมันไม่มีโลโก้อะไรซักหน่อยประ มาแบบสีเงินโล้นๆมาเลยครับ ตัวบอดี้เป็น Borax Anodized สัมผัสตอนจับรู้สึกดีมากๆ
Accessories ในกล่องมีเพียง Power Adapter ที่เป็นหัว USB-C เท่านั้น แหม่ จะเหมือน Apple ไปไหนเนี่ย
ยกเครื่องออกมา ก็มีความบางประมาณนี้ครับ ด้านซ้ายของเครื่องเป็น HDMI Port กับช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม มีความบางของเครื่องประมาณ 14.8 มม.
Port ด้านขวาของเครื่องมีแค่ USB 3.0 กับ USB Type C ที่เป็นช่องชาร์จไฟ (ถ้าหาพวก USB Type-C Hub มาใช้ก็สามารถเพิ่มรูในการใช้งานได้นะครับ)
เทียบความบางกับ iPad Pro 9.7
ใต้เครื่องมียางรองกันกระแทกอยู่ 5 จุด พร้อมช่องลำโพงซ้ายขวา ต้องบอกว่าลำโพงเสียงดังมาก เสียงดังในระดับเดียวกับ Macbook Pro Retina เลยครับ
ตัวชิปเสียงในรับเทคโนโลยีจาก AKG หูฟังชื่อดัง พร้อมระบบ Dolby Audio (แต่อย่าไปคาดหวังอะไรมากเลยครับ ฮ่าา)
ตรงจุดที่เป็นตำแหน่งเปิดฝาเครื่องก็มีการทำร่องบากเอาไว้ให้เปิดได้ง่ายเหมือนพวก Macbook
Keyboard 6 แถวแบบ Chiclet ปุ่มค่อนข้างใหญ่พิมพ์ง่าย ระยะการกดบางกว่า Macbook Air แต่มากกว่า Macbook รุ่น Butterfly Keyboard ครับ พิมพ์ง่ายกว่า Butterfly เยอะมาก Trackpad ใหญ่มาก แต่เล็กกว่า Macbook Pro Retina นิดนึง และตัวคีย์บอร์ดสกรีนมาแต่ภาษาอังกฤษครับ ก็สบายตาดีนะ
ความแม่นยำของ Trackpad กับระยะกดค่อนข้างดีมากๆ ลื่นไหลพอๆกับของ Macbook Pro เลย แต่การทำ MultiTouch Scroll ยังไม่ดีเท่า ถ้าให้เปรียบความรู้สึกเป็นเปอร์เซนต์ก็คือได้ประมาณ 80-85% ของ Macbook Pro ครับ
จอภาพขนาด 12.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD เป็นจอที่ใช้เทคโนโลยีลดแสงสะท้อน อื้ม ตอนถ่ายรูปเพื่อทดสอบก็เห็นว่ายังมีแสงสะท้อนอยู่ดีนะ
ความบางของหน้าจอ ขออภัยที่ผมวัดขนาดอะไรไม่ได้เลย เพราะว่า ได้แต่ถ่ายรูปด่วนๆก่อนออกอากาศ ไม้บรรทัดจะวัดยังไม่มีเลย
มาดูประสิทธิภาพของ CPU บ้าง Mi Notebook Air 12.5 นิ้ว ใช้ Intel Core m3 Skylake ความเร็ว Core Speed ประมาณ 1Ghz ครับ อื้มม เน้นประหยัดพลังงานเลยสินะ
Ram แบบ DDR3 ขนาด 4GB เอาเข้าจริงผมว่าตอนนี้ Ram 4GB นี่ก็ไม่ค่อยพอใช้นะ โดน Browser สูบหมดเกลี้ยงโดยเฉพาะ Google Chrome
ในเครื่องเป็น SSD แบบ m.2 ครับ ขนาด 128GB ที่มีความเร็วในการ Read/Write สูงมาก พอๆกับ SSD ของ Macbook Pro เลย
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า หน้าตาจะดี ราคาไม่แพง SSD เร็วมาก เบากว่า และ ถูกกว่า Macbook Air ซักแค่ไหนก็ตาม แต่ Windows ที่ติดตั้งมา เป็น Windows 10 Home Single Language Edition และแน่นอนว่าเป็นภาษาจีนด้วย พร้อม Baidu ที่ Bundle มาแบบจัดเต็ม (แต่ขอบอกไว้ก่อน ถึงบ้านเราจะไม่ชอบแค่ไหน แต่ที่จีน เค้าคือ Google ของประเทศจีนเลยนะครับ) ดังนั้นการจะใช้งานเครื่องนี้ คุณก็ต้องมีความรู้ภาษาจีนกันหน่อยล่ะ
หรือไม่คุณก็ต้องไปหาซื้อ Windows 10 อื่นๆ มาติดตั้งทับลงไปเพื่อที่จะไม่ใช่ Windows 10 เวอร์ชั่นนี้นั่นแหละครับ โดยรวมแล้ว ผมว่าเอาไว้ทำงานเอกสาร เปิดเว็บ เล่น Social Network นิดหน่อย เรียกได้ว่า สบายแบบไม่ตึงมากนัก แต่อย่าไปคิดจะเอามาเล่นเกมอะไรล่ะครับ เพราะมันไม่ได้ออกแบบมาเพื่องานแบบนี้เลย ถ้าอยากจะเล่นพวกงานจริงจัง ไปเล่น Mi Notebook Air 13.3 ดีกว่า ตัวนั้น Core i5 + Ram 8GB + การ์ดจอ 940M เรียกได้ว่า หายใจคล่องกว่านี้มากๆครับ
สรุปว่าตัวนี้ คือ Macbook Killer เฉยๆ ยังไม่ถึงกับ Macbook Air หรือ Macbook Pro Killer ครับ ซึ่งถ้าเป็นเจ้า Xiaomi Notebook Air 13.3 เนี่ย ผมก็ว่าเป็น Macbook Pro Retina Killer กับเค้าได้เหมือนกันนะ
ปิดท้ายด้วยวีดีโอทดสอบ 3D Mark ครับ กระตุกยับจนรับไม่ได้ ฮาาาา