สำหรับเทคโนโลยีสำหรับการสร้างความเย็นอย่างต่อเนื่องที่เราใช้กันใน แอร์ หรือ ตู้เย็น ก็ต้องบอกว่า เทคโนโลยี Inverter เนี่ย เป็นอะไรที่ค่อนข้างใหม่ และ เพิ่มประสิทธิภาพ + ลดค่าไฟฟ้าได้อย่างจริงจัง สำหรับใครที่ไม่รู้ว่า Inverter คืออะไรเดี๋ยวผมจะเล่าที่มาที่ไปให้ฟังครับ
รูปแบบการทำงานของแอร์ที่เรารู้จักกันเนี่ย ก็คือ เมื่อ Compressor ทำงาน แอร์ก็จะทำงานโดยปล่อยลมเย็นออกมา จากนั้น เมื่ออากาศถึงจุดที่เราตั้งเอาไว้ แอร์ก็จะตัดการทำงาน พอห้องร้อนแอร์ก็จะทำงานใหม่ เรียกง่ายๆว่า แอร์จะตัดๆ ติดๆ ตลอดทั้งวันเนี่ยแหละครับ เพราะว่า มอเตอร์มันทำงานได้ที่ความเร็วเดียว คือ หมุนสุด กับ หยุดเลย อากาศเย็นในห้องมันจะแปลกๆ ก็คือ เย็นจัด จนถึงจุดที่ตั้งไว้ แล้วก็ค่อยๆอุ่นขึ้นจนเราเกือบจะร้อน แอร์ค่อยทำงานใหม่
แต่ระบบ Inverter เนี่ยเป็นอะไรที่เจ๋งมากตรงที่ เราสามารถคุมรอบของมอเตอร์ได้อย่างอิสระมากขึ้น
ถ้าอากาศร้อน มอเตอร์ก็ทำงานเร็วเพื่อให้อากาศในห้องเย็นเร็วๆ
พออากาศใกล้ถึงจุดที่เราเลือกเอาไว้ มอเตอร์ก็จะค่อยๆหมุนช้าลง เพื่อค่อยเลี้ยงอุณหภูมิในห้องให้คงที่ จากมอเตอร์ก็เดินรอบเบาๆไปเรื่อยๆ
ข้อดีของระบบ Inverter ก็คือ ห้องจะเย็นด้วยความเย็นที่คงที่ มอเตอร์จะไม่ติดๆดับๆทำงานแบบกระชาก เรียกว่าหมุนเบาๆต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ทำให้ประหยัดไฟกว่าแบบเดิมครับ
ทีนี้ ประสิทธิภาพของ Inverter ที่มันก็โอเคอยู่แล้วเนี่ย ถูกอัพเกรดให้มันดีขึ้นไปอีก โดยที่ทาง LG คิดค้นระบบที่ชื่อว่า Dual Inverter ครับ
ถ้าดูจากในรูปเนี่ย จะเห็นว่าตัวแกนปั่น มีแหวนหุ้มเอาไว้เพื่อสร้างแรงเหวี่ยงของมอเตอร์
แต่ระบบ Dual Inverter จะมีแหวนสองอัน ที่ติดตั้งเยื้องกัน เพื่มเพิ่มแรงเหวี่ยงให้มันมากขึ้นไปอีก
ข้อดีของระบบ Dual Inverter ของ LG ก็คือ มันจะทำให้มอเตอร์ทำงานได้เร็วมากขึ้นถึง 40% และสามารถเร่งรอบได้สูงกว่าเดิมจาก 100hz เป็น 120hz ครับ เพิ่มทั้งอัตราเร่งและเพิ่มทั้ง Top Speed นั่นเอง
ตอนนี้แอร์รุ่นใหม่ของ LG ที่เป็น Dual Inverter ก็เริ่มวางจำหน่ายแล้วนะครับ ก็คงจะมาเป็นไลน์อัพใหม่แทนรุ่นเก่าที่เป็น Inverter แบบปกติ เทคโนโลยีของวงการเครื่องใช้ไฟฟ้าเองก็เรียกได้ว่า มีของเจ๋งๆมายั่วให้เราอัพเกรดเรื่อยๆ ไม่แพ้วงการไอทีสายอื่น เช่นคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนเลยครับ โอ๊ย แค่นี้ก็จะหมดตัวอยู่แล้วเนี่ย ฮ่าๆ