ทุกทีผมจะไม่ค่อยได้สนใจงานแสดงเครื่องใช้ไฟฟ้ามากเท่าไหร่ครับ เพราะชีวิต Geek อย่างผม ชอบแค่ มือถือ คอมพิวเตอร์ Network แล้วก็เล่นเกมเท่านั้น แต่ปีนี้มันดันมีเรื่องที่ทำให้ผมต้องสนใจอุปกรณ์ไฟฟ้ามากขึ้น เพราะว่า ดันซื้อคอนโดเป็นของตัวเอง ก็เลยเข้าใจหัวอกนักช็อปเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหลายแล้วล่ะ ว่ามันเป็นยังไง
เมื่อวานมีธุระที่ The Mall บางกะปิ ก็เลยแวะขึ้นไปดูงาน Bangkok Electronica 2013 ซะหน่อย ขึ้นไปปั๊บก็เจอพิธีเปิดเลย อะไรจะพอดีขนาดนี้เนี่ย เลยต้องรอพิธีเปิดเค้าเริ่มก่อน ถึงจะเข้าไปเดินในงานได้
เนื่องจากเผลอไปลงทะเบียนเป็นนักข่าวด้วย ก็ขอทำตัวให้สมกับการเป็นนักข่าวหน่อย นั่นคือ การถ่ายรูปผู้บริหารนั่นเอง (ก็ไม่รู้จะถ่ายไปทำไม)
ซักบ่ายสามครึ่งพิธีเปิดก็เริ่มขึ้น โดยที่มีพิธีกรคือ คุณดีเจ PK ออกตัวแรงฉับไว พูดไทยและอังกฤษคล่องแคล่ว นับถือวุ้ย แน่นอนว่า Session ในส่วนนี้ผมเคยดูงานเปิดตัวมาซะจนเบื่อแล้ว เลยรู้คิวตามสไตล์พิธีเปิดมาตรฐานว่าเดี๋ยวจะมีอะไร นั่นก็คือ
- พิธีีกรเปิดตัวแบบฉับไว
- ผู้บริหารขึ้นพูดวิสัยทัศน์
- เซเลปขึ้นกล่าวให้ความเห็น
- ปิดท้ายด้วยโชว์เต้นๆแบบงงๆ
และมันก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ .. ฮ่าาา
แต่งานครั้งนี้จะมีพิเศษหน่อยตรงที่ท่านผู้บริหารได้กล่าวถึงสิ่งที่จะเรียกว่า Super Innovation Trend เป็นแนวโน้มของเทคโนโลยีปีหน้า แล้วก็ได้นำเอา Hilight ของสินค้าระดับเทพขึ้นมาโชว์หลายตัวด้วยกันครับ ผมเห็นแล้วก็อึ้งนะ เออแฮะ เอาของแบบนี้มาโชว์เปิดก็แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมเหมือนกันนะเนี่ย ของที่เอามาโชว์ก็จะมี
- Sony LED TV แบบ Ultra HD ที่รองรับความละเอียดระดับ 4K
- LG Ultra HD ที่เป็นทั้ง Smart TV , 4K และ สามมิติด้วย แม่เจ้า
- Sony RX1 .. กล้อง Compact ตัวแรกของโลกที่รองรับ Full Frame
- ระบบ สั่งการเครื่องปรับอากาศด้วย Smartphone จาก Samsung ..
- Tablet + Smartphone ของ Windows 8
และอื่นๆอีกเพียบครับ ตอนดูก็คิดในใจว่า เอาของพวกนี้มาโชว์นี่ค่อยสมเป็นงานเทคโนโลยีหน่อย นึกว่าจะขายของกันอย่างเดียวซะอีก และหลังจากที่พิธีเปิดเสร็จสิ้น ผมก็โฉบเข้างานไปดูของข้างในซักหน่อยครับ
บูทแรกที่เจอ ก็เป็น Sharp ครับ เจอกองทัพ LED TV จาก Sharp AQUOS เข้าไปที อลังการ์มากๆ งานนี้ Sharp ขนจอมาเยอะมาก และมี LED TV รุ่น 60/70/80 นิ้วมาขายด้วย ภาพโคตรบิดามารดาชัดเลยครับ
เดินเลยมาอีกหน่อย เป็นบูทเก้าอี้นวด OSIM .. โอ้โห โคตรเหมาะกับบ้านที่มี Home Theater ดีๆเลยครับ นั่งดูแล้วอย่างกะจะขึ้นไปขับยานได้จริงๆ ไอ้เก้าอี้พวกนี้มันแพงมาก แต่ผมเองก็เคยไปนั่งทดสอบนะมันก็สบายจริงๆ พวกรุ่นใหญ่ๆนี่เค้าเอาไว้ขายคนมีตังค์หน่อย สำหรับผมเนี่ย ชอบพวกรุ่นเล็กๆ หมื่นนิดๆ ที่มันเป็น Plugin เสริมให้โซฟาของเรานวดได้มากกว่า ฮ่า
บูทถัดมาก็เป็นโซน AV ครับ … เอ่อ ไม่ใช่ Adult Video นะ แต่มันมาจาก Audio and Video ตะหาก พวกโซน Home Theater นั่นเอง งานนี้ก็มากันหลายยี่ห้อครับ ทั้ง Yamaha , Marantz , Denon , Sherwood , Pioneer.. ซึ่งในปีนี้ ผมได้เห็นว่าวงการเครื่องเสียงบ้านมีการอัพเกรดตัวเองให้ทันสมัยมากขึ้น โดยที่จะมี Concept ตามภาพนี้เลยครับ
Concept ที่พวกวงการเครื่องเสียงวางเอาไว้คือ 4K Network ครับ อุปกรณ์ในอนาคตของวงการเครื่องเสียงจะต้องรองรับเรื่องต่อไปนี้ได้
- 3D Support
- Internet Radio
- Bluray
- Airplay (ระบบส่งเสียงและภาพไร้สายของ Apple)
- Setup Wizard ที่ช่วยให้ติดตั้งเครื่องเส่ียงได้ง่ายๆ
- รองรับ Remote App
- และมี Docking สำหรับ iPad , iPhone , iPod ให้เสียบแล้วเล่นได้เลย
ก็เห็นหลายตัวมากๆครับที่มาพร้อมกับความสามารถข้างบน อย่างเครื่องเสียงของ Denon เกือบทุกตัวจะมี Docking มาให้ และ ส่วนใหญ่ก็จะ Airplay ได้ด้วย
เดินมาทางฝั่ง Pioneer ก็มีมาครบทั้งเครื่องเสียงบ้าน รถยนต์ และที่ผมเห็นว่าแปลกดีคือตัวเครื่องเสียงพกพาตัวนี้ครับ หน้าตาอย่างกะ Bazooka แต่เสียบ iPhone ได้นะครับ มี Docking ในตัว
มาเดินงานนี้ผมก็เกือบเสียเงินแล้ว เจอ AV Receiver ของ Marantz ทำราคากับลำโพง Sattlelite ของ Harman Kardon ในราคาแค่ 35,900 บาท ซึ่งตัวนี้ทำ Airplay ได้ด้วยเสียงก็ดี ฟังได้ทั้งเพลง และ หนัง อูยยยย อยากได้อ่า
เดินวนๆออกมาทางทีวีอีกรอบ คราวนี้เจอ LED TV ขนาด 42 นิ้วของ TCL ที่ราคาแค่ 16,900 บาทครับ โอ้แม่เจ้า
ในงานนี้มีทีวีเทพๆหลายตัวครับ อย่างในรูปนี่เป็น Smart TV ของ Samsung ขนาด 75 นิ้ว!!! ลง Angry Bird เล่นได้เลย เพราะมีกล้องหน้าจับการเคลื่อนไหวของเราด้วย
ในงานนี้มีทีวีโคตรเทพหลายตัวมากๆเลยครับ อย่างเจ้านี่ก็คือ LG Ultra HD Smart TV 3D ที่ผมบอกไปครับ ขนาดหน้าจอ 84 นิ้ว เป็น Smart TV ต่อ Internet ได้ในตัว แถมระบบ 3D แบบโคตรชัด ส่วนราคาก็อยากจะบอกว่าซื้อรถได้คันนึงอ่ะครับ อ่อก..
Spec และ ราคาของเจ้า LG Ultra HD รุ่นนี้ครับ ราคาพิเศษลดแล้วเหลือ 599,990 บาทเท่านั้น
ส่วนเจ้านี่ก็คือ Ultra HD TV ของ Sony ที่รองรับไฟล์ขนาด 4K ครับ ถ้านึกไม่ออก มันชัดกว่าไฟล์ Full HD 1080p ถึง 4 เท่าด้วยกันครับ 3834 x 2160 pixel อ่ะครับ มหาพระกาฬมากๆ ราคาก็ซัดไป 599,000 ครับ ใครแสวงหาความชัด ก็ยกเจ้านี่ไปตั้งบ้านได้เลยครับ
เดินออกจากเครื่องเสียงไปดูกล้องกันบ้าง งานนี้มีหลายตัวมาลดราคาเยอะครับ แต่ที่แจ๋วๆก็มีตัวนี้ครับ เป็นกล้องสามมิติของทาง JVC ราคา 35,990 บาท เท่าชุดเครื่องเสียงที่ผมอยากได้เลยวุ้ย แต่น่าสนใจมากนะครับ
ข้างๆก็เป็นกล้องพกพาแบบ Full HD ของ JVC เป็นกล้องไร้สายนะครับ เจ้าหน้าที่เค้าทดสอบด้วยการเอามาติดกับรถบังคับวิทยุแล้วก็ขับโชว์ให้ดู
แจ๋วมากเลยครับ โคตรเหมาะกับการถ่ายหนังเลยครับ ขนาดเล็กดีด้วย ตัวนี้ผมชอบเลยนะ เพราะด้วยขนาดที่เล็กของมัน สามารถเอาไปติดตั้งในมุมแปลกๆได้เลย
Hilight อีกตัวครับ เจ้า Sony Cybershot RX1 กล้อง Compact แบบ Full Frame ตัวแรกของโลก โอ เจ้านี่แหละทำเอาตากล้องหลายคนที่มาในงานกริ๊ดกันเป็นแถว
เดินโฉบมาเรื่อยๆก็มาเจอ Panasonic Beauty ครับ เป็นอุปกรณ์เสริมความงานทั้งหมดของ Panasonic สำหรับคุณผู้หญิง ผมไม่ยักกะรู้ว่าวงการนี้มันล้ำหน้ายิ่งกว่าวงการ IT อีกนะเนี่ย มีไดร์แปลกๆ ปรับความร้อนได้หลายระดับ ที่ม้วนผมอลังการ์ที่จะแปลงหัวคุณให้กลายเป็นเกลียวแบบโปเต้ แถมมีเครื่องอบไอน้ำหน้าแบบใช้ในบ้านด้วย โอ สาวๆนี่น่ากลัวจริงๆ
และเจ้านี่ก็คือ เครื่องให้ความชุ่มชื้นแก่นัยน์ตาครับ ใช้ตอนก่อนนอน จะทำให้ดวงตาเราลดความล้าลง แถมยังสั่นได้ 3 ระดับเพื่อนวดหน้าเราได้อีกด้วย
อันนี้เป็นเครื่องนวดพกพา ผมลองแล้วมันจั๊กจี้ดีครับ แต่ก็สบายนะ ถ้าเอามานวดหัว
อันนี้คือ เตารีดไร้สาย ครับ เวลาเห็น @joyz รีดผ้าผมก็รู้สึกว่า สายไฟมันโคตรน่ารำคาญเลย เค้าเลยทำเตารีดไร้สายหน้าตายานอวกาศตัวนี้ออกมา ลองยกๆมารีดดู พบว่าหนักเหมือนกัน แต่ถามเจ้าหน้าที่เค้าบอกว่า หนักๆเนี่ย แม่บ้านชอบ เพราะว่าทำให้รีดเรียบ .. เอิ่ม .. เตารีดหรือดัมเบลฟระเนี่ย
เดินมาอีกบูทนึง อันนี้เป็นเครื่องปรับอากาศครับ จาก Samsung เป็นรุ่นที่เชื่อมกับพวก Smartphone ได้ ทำให้เราสั่ง เปิด-ปิด แอร์จากนอกบ้านได้ เช่นก่อนกลับถึงบ้านซัก 15 นาที ก็เปิด Smartphone แล้วก็สั่งให้แอร์ทำงานเลย พอเข้าบ้านปั๊บ เย็นฉ่ำพอดี อะไรแบบนี้ เอ้อ ผมว่าแจ๋วนะ
ย้ายมาดูอะไรที่เราพอจะเข้าใจบ้างดีกว่า นั่นคืออุปกรณ์ IT ครับ ในงานนี้ก็มีบูทของ Lenovo , HP , Acer , Asus มาออกบูทด้วย จะมีเครื่องมาทำโปรโมชั่นเทพๆหลายตัวเลย อย่างในรูปก็คือ Lenovo G780 ที่เป็นจอ 17 นิ้วครับ พร้อม Full Keyboard ที่มากับ Keypad เลย Spec ก็ไม่เลว แถมราคาแค่ 23,900 บาทเท่านั้นเอง
เดี๋ยวนี้ 10,990 บาท ก็หา Notebook ที่สเป๊คกลางๆได้แล้วนะครับ ตัวนี้คือ G480 ของ Lenovo ครับ ซื้อมาก็ใช้ได้ 1-2 ปีสบายๆ สำหรับคนงบน้อยมาก
และสำหรับสำนักงานที่อยากหาเครื่องให้ธุรการทำงาน แค่ 12,990 บาท ก็ได้ All in One หน้าจอ 20 นิ้วไปให้พนักงานทำงานแล้วครับ การ์ดจอเป็น Radeon 6320G ด้วย อาจจะไม่แรงแต่ก็พอไหวนะครับ
หรือถ้ามาดู HP ก็จะได้ Spec ที่ใกล้เคียงกันเลย ในราคาเท่ากันคือ 12,990 ครับ แต่ตัวนี้การ์ดจอแรงกว่านะ
Acer Timeline ตัวนี้หน้าจอสัมผัส รองรับ Windows 8 แล้วด้วย
แล้วก็ปิดท้ายด้วยเจ้านี่ละกันครับ Asus Vivo Pad .. Ultrabook จากทาง Asus ที่สามารถดึงหน้าจอออกมาเป็น Tablet ได้
และเมื่อประกบร่างกับ Keyboard ก็จะมีความบางขนาดนี้ครับ ผมว่าแจ๋วมากเลยนะ เป็น Windows 8 ด้วย ใช้ทั่วไปก็ทำงานบน Tablet Mode .. ถ้าอยากนั่งทำงานจริงจังก็เสียบ Keyboard ทำงานได้เลย เหมาะสำหรับนักธุรกิจที่ต้องทำงาน non-stop ตลอดเวลาจริงๆครับ
งาน Bangkok Electronica 2013 จัดตั้งแต่ 19 ธ.ค. 2012 ไปจนถึงปีหน้า วันที่ 2 มกราคม 2013 เลยนะครับ ที่ MCC Hall The Mall บางกะปิ ใครไปถึงแล้วอดใจไม่ไหวก็มี Promotion จากสารพัดบัตรมาให้วู่วามกันให้เพียบครับ
ลำโพง Pioneer รุ่นนี้ มีขายตั้งแต่ 2 ปีแล้วเลยนะครับ
อาจารย์ครับ ขอถามหน่อยครับผมกำลังอยากจะเปิดร้านเกมนะครับ ไม่ทราบว่า all in one ที่เห็น ผมพอจะเอาไปทำเป็นเครื่อง client แบบ diskless ได้รึเปล่า ครับ 2 ประเด็นครับ
1. อาจารย์คิดว่าผมจะเอาไปเล่นเกมออนไลน์ได้รึเปล่าครับว่าจะทำสัก ประมาณ 15 เครื่องนะครับคือไม่อยากเปลืองพื้นที่แบบมี case นะครับ อีกอย่างรูปทรงก็สวยพอใช้ แบบว่าอยากได้ environment ดีๆในร้านนะครับ เล่น เกม เล่น เน๊ตออนไลน์ตัวไป ไม่เน้นพวกเกมออฟไลน์กราฟฟิกโหดๆครับ แต่เล่น ก็ประมาณ Dota หรือ ทั่วๆไปที่เค้าเล่นๆกันอยู่ทุกวันนี้นะครับ
2. ผมอยากจะทำร้านแบบ diskless ไม่ทราบว่าพวกนี้จะเอาไปทำได้รึเปล่าครับ เห็นว่าต้องมี gigalandcard ด้วย ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าจะต้องเสริมอะไรเข้าไปีอกรึเปล่าครับครับ รบกวนดีครับ
1. Diskless ต้อง Gigabit LAN แล้วก็ต้องรองรับการทำ Boot ผ่าน LAN ด้วยตัวนี้ผมว่าไม่ใช่ Gigabit lan น่ะครับ
2. การ์ดจอไม่ไหวหรอกคร้าบ แต่ DOTA ก็สบายๆ
3. ซื้อพวก set diskless โดยตรงเลยดีกว่าครับ
ไป post ถามที่เว็บบอร์ด beartai.com ครับ ที่นี่มันคนละเรื่องกันนะ