ประมาณปี 2011 ได้มีโอกาสทำให้ความฝันเป็นจริงนั่นก็คือการได้ไปดู คอนเสิร์ตของ X-Japan .. ครั้งนี้ความฝันเป็นจริงอีกครั้งกับ Luna Sea ครับ … Blog ตอนนี้ก็เป็นการเล่าเพื่อเก็บบรรยากาศและความทรงจำของผมอีกเช่นเคยครับ
สำหรับคนที่ฟัง X-Japan แล้วติดใจ มันเป็นเรื่องที่แน่นอนว่าจะหาวงที่คล้ายๆกันมาฟัง ซึ่งก็ไม่พ้น 3 วง J-Rock หลักๆของประเทศญี่ปุ่นเค้า นั่นก็คือ L’arc-en-cial , Luna Sea และ Glay นั่นเอง .. โดยที่ L’arc-en-cial มาเปิดคอนเสิร์ตบ้านเราไปแล้ว แต่ผมเองไม่ได้ไป เพราะส่วนตัวก็ไม่ได้เป็นแฟน L’arc-en-cial มากขนาดนั้น เพราะผมเป็นแฟนของ Luna Sea มากกว่า ส่วน Glay ก็กำลังจะมี World Tour มาประเทศไทยช่วงประมาณเดือนมิถุนายนนี้ กำลังคิดว่าจะไปดีหรือเปล่า เพราะฟัง Glay มาบ้าง แต่ก็ไม่ได้ถึงกันเป็นแฟนเหนียวแน่น
ก็ขอเล่าซักหน่อยว่าผมไปพบเจอกับ Luna Sea ได้ยังไง .. เรื่องก็คือ สมัยที่ผมเรียนที่ ABAC ตอนนั้นผมเองก็ฟัง X-Japan มาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว ก็พอขึ้นมหาลัย ก็พอจะมีเงินค่าใช้จ่ายเหลืออยู่บ้าง ก็เลย ลองหาวงอื่นนอกจาก X-Japan มาฟังครับ โดยที่ตอนนั้น ผมไปสะดุดตากับเทปของวง Luna Sea อัลบั้ม Mother ตอนนั้นบอกตรงๆว่า ไม่เคยฟัง ไม่เคยได้ยิน ไม่รู้ด้วยว่า Luna Sea เป็นวงยังไง แต่ปกมันดึงดูดใจผมมากๆ เรียกได้ว่า เป็นการซื้อที่วู่วามสุดๆ เพราะไม่ได้ทำการบ้านมาเลยแม้แต่น้อย ซิ้อเสร็จปั๊บก็ยัดเทปเข้าเครื่องเสียงในรถแล้วก็ขับรถกลับบ้าน
เรียกได้ว่า ตกใจมาก เพราะมัน มันสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส์โคตรๆ ทุกเพลงเลยจริงๆครับ ขับรถไป โยกหัวไป เสี่ยงต่อการเอารถทิ่มกับเสาไฟฟ้าแบบสุดๆ นับจากนั้นผมก็ยกให้ Luna Sea กลายเป็นวงโปรดอันดับสองรองจาก X-Japan และเป็นหนึ่งในเทปที่ผมยัดฟังค้างไว้ตอนขับรถบ่อยสุดๆ และตอนนั้นที่ ABAC ก็จะมีร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ที่มีบริการให้เช่าแผ่น CD เพลงจากญี่ปุ่นไปฟังด้วย ชื่อร้านว่า 316 .. ใครทันก็แปลว่าอายุใกล้ๆกัน เรียนพร้อมๆกันล่ะครับ ที่ร้านก็จะมี CD Single ของ Luna Sea มากมาย ผมก็เลยเช่าแผ่นมาอัดลงเทปไว้เพื่อฟัง ซึ่งตอนนั้น ก็มีแค่ร้านนี้แหละครับ ที่จะเป็นแหล่งในการติดตามเพลงของ Luna Sea .. (ซึ่งจริงๆ มันก็ไม่ได้อัพเดทบ่อยอะไรมากหรอกครับ จนตอนหลังผมไปติดตามผ่านเว็บ http://www.visual-shock.com/ ซึ่งคนทำตอนนั้นทำเว็บที่ลงรายละเอียดของวง J-Rock เอาไว้เยอะมาก แต่ตอนหลังแกโดนฟ้องเรื่องเอารูปภาพมาใช้ในเว็บ เลยโกรธ แล้วก็ไม่ทำอีกเลย โคตรเซ็ง
หลังจากนั้น ผมก็ซื้อเทป ซื้อซีดี เรื่อยมาติดตามวงแบบตามมีตามเกิดเท่าที่เด็กมหาลัยจะทำได้ครับ แต่ตอนปี 2000 Luna Sea ก็ประกาศแยกวง เป็นการใจสลายรอบสองต่อจาก X-Japan เลยล่ะ แต่ข่าวดีก็กลับมาอีกครั้งตอนปี 2007 ที่พวกเขากลับมารวมตัวกันอีกรอบ คราวนี้ผมก็รอ World Tour Concert เลยครับ ไม่รู้จะมาหรือเปล่า และ BEC TERO ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ
และเมื่อวันที่ 5 กพ ที่ผ่านมา คอนเสิร์ตของ Luna Sea ที่ชื่อว่า The End of the Dream World Your ก็มาถึงประเทศไทยครับ
ผมมาถึงประมาณบ่าย 2 เจ้าหน้าที่ก็กำลังตั้งบูทขายของที่ระลึกกันอยู่พอดีเลยล่ะครับ มีของเพียบ ทั้งเสื้อของ World Tour , Jacket , Case iPhone , ผ้าขนหนู , ผ้าเช็ดตัว และ กางเกงใน Luna Sea ก็ยังมีเลยล่ะครับ
คนมารอซื้อกันเยอะมาก แต่ทุกคนก็ต่อคิวกันอย่างเป็นระเบียบดี เจ้าหน้าที่เองก็มีสินค้าตัวอย่างให้ดูก่อนตัดสินใจซื้อด้วย แต่ราคาก็โหดเอาเรื่องสมกับเป็นของที่ระลึกจาก Concert เลยล่ะครับ
ผมสอยมา 3 อย่างด้วยกัน นั่นก็คือ เสื้อ World Tour , Wristband แล้วก็ Case iPhone 5 ครับ สามอย่างรวมกัน ล่อไป 2,100 บาท จุกเอาเรื่องเหมือนกัน
เพื่อนซี้ผมเอง ชื่อวิทยา เป็นอินเดียที่พูดอินเดียไม่ได้เลย แต่ชอบ J-Rock สุดๆ เป็นเพื่อนกันมาจะ 20 ปีแล้ว เรียนด้วยกันมาตลอด
บรรดาแฟนๆก็เตรียมป้าย Banner มาด้วย มีคนมาเซ็นเยอะมาก ทั้งภาษาญี่ปุ่น ไทย และ อังกฤษครับ ขนาดมาตอนบ่าย ยังไม่เหลือที่จะให้เซ็นแล้วเนี่ย
สุดท้ายก็หาได้หลืบนึง เลยเซ็นไว้ว่า ” เป็นแฟนวงคุณมา 14 ปีแล้วนะ จาก @ripmilla”
ถ่ายเป็นที่ระลึกซักหน่อย ขนาดอายุ 34 แล้วยังรู้สึกเหมือนเด็กๆที่วิ่งเข้าไปกริ๊ด ดารา เลยครับ ฮ่าาาา
ช่วงประมาณ 4 โมงกว่าๆ ก็มีแฟนๆ เตรียม Banner มาอีกป้ายนึง ก็เลยขอเซ็นอันนี้กับเค้าด้วย ประโยคก็ข้อความเดิมแหละครับ แต่เนื่องจากผืนนี้ยังไม่มีใครเซ็นเลย ก็เลยเลือกตำแหน่งดีๆในการเซ็นได้ ฮ่าๆๆๆ
โฉมหน้าเคส iPhone5 ที่ซื้อมาครับ คุณภาพดีกว่าตอนที่ X-Japan มาอีกนะเนี่ย ซื้อมาแล้วก็ใช้แค่ในงาน ตอนนี้เก็บลงกล่องไว้เป็นที่ระลึกไปแล้ว
ช่วงประมาณก่อนทุ่มก็เตรียมความพร้อมแปลงร่างเป็นสาวก Slave ก่อนเข้าไปใน Concert Hall
ที่นั่งของผมคือ โซน A แถวหลังสุดเลย นี่ขนาด ซื้อตั๋ววันแรกนะเนี่ย ยังโดนไล่มาไกลซะขนาดนี้ แต่ต้องบอกว่า งานนี้เนื่องมาจากตั๋วเองก็ขายออกไปได้ไม่เยอะเท่าไหร่ ทาง BEC TERO ก็เลยเลื่อนเวทีเข้ามาอีก เพื่อทำให้คนเบียดกันมากขึ้น ผมก็ว่าดีนะถ้าคนดูโล่งๆ คงไม่สนุกเลยล่ะ
ที่นั่งของผมอยู่ด้านหน้าทีม Sound เลยล่ะ มี Sound Engineer ทั้งญี่ปุ่นและฝรั่งเพียบบบ
ภาพ Panorama เวทีด้านหลังผม คนยังโล่งๆอยู่เพราะว่า ถ่ายตอนที่พึ่งจะเริ่มเปิดประตูเลย
ตี๋และอินเดีย พร้อมลุย Concert ของ J-Rock แล้วคร้าบบบ
ต้องบอกว่า Concert ครั้งนี้ผมประทับใจมากๆ ตั้งกะเพลงแรกยันเพลงสุดท้ายเลย เพราะว่า เลือกเพลงมันส์ทุกเพลงครับ แถมเสียงดีมาก ยกนิ้วให้ทีม Sound เลยครับ ดีกว่าตอนที่ X-Japan มา อย่างมาก แถมทั้งวงเล่นแบบเต็มที่ไม่มีกั๊ก เปิดตัวมาเพลงแรกก็คือ Loveless เพลงแรกจาก Album Mother เลย เป็นเพลงแรกที่ผมได้ฟังจาก Luna Sea และก็เป็นเพลงแรกที่ได้ยินแบบสดๆด้วย
ต้องบอกว่า Concert ครั้งนี้เหมือนนั่งรถไฟเหาะมากๆ เพราะแทบไม่มีการพูดคุยซักเท่าไหร่ ต่างกับตอน X-Japan ที่มีเบรค มีพักคุยบ้าง มีทักทายกันบ้าง แต่ของ Luna Sea ใส่เพลงต่อเนื่องแบบปืนกลมาเลยล่ะครับ
ทุกคนในวงก็เป็นกันเองมาก Ryuichi ยังคงเสียงดี ไม่มีตก , Sugizo ก็ยังคงความเป็น มาดาม เหมือนทุกครั้ง ทำอะไรก็มีคนกริ๊ดตลอด , J กับ Inoran งานนี้ได้ใจแฟนๆชาวไทยไปเต็มๆ เพราะว่าโคตรเท่ และคนที่ผมชอบที่สุดในวงคือ มือกลอง ชินยะ ครับ ตีโคตรมันส์ แถมตอนช่วง Drum Solo ก็เป็นคนที่เล่นกับคนดูเยอะที่สุด เป็นหนึ่งในมือกลองที่ผมโคตรชอบเลยครับ จังหวะจะโคนในการหวดช่างกระชากวิญญาณ
แถมงานนี้สาวๆคงได้กริ๊ดกับฉากจิ้นกันมากมายของเหล่าสมาชิกในวง ไม่ว่าจะเป็นฉาก Sugizo กับ Inorun โซโล่กันแบบหน้าชิดใกล้ , ฉากที่ริวอิจิถอดสูทออกครึ่งตัวให้เห็นผิวขาวใต้เสื้อ โอ้โห กริ๊ดกันแทบ Hall ทลายเลยทีเดียว
ช่วงที่มันส์ที่สุด ก็คือ เพลงเร็วต่อเรื่อง 5 เพลงรวดครับ ได้แก่ The End of the dream , Bass Solo , Storm , Desire , Rosier แล้วปิดด้วย Tonight โดยเฉพาะตอนเพลง Rosier ขึ้นมา ผมเห็นสาวก Slave หลายคน น้ำตาไหลกันเลยทีเดียว พร้อมกับกระโดดและตะโกน Rosier ไปพร้อมกันทั้ง Hall ภาพนั้นมันโคตรฟินเลยครับ
http://www.youtube.com/watch?v=-bCioPFkLuM
http://www.youtube.com/watch?v=Echs6aK9-Xo
จบจากเพลงรัวแบบ Non Stop ทั้งวงก็กลับไปพักหลังเวที ซึ่ง ทุกคนก็ร้อง Encore ด้วยการเรียก Luna Sea กลับมาด้วยเพลง Love Song ครับ ครั้งนี้ Encore กันไม่นานเหมือนตอน X-Japan .. รอบนั้นขอ Encore กันเกือบครึ่ง ชม. รอบของ Luna Sea ก็รอกันประมาณ 10 นาทีครับ แล้วทั้งวงก็กลับมาเล่นเพลงช้าบ้าง โดยที่เพลงที่เลือกมาก็เป็นเพลงดังประจำวงที่แฟนๆชาวไทยรู้จักกันดี นั่นก็คือ I FOR YOU แน่นอน กริ๊ดลั่น Hall กันอีกเช่นเคย
ปิดท้ายด้วย Wish เพลงจบ Concert ประจำวง Luna Sea งานนี้ผมกับเพื่อนโดดกันจนผอมเลยล่ะ พวกเราร้องและตะโกนกันจบคอแทบแตก กับความฝันวัยเด็กของพวกเราครับ
ช่วงท้าย ก็มีการแนะนำตัว สมาชิกในวง แน่นอนครับ ว่า มีการโยนของแจกกันเต็มเหนียว ทั้งผ้าพันคอ ปิ๊กกีตาร์ ไม้กลอง แล้วก็สาดน้ำกันเละเทะ ผมพยายามวิ่งเข้าไปรับของกับเค้าด้วย แต่ไม่กระเด็นเข้่ามาเล้ยยย ฮ่าๆ
จนทุกคนกลับเข้าไปแล้ว ก็ยังเหลือ Sugizo ที่ยังคงโบกมือให้ทกคนเป็นครั้งสุดท้าย ในที่สุดหนึ่งในความฝันของผมก็เป็นจริงไปอีกหนึ่งเรื่องครับ ขับรถอย่างมีความสุขสุดๆกลับบ้าน เปิด Luna Sea ดังลั่นรถ แล้วก็แหกปากร้องกัน 2 คน ฮ่าๆ
Dear Luna Sea … You are awesome!!! I’ll continue support you…
6 comments