มีคนถามผมมาทาง Twitter ค่อนข้างบ่อยเรื่อง Internet ที่บ้านมีปัญหา ถามทาง Twitter แต่ตอบทาง Twitter เห็นทีจะไม่ไหว แถมต้องมานั่งตอบบ่อยๆก็ชักขี้เกียจพิมพ์แล้ว ขอจัดเป็นบทความชุดใหญ่ สำหรับคนที่มีปัญหากับ Internet ที่ใช้กันในบ้านละกันนะครับ
ก่อนอื่นเลย ปัญหาที่ผมได้ยินจากหลายๆคนที่ถามเกี่ยวกับ Internet ส่วนใหญ่มีอาการคล้ายๆกันนั่นก็คือ
- Internet หลุดบ่อย บางทีก็มา บางทีก็ไม่มา
- ความเร็วที่ได้ ได้ไม่ตรงกับ Promotion ที่ขอไว้ เช่นขอ 10Mbps แต่มาทดสอบความเร็ว ได้แค่ 5Mbps อะไรแบบนี้
- ฝนตกทีไร เน็ตเดี้ยงทุกที
ซึ่งปัญหาเหล่านี้ มีจากหลายสาเหตุด้วยกัน แต่สาเหตุหลักๆที่โดนกันบ่อยสุดก็คือ เรื่องของคุณภาพสายโทรศัพท์ที่เราใช้งานครับ … ซึ่งผมจะขอธิบาย วงจรอุบาวท์ของบ้านเราดังต่อไปนี้
ก่อนอื่นเลย บ้านเราใช้เทคโนโลยี ADSL ซึ่งเป็น Internet ความเร็วสูงที่ ติดตั้งง่าย ขึ้นระบบได้เร็ว ราคาไม่แพง และรองรับระยะไกลมากถึง 5 กิโลเมตร จึงเหมาะกับการลงทุนในเบื้องต้นสำหรับผู้ให้บริการ ซึ่งตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา ADSL ถือว่าเป็น Broadband Internet ที่มีการให้บริการอย่างแพร่หลายกันมากที่สุด
แต่ว่าพอมีคนใช้ ADSL กันเยอะๆเข้า บวกกับเทคโนโลยี ADSL มันวิ่งกันบนสายโทรศัพท์ ซึ่งก็ใช่ว่า ทุกบ้านจะใช้สายโทรศัพท์ใหม่เอี่ยมอ่องกันซะทุกบ้าน แน่นอน มันก็ต้องมีบ้านที่ใช้สายที่เดินมาเป็นสิบๆปีในการใช้งานอยู่แล้ว
ซึ่งถ้ามีเสียงซ่าๆนิดหน่อยตอนคุยโทรศัพท์ อันนี้ก็พอรับได้ เพราะการคุยโทรศัพท์ แค่คุยกันรู้เรื่องก็พอแล้ว แต่กับ Internet ความเร็วสูงมันต่างกัน เพราะว่า การมีคลื่นรบกวนแทรกนิดหน่อย จะทำให้ความถูกต้องในการส่งข้อมูลเสียไป ผลก็คือความเร็วจะตก เพราะต้องมีการทวนสัญญาณส่งข้อมูลกันใหม่อยู่เรื่อยๆ
ดังนั้น ปัญหาอย่างแรกเลยของอาการ Internet ADSL ติดๆดับๆก็คือ สายโทรศัพท์ภายในบ้านเรา ขอย้ำนะครับว่า “สายในบ้านเรา อาจจะเก่า หรือช็อต ทำให้การใช้งาน ADSL ทำประสิทธิภาพได้ไม่เต็มที่”
ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไม พอฝนตก แล้ว Internet เราใช้ไม่ได้ ก็เพราะว่า สายโทรศัพท์ที่เราเอาไว้ต่อ Internet อาจจะมีจุดเชื่อมที่ทำง่ายๆ เช่นตัดต่อกันแล้วแปะด้วยเทปธรรมดาอยู่บริเวณนอกตัวบ้าน หรือจุดที่ไม่มีอะไรบัง อาจจะโดนฝน หรือน้ำซึมเข้ามาในกล่องเชื่อมโทรศัพท์ หรือรอยเปื่อยตามสายก็เป็นได้เช่นเดียวกัน
ทางแก้คืออะไร???
แน่นอนล่ะ มันก็คือ การทำยังไงก็ได้ให้สายโทรศัพท์ที่เราใช้ในการต่อ Internet มีคุณภาพดี และ ดีตลอดเส้นทางของการส่งข้อมูลตั้งแต่จุดที่สายต่อจาก Router ไปจนถึงผู้ให้บริการเลยล่ะ ซึ่งบางครึ้ง ถึงแม้ว่าเราจะรื้อสายโทรศัพท์ในบ้านใหม่หมดแล้ว แต่ถ้าสายที่อยู่ในตู้ Node ซึ่งเป็นใจกลางของการเชื่อมต่อทั้งเก่าและเปื่อย ก็คงเจออาการเน็ตช้าเหมือนเดิมครับ
ทางออกอีกอันที่ดีกว่าสำหรับคนที่รื้อสายในบ้านไปเรียบร้อยแล้ว รวมไปถึงคนที่ไม่อยากเจอความเสี่ยงของ ADSL ก็คือ การเปลี่ยนเทคโนโลยีจาก ADSL ไปใช้แบบอื่นๆครับ ซึ่งตอนนี้ก็มีหลายเทคโนโลยีด้วยกัน เช่น
- Leased Line : เทคโนโลยีที่ใช้สาย Fiber Optic ที่ส่งข้อมูลด้วยแสง ข้อดีคือ เร็วสุดๆ ระยะโคตรไกล แต่ราคายังสูงอยู่
- Cable Internet หรือ Docsis : เป็นเทคโนโลยีที่ใช้สายแบบ Coaxial ในการส่งข้อมูลจาก Node ไปยังบ้านผู้ใช้งาน ข้อดีคือ เร็วสุดๆ เหมือนกัน ราคาไม่แพง แต่ระยะยังได้ไกลมากไม่ได้
- WIFI แบบ Point 2 Point : เป็นการยิงสัญญาณ Wireless LAN ตรงจาก Node ถึงบ้านคุณเลย ข้อดีคือ รัศมีได้ไกล ไม่มีปัญหาเรื่องสาย ความเร็วค่อนข้างสูง แต่มี Lag time ค่อนข้างสูงเช่นเดียวกัน และอาจจะโดนคลื่นรบกวนได้
ซึ่งถ้าคุณมีงบประมาณมากพอ จะไปเล่น Leased Line ก็ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาด้วยระบบทุนนิยมแล้วจบดีเหมือนกันครับ แต่ถ้างบประมาณไม่ถึง Docsis ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ไม่เลว เพราะว่า
Node ที่ให้บริการ Docsis ในประเทศเราถือว่าเป็น Node ใหม่ ดังนั้น ผู้ให้บริการก็จะลงทุนอะไรที่มันยั่งยื่นกว่าไปในนั้น ดังนั้น สายที่เชื่อมระหว่าง Node ไปยังตัว ISP จะเป็น Fiber Optic ทั้งหมด ทำให้มั่นใจได้ว่า จาก Node ไปถึงผู้ให้บริการมันเร็วแบบชัวร์ๆแน่นอนล่ะ
สาย Cable ที่ใช้ใน Docsis เป็นสายแบบโคตรแข็ง มี Shield หุ้มเพื่อป้องกันคลื่นรบกวนได้ดีกว่า สายทองแดงที่ใช้กันในสายโทรศัพท์
ความเร็วของ Docsis มีให้บริการตั้งแต่ 10 Mbps – 200 Mbps ซึ่งถ้าเทียบกับ ADSL2+ จะมีความเร็วแค่ 24Mbps เท่านั้น
บน ADSL ระยะทางจะมีผลต่อความเร็ว ซึ่งถ้าเกิดคุณอยู่ในรัศมี ปลายติ่งของ Node ผู้ให้บริการ ความเร็วที่คุณจะได้ อาจจะไม่เท่าโปรโมชั่นที่คุณเลือกติดตั้งก็ได้ซึ่งหลายๆคนน่าจะเคยเจอกันดี สั่งติด ADSL 10Mbps แต่เอาเข้าจริงอาจจะได้แค่ 6-7 Mbps เท่านั้น แต่กับ Docsis ความเร็วจะเท่ากันตลอดไม่ว่าระยะจะใกล้ หรือ ไกลแค่ไหน ดังนั้น ถ้าบ้านคุณติด Docsis ได้ จะติดความเร็ว 10Mbps หรือ 200 Mbps ก็ทำได้เช่นเดียวกัน
สาย Cable แบบ Docsis เป็นสายที่สามารถนำพาบริการไปได้หลายอย่าง เพราะที่ต่างประเทศ เค้าจะพ่วงบริการ Cable TV ไปกับ Internet ด้วย ซึ่งความเร็วที่ได้ก็จะไม่กวนกัน ไม่ใช่ว่าดูหนังผ่าน Cable TV แล้วความเร็วจะตกนะครับ อย่างบ้านเรา True เองก็มีบริการแบบนั้นอยู่ คือดู True Vision และ ใช้งาน Internet บนเส้นเดียวกัน โดยที่ความเร็วไม่กวนกัน
แล้วไอ้เรื่องที่บริการหลายๆอย่างมาอยู่บนสายเดียวกันเนี่ย มันยังสามารถรองรับเรื่องของโทรศัพท์บ้านได้อีกด้วยนะครับ ดังนั้น ถ้าเกิดคุณติดบริการ 3 อย่าง นั่นก็คือ Internet + Cable TV + โทรศัพท์บ้าน บนสาย Cable เดียวกัน คุณก็จะลดความน่าปวดหัวของสายที่ต้องลากเข้าบ้านครับ ลากเส้นเดียว ใช้มันสามอย่างไปเลย
ข้อดีอีกอย่างสำหรับการใช้ Docsis ในการรันบริการหลายๆอย่างพร้อมกันก็คือ ถ้าคุณดู Cable TV มันก็จะรองรับตัวที่เป็น HD ด้วย ซื้อ LED TV แบบไฮโซมาทั้งที เอามาดูรายการชัดๆด้วยน่าจะดีกว่า รวมไปถึงบริการโทรศัพท์ที่อยู่ในสาย Cable ก็จะมีคุณภาพเสียงระดับ HD Voice ครับ เสียงที่คุณคุยกับอีกฝ่ายจะคมชัดเปรีี๊ยะ อย่างกะนั่งกันอยู่ข้างๆ แต่มีข้อแม้ว่า เครื่องโทรศัพท์ที่คุณใช้จะต้องรองรับ HD Voice และอีกฝั่งที่คุณคุยด้วย ก็ต้องใช้บริการแบบเดียวกันนะครับ
เอาล่ะครับ ใครที่คิดว่าปัญหาในการใช้งาน Internet ของตัวเองตรงกับที่ผมบอกมาทุกประการ ก็ลองพิจารณาเปลี่ยนเทคโนโลยีที่คุณใช้ดูละกันนะครับ เพราะผมคิดว่า ลงทุนเหนื่อยนิดๆหน่อยๆกับการไปศูนย์บริการ มันง่ายกว่าการปวดหัวที่ Internet ช้ามากมายครับ