ตอนนี้กลายเป็นว่าอุปกรณ์ประเภท Tablet กลายเป็นอุปกรณ์ประจำกายของพิธีกรแบไต๋ครบทุกคนแบบขาดไม่ได้ไปแล้วนะครับ และที่สำคัญ กลายเป็นว่าปีนี้ พิธีกรแบไต๋ทุกคนเปลี่ยนเป็น iPad mini กันหมดเลย ด้วยเหตุผลที่ว่า “เบาโคตร” นั่นเองครับ เพราะสังขารของพวกเราชักไม่ไหวแล้วนั่นเอง ฮ่าๆ..
และก็เหมือนกับทุกท่านแหละครับ เวลาใช้อุปกรณ์พวกนี้ หนึ่งในความสุขของการใช้มันก็คือ หาอุปกรณ์มาอัพเกรดมันนี่แหละ และหนึ่งใน Accessories ที่ขายดีที่สุดในโลกชิ้นนึงตั้งกะ Apple ทำ iPhone ออกมาก็คือ เคส นี่แหละครับ
ผมเองก็มองหาเคสที่จะมาใช้งานกับเจ้า iPad mini นี่เหมือนกันโดยที่มี requirement ดังต่อไปนี้ครับ
- ป้องกันรอบตัวได้ดี
- แกะออกได้ง่ายโดยที่ไม่ทำให้เครื่องเป็นรอย
- รองรับการเปิดหน้าจอด้วยแม่เหล็ก
- จับถนัด ไม่ลื่น
- ราคาไม่เกิน 1,500 บาท
ก็เดินหาไปเรื่อง ทั้งเคสแพงๆ และเคสก็อปทั้งหลายแหล่ ยอมรับว่าเกือบเผลอใจให้กับ Smart Cover ไปหลายทีเหมือนกัน แต่มันไม่ได้คุ้มกันทั้งตัวเลยไม่ค่อยกล้าใช้เท่าไหร่ ถ้าต้องซื้อฝาหลังมาปิดด้วย ก็ดูจะยิ่งเปลืองเงิน
จนได้มีโอกาสเดินไปโฉบที่ iStudio by SPV สาขา Central พระราม 9 ครับ พอดีว่า มีพนักงานในร้านเป็นแฟนรายการ (ขอบคุณมากคร้าบ) ซึ่งพนักงานท่านนั้นก็ได้แนะนำเคสรุ่นนี่ ชื่อว่า SVELTE ORIGAMI …
หลายคนเห็นลงท้ายด้วยย กามิๆ อย่าเข้าใจผิดว่ามันเป็นเจ้าเดียวกับถุงยาง ซากามิ นะคร้าบบ คนละอันกัน
อันนี้เป็นเคสที่ได้รับรางวัล reddot award 2012 มาจากประเทศญี่ปุ่นด้วยการออกแบบเคส iPad ที่ไม่เหมือนใครครับ
คำว่า Origami ภาษาญี่ปุ่น ก็คือ กระดาษพับครับ เคสนี้ใช้หลักการพับฝาหน้าจอเพื่อสร้างเป็นองศาแปลกๆในการวางจอนั่นเองครับ ผมเห็นไอเดียครั้งแรกก็ปิ๊งเลย พอลองดู Package ก็พบว่ามันตรงตาม requirement ที่อยากได้ทุกอย่างเลยสอยมาเลยครับ
ตัววัสดุเป็นผ้าแบบสักหลาด สีดำ จับแล้วไม่ลื่น น้ำหนักเบา และถ้าเป็นผ้านี่ก็มั่นใจได้ว่าไม่น่าจะกินขอบเครื่องตอนแกะนะ..เคสเก่าของผมเคยใส่แบบพลาสติก แล้วพอใช้ไปนานๆ ปรากฏว่าตัวพลาสติกมันไปสะกิดกับขอบของ iPad กลายเป็นรอยหมดเลย
เครื่องก็สีดำ เคสก็ดำ ถ่ายรูปออกมาอาจจะดูยากซักหน่อยนะครับ
Port ต่างๆถูกเจาะช่องออกมาให้พอดี ทั้งลำโพงและช่อง Lightning
ด้านหลังก็ครอบคลุมทั้งตัวเครื่องครับ รูสำหรับเลนส์ก็เจาะเอาไว้ใหญ่พอดี เรียกได้ว่า ไม่น่าจะมีขอบเคสไปขวางเลนส์ตอนถ่ายรูป
ฝาหน้าของพวกเคส iPad ทั่วไปจะเป็นลักษณะแบบ หมอนสามเหลี่ยมที่เราเคยเห็นกันแบบทุกที ผมก็ว่ามันออกแบบดีแล้วล่ะ แต่แบบนี้มันก็แจ๋วดีเหมือนกัน
เราสามารถพับได้ทั้งหมด 3 แบบด้วยกันครับ แบบนี้เรียกว่า Horizontal Stand ก็คือวางในแนวนอนนั่นเอง
แบบนี้เรียกว่า Multi Angel Stand ก็คือ สามารถยกตัวที่ยันหลัง (เป็นแม่เหล็ก) เพื่อยันในมุมที่ต่างๆกันได้ เผื่อเราอยากได้มุมที่แปลกจากมุมมาตรฐาน
มุมนี้ก็คือการวางแนวตั้งครับ เท่าที่ผมลองใช้ดู ก็ดูมั่นคงไม่โยกเยกนะ สามารถวางทิ้งไว้แล้วกด สั่งการบน iPad ได้เลยโดยที่ไม่ต้องกลัวล้มแต่อย่างใด
ใครชอบใจก็ไปสอยได้นะครับ ราคา 1,390 บาทที่ iStudio แต่ผมก็ไม่รู้ว่ามีทุกสาขาหรือเปล่านะ
ถามหน่อยครับว่าส่วนด้านหน้านั้น ดูดติดเครื่องมั้ยครับ
ดูดคับ เป็นแม่เหล็ก
ฮาคัวร์สุดยอดครับ! (ไม่ใช่ละ)
เป็นสักหลาดนี่จะมีฝุ่นมาติดหรือเปื้อนง่ายไหมครับ