Freeware.in.th
ผมเคยมี Notebook เครื่องแรกเมื่อประมาณปี 1999 ทำงานแทบตายเพื่อที่จะซื้อ Notebook เครื่องแรกเป็นขอวตัวเอง ในตอนนั้นคิดเสมอว่า การมี Notebook มาทำงานข้างนอกมันช่างเทพจริงๆ แต่ดันลืมคิดไปอย่างนึงครับ นั่นก็คือ ผมไม่ใช่โปรแกรมเมอร์ก็เลยไม่ได้เอา Notebook มาเขียนโปรแกรมนอกสถานที่กับเค้า
จริงๆแล้วตอนนั้นเรียน Network แถม Notebook มันมีแต่ Modem 56k ยังไม่ Buildin Ethernet มาเลย สรุปก็คือ Notebook เครื่องนั้นมีไว้แบกโชว์ป๋าเฉยๆ (เอาเข้าจริงๆก็คือเอาไว้เล่น Starcraft 1 นอกสถานที่แหละนะครับ) จนตอนนี้เทคโนโลยีเรื่อง Wireless เริ่มเป็นที่นิยมชนิดที่ว่า Notebook เครื่องไหนไม่มี Wireless LAN นี่ถึงขั้นเชยสะบัดและมองเย้ยกันด้วยหางตาเลยทีเดียว
ช่วงปีสองปีนี้ผมก็เลย Happy กับการใช้ Notebook ทำงานนอกสถานที่ เรียกได้ว่า ความฝันที่เคยคิดจะอยากทำ มาช้าแค่เกือบสิบปีเท่านั้นเอง True ไล่ติดตั้ง Internet รอบกรุงเทพกว่า 15,000 จุด ซึ่งผมก็ว่าดีนะ แต่สุดท้าย ผมก็ยังต้องเผลอไปทำงานในจุดที่มันไม่น่าจะมี Internet กันอยู่ดี จนเป็นที่มาของการหาซื้อ AirCard ซักตัวมาไว้ในครอบครอง ซึ่งผมก็ได้รับการติดต่อจาก @nsom ว่า สนใจไหม ได้การ์ดของดีมา ราคาไม่แพงมาก ไอ้ผมก็ใจง่ายซะด้วย เลยสอยมาตัวนึง นั่นก็คือ Sierra Wireless AirCard 875 ตัวนี้แหละครับ
สำหรับเจ้า Sierra Wireless AirCard 875 (เดี๋ยวขอเรียกว่าเจ้า 875 เฉยๆละกันนะครับ) ใบนี้เป็นการ์ดที่ขายแบบผูกค่าบริการอยู่ในระบบของ Cingular ที่อเมริกา ผ่านการปลดล็อคมาเรียบร้อยแล้ว สามารถออนไลน์ได้ทั้งโลก ว่ะ ฮ่า ฮ่า …
มาดู Spec ของการ์ดตัวนี้กันก่อนละกันนะครับ
Sierra Wireless AirCard 875
- Support TYPE II PCMCIA
- UMTS/HSDPA 850/900/1900/2100 Mhz
- EDGE/GPRS 850/900/1800/1900 Mhz
สนับสนุน 3G แบบ UMTS และ HSDPA ตั้งกะ 850/900/1900/2100 แบบนี้ผมยกไปเล่น 3G ที่เชียงใหม่ของ AIS ได้เลยนะเนี่ย แถมตอนนี้ DTAC ได้ License 3G แบบ 850Mhz จาก กทช มาแล้ว ทำให้ผมรู้สึกว่า การมีการ์ดใบนี้ไว้กับตัวนี้ คุ้มโคตรจริงจริ๊ง..
แต่เนื่องจากในกรุงเทพมีแต่ EDGE ให้ใช้ ก็ทดสอบกับ EDGE ไปก่อนละกัน ฮ่า…
อ่ะ ก่อนเข้าสู่การทดสอบ มาดูหน้าตาของ Package กันซะหน่อยนะครับ ว่าซื้อเจ้า 875 มาเนี่ย จะได้รับอะไรในกล่องมาบ้า
เมื่อเปิดกล่องมา ก็จะพบ ตัวการ์ด / CD โปรแกรม (ซึ่งไม่ต้องใช้นะครับ) / ใบรับประกัน และเอกสารแจ้งต่างๆมากมาย
ตัวการ์ดจะมีกล่องต่างหากใส่มาให้ ทำให้สะดวกในการเก็บลงกระเป๋า ไม่ต้องกลัวว่ามันจะไปขูดหรือได้รับความเสียหายจากของอื่นๆ
วิธีการเปิดก็สามารถเปิดแค่กล่องด้านตัวฝา หรือ จะเปิดยกทั้งกล่องเลยก็ได้ ก็เก็บได้สะดวกดีครับ
ด้านหลังของการ์ดก็เป็น ช่องใส่ SIM ซึ่งผมเลือกใช้่ EDGE ของ DTAC ครับ.. Data Channel เยอะกว่าของ AIS 3 เท่า ฮ่าาา
เอาล่ะ ได้เวลาทดสอบ Speed แล้วล่ะครับ
ในการทดสอบครั้งนี้ผมจะใช้ DU Meter จับความเร็วที่ได้ไว้ด้วยนะครับ แล้วก็เทียบกับการเปิดเว็บว่าใช้เวลากี่วินาที ในการเปิดเว็บต่างๆ รวมถึงการดาวน์โหลด
ไฟล์และโหลด Bittorrent ด้วย
สำหรับเครื่องที่ใช้ในการทดสอบของผมก็คือ
IBM-T61 7332-A22
Core2Duo(Y7500) 2.2Ghz / 3GB Ram / 120GB 5400rpm HDD
Windows Vista Ultimate SP1 นะครับ
Browser ที่ใช้คือ Mozilla Firefox 3.01
ตัวที่ใช้ในการจับความเร็วก็คือ Plugin ของ Firefox ที่ชื่อ Extended Status Bar นะครับ
สถานที่ที่ใช้ในการทดสอบ EDGE ครั้งนี้อยู่ที่ตึก SM Tower ชั้นที่ 35 ครับ
โปรแกรมที่ใช้ในการเชื่อมต่อเจ้า 875 นี่ชื่อว่า 3G Watcher ครับ ไปโหลดได้ที่ http://www.sierrawireless.com เพราะตัวที่อยู่ในแผ่นเป็นรุ่นสำหรับ 3G ในสหรัฐเท่านั้นนะครับ ความสามารถของ 3G Watcher นอกเหนือจากเป็นตัวควบคุมการเชื่อมต่อ ก็ยังสามารถใช้ส่ง SMS และทำ Profile ในการเชื่อมต่อกับหลายๆ Provider ได้อีกด้วย
เกริ่นมานานและ ขอทดสอบด้วยของประจำกันก่อนนั่นคือ Speed Test ครับ โดยผมเลือกใช้ Server ของ adslthailand.com ในการทดสอบครั้งนี้
ผลการทดสอบออกมา อยู่ที่ประมาณ Download : 151 kbits/sec , Upload : 33kbits/sec … ถ้าแปลงเป็น Byte ก็ประมาณ 18.875 kbyte : 4.125 kbyte
จากนั้นก็ทดสอบเปิดเว็บ โดยที่มีทั้งเว็บต่างประเทศและเว็บไทยนะครับ ไปกันทีละเว็บเลย
http://www.google.com ใช้เวลาทั้งหมด 17 วินาที
http://www.blognone.com ใช้เวลาทั้งหมด 18 วินาที
http://www.manager.co.th ใช้เวลาทั้งหมด 32 วินาที (นี่ก็ภาพเยอะ)
http://www.pantip.com/tech/all ใช้เวลาทั้งหมด 16 วินาที
http://www.zdnet.com ใช้เวลาทั้งหมด 1:11 วินาที (ภาพเยอะ,โฆษณาเยอะ, Flash ก็เยอะ)
ผลจากการโหลด Bittorrent (อย่าไปบอกหนุ่ยเขาล่ะครับ) ได้เต็มท่อที่ 24 kbyte/sec ครับ จริงๆมันก็ขึ้นอยู่กับ Peer อ่ะนะ พอดี ไฟล์นี้ Peer มันเยอะ
ผลของการใช้ DU Meter บันทึกความเร็วระหว่างการทดสอบ
Capture Video ตอนโหลด youtube มา
สรุปแล้ว การ์ดตัวนี้ อนาคตไกล เพราะสนับสนุน 3G ครบทุกย่านความถี่ ไม่ว่าบ้านเราจะเปิด 850 / 900 / 2100 ก็รับได้หมด ส่วน EDGE Speed ก็เต็มท่อ คิดซะว่ามี Internet ADSL 128k ติดตัวไปไหนมาไหนแหละครับ
