Broadband Internet หรือที่แปลเป็นไทยว่าอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเข้ามาในประเทศไทยได้เกิน 10 ปีแล้วนะครับ โดยเฉพาะ ADSL ที่เป็น Broadband Internet ที่มีคนใช้งานเยอะที่สุด ก็ให้บริการกันน่าจะสิบปีพอดีเป๊ะแล้วล่ะครับ ผมจำได้ว่า ตอนนั้น ผมติดตั้ง ADSL ครั้งแรก ความเร็ว 128Kbps / 64Kbps โดยที่เจอค่าใช้จ่ายเดือนละ 7,000 กว่าบาทเลยทีเดียว ผ่านมาสิบปี ตอนนี้ Internet ADSL ได้ขยายความเร็วให้มากขึ้น และ ราคาให้ถูกลง จนตอนนี้คุณสามารถติดตั้ง Internet ความเร็วสูงระดับ 10Mbps ได้ในราคาแค่ 500 – 600 บาท เท่านั้นเอง แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเลยในวงการ Broadband Internet ก็คือ ค่า Upload ครับ
เวลาเราใช้งาน Broadband Internet เราจะพบว่า เค้าจะพูดถึงความเร็วของการดาวน์โหลดอย่างเดียวเท่านั้น เช่น 10 Mbps , 20Mbps .. แต่ในความเป็นจริงนั้น Internet จะต้องทำหน้าที่ รับ และ ส่ง พร้อมกันด้วย ซึ่งความเร็วในการส่งนั้น ก่อนหน้านี้ดูจะไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ แต่ในช่วง 2-3 ปีนี้ ที่ชีวิตแบบ Social Network มันหลากหลายมากขึ้น จึงมีกิจกรรมอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้เราต้องใช้งานส่วนอัพโหลดเยอะมากขึ้น เช่นการ อัพโหลดวีดีโอหรือรูปภาพที่ถ่ายมาขึ้นไปยัง Social Network Site เหล่านีั้น รวมไปถึง สำหรับคนทำงาน ก็อาจจะต้องส่งไฟล์งานใหญ่ๆ ให้ลูกค้าอะไรแบบนี้
ซึ่งความเร็วในการอัพโหลดของ Broadband Internet ตอนนี้เรียกได้ว่า ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้ใช้งานแบบนี้ ที่ต้องการอัพโหลดเยอะมากๆ ก็เลยอยากจะหาทางเลือกสำหรับ Internet ที่มีความเร็วสูง / ราคาไม่แพง และ “ค่าอัพโหลดต้องสูงมากๆด้วย”
จนกระทั่งไปเจอตัว airnet เข้าครับ ตอนแรกที่ดู Package ก็ถึงกับงง ว่า โอ้ววว ใช้เทคโนโลยีอะไรฟระเนี่ย ทำไมให้ค่าอัพโหลดได้สูงขนาดนี้ แต่ราคากลับไม่ได้แพงหลุดโลกแบบพวก Leased line
ก็เลยไปค้นๆดูซักหน่อยว่า airnet ทำงานยังไง ถึงสามารถให้ค่าอัพโหลดที่มากขนาดนี้ได้ ก็เลยพบว่า เค้าไม่ได้ใช้เทคโนโลยีของการลากสายแบบที่เราใช้กัน แต่เป้นการยิงสัญญาณ Wireless LAN ระยะไกล ผ่านความถี่ 5Ghz ที่ไม่ค่อยจะมีใครกวน ตรงไปยังบ้านของลูกค้า ซึ่งเค้าก็จะขึ้นเสา ติดตั้งอุปกรณ์รับสัญญาณ Wireless แล้วก็ลากสายลงมาในบ้านเรา แล้วค่อยต่อกับ Router เพื่อที่จะแชร์ Internet ให้เราอีกทีนึงครับ [ ถ้าใครอยากอ่านเรื่องที่ผมอธิบายว่าทำไมจะต้องมีความถี่ 2.4Ghz กับ 5Ghz ใน Wireless อ่าน ที่นี่ เลย ]
ซึ่งผลที่ได้ก็คือ ข้อมูลที่วิ่งตรงมายังบ้านเราจะเป้น Bandwidth แบบเต็มๆ ทั้งอัพโหลด และ ดาวน์โหลด ในปริมาณที่เท่ากัน เช่น ถ้าขอติดตั้งโปรโมชั่นแบบ 10Mbps ก็จะได้ค่าอัพโหลดแบบ 10Mbps ไปด้วย
อีกเรื่องก็คือ การใช้งานระบบ airnet นั้น ไม่จำเป็นต้องใช้สายโทรศัพท์ ดังนั้นก็เลย ไม่ต้องขอเบอร์ รวมไปถึงไม่ต้องจ่ายค่าดูแลรักษาเบอร์อีกเดือนละ 107 บาท เหมือน ADSL ปกติด้วยครับ
ข้อดีของการใช้งาน airnet อีกข้อก็คือ บางครั้ง บ้านคุณอาจจะอยู่ในจุดที่ไม่สามารถให้บริการ ADSL ได้ด้วยข้อจำกัดของการลากสาย แต่ถ้าใช้ airnet ก็อาจจะไม่ต้องสนใจเรื่องลากสาย เพราะเราใช้ความถี่ไร้สาย ยิงตรงข้ามหลังคาถึงบ้านคุณเลยด้วยครับ
ขอบเขตของการให้บริการของ airnet 1 จุด จะอยู่ที่ 3 – 5 กิโลเมตร ทำให้ขยายพื้นที่การให้บริการได้ง่ายครับ
Package จะมี 2 แบบ ก็คือ แบบปกติกับแบบ Plus ซึ่งข้อดีของแบบ Plus ก็คือ จะสามารถทำ Port Forwarding ซึ่งเป็นความสามารถที่จำเป็นมากในกล้องวงจรปิด ดังนั้น ใครที่มี กล้องวงจรปิดที่บ้านแล้วอยากจะให้ดูกล้องจากนอกบ้านได้ ผมแนะนำให้ใช้งานแบบ Plus นะครับ
ส่วนองค์กร หรือ ร้านอินเทอร์เน็ตที่มีคนใช้งานเยอะๆ แล้วคิดว่า Package แบบ Home มันไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ทาง airnet เองเค้าก็มี Package แบบรุ่นใหญ่ให้บริการครับ ซึ่งถ้าเราเลือก Package นี้ จะเป็น Bandwidth ที่แยกต่างหากกับตัว airnet ปกติ เหมาะมากกับองค์กรที่อินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องจำเป็น ขาดไม่ได้ ที่สำคัญตัวแรงสุด สามารถดาวน์โหลดได้แรงถึง 70Mbps และ อัพโหลดได้แรงถึง 30Mbps เลยทีเดียว โอ๊ย อยากได้
และตอนนี้ ทาง airnet ก็มีโปรโมชั่นพิเศษออกมาใหม่ด้วยนะครับ นั่นคือ โปรที่ชื่อว่า “แรง เลือกได้” ในราคาแค่ 590 บาท ซึ่งนี่มันเป็นโปรโมชั่นในฝันของผมเลยนะ ขนาด ADSL ยังทำแบบนี้ไม่ได้เลย นั่นก็คือ ในราคา Promotion 590 บาท คุณสามารถเลือกได้ว่า คุณจะใช้ความเร็ว 7/7 ที่เน้นด้านอัพโหลด สูงถึง 7Mbps หรือ คุณจะเปลี่ยนเป็นโปรโมชั่น 10/4 ที่เพิ่มความเร็วในการดาวน์โหลดขึ้นไปสูงถึง 10Mbps แล้วลดอัพโหลดเหลือแค่ 4Mbps ภายใต้จำนวน Bandwidth ทั้งหมด 14Mbps ที่คุณได้รับ.. แต่ก็นะ ขนาด 4Mbps ตอนนี้ยังไม่มีใน ADSL ให้ใช้เลยครับ อ๊าก โปรนี้ยอดมากๆ
ตอนนี้ในหน้าเว็บของทาง airnet เองก็มีบริการหลายอย่าง ทั้งการแจ้งปัญหา , การชำระเงินออนไลน์ รวมไปถึงหน้า FAQ สำหรับข้อสงสัยที่ถามกันบ่อย ใครที่สนใจอยากจะลองติดตั้ง airnet กันที่บ้าน ผมก็แนะนำให้ลองอ่านหน้า FAQ กันดูก่อนนะครับ รวมไปถึง ถ้าอยากจะติดตั้งจริงๆ ก็ไปตรวจสอบพื้นที่ให้บริการกันก่อนนะครับ เพราะตอนนี้ airnet พึ่งจะเปิดให้บริการ ทางเจ้าหน้าที่ก็กำลังเร่งขยายพื้นที่ให้บริการอยู่ครับ
- ตรวจสอบพื้นที่การให้บริการ airnet
- อ่าน “คำถามที่ถามกันบ่อย” เกี่ยวกับ airnet
- ติดต่อตัวแทนจำหน่าย
อดใช้ ไม่มีบ้านผมในพื้นที่บริการ