งาน Thailand Mobile Expo 2013 Hi-End มหกรรมความวู่วามครั้งใหญ่ของพวกเราชาวไทยกำลังจะกลับมาอีกครั้งในวันที่ 23 – 26 พฤษภาคม 2013 .. ซึ่งครั้งนี้มี Smartphone ใหม่ๆมาขายเพียบ พร้อม Tablet และ Accessories ดีๆอีกมหาศาล แต่มีหลายคนมาถามผมว่า งบประมาณเท่านั้น เท่านี้ ซื้ออะไรดี ผมก็เลยรวบรวมมาเป็น ข้อคิดเห็นของผมว่าราคานี้ควรจะซื้ออะไร เพราะอะไร เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ แต่หวังว่าจะช่วยให้หลายๆคนมีตัวเลือกในการตัดสินใจมากขึ้นได้ครับ

สำหรับงบประมาณ 3,000  บาท

งบประมาณ 3,000 บาทหน่อยๆ ถึอเป็นช่วงราคาที่ไม่ค่อยมี่ตัวเลือกมากนักเท่าไหร่สำหรับ Smartphone เพราะว่า ไม่สามารถทำเครื่องให้มีประสิทธิภาพเทพๆด้วย สาเหตุก็เพราะเรื่องของงบประมาณมันน้อยนั่นเองครับ

ตัวเลือกที่ผมคิดว่าดีและมีประสิทธิภาพที่สุดก็คือ .. Nokia ASHA 210 ครับ สาเหตุก็เพราะว่า

• มี Facebook , Youtube , Whatsapp มาให้ในตัว เหมาะกับการเริ่มต้น Social Network แบบราคาไม่แพง
• Full QWERTY Keyboard เหมาะแก่การพิมพ์
• มีกล้องหน้า/หลัง ครบ
• โหลดเกมจาก Nokia Store ได้อีก

หลายคนอาจจะสงสัย ทำไมไม่แนะนำ Android .. สาเหตุก็เพราะว่า Android เป็นระบบปฏิบัติการที่ต้องใช้ ประสิทธิภาพด้าน CPU ระดับนึงเลยทีเดียว เพื่อที่จะมีประสิทธิภาพในระดับที่ผู้ใช้งานพอใจได้ ซึ่งในงบ 3,000 บาท ยังไม่มี Android ตัวไหนเข้าตาผมครับ

 

งบประมาณ 6,000 บาท

ถือว่าเป็นพื้นที่แข่งขันที่มีผู้เล่นจากหลายเจ้าส่งมวยรุ่นเล็กลงมาเยอะมาก โดยที่ในราคาประมาณ  6,000 กว่าบาท ผมขอแนะนำ 2 ตัว ไว้เป็นตัวเลือกในใจนะครับ โดยที่ตัวแรกก็คือ

Nokia Lumua 520 นั่นเองครับ สาเหตุที่เลือก Lumia 520 ก็เพราะว่า Windows Phone ยังเป็นระบบปฏิบัติการที่ยังไม่รองรับ Quad Core CPU ดังนั้น ใน Windows Phone ทุกรุ่นจาก Nokia จึงเป็น Dual core CPU ทั้งหมด นั่นหมายความว่า ในเรื่องการประมวลผล ไม่ว่าจะเป็นตัวเล็กอย่าง 520 หรือ ตัวใหญ่อย่าง 920 จึงแทบไม่ต่างกัน และ Windows Phone ยังเป็นระบบปฏิบัติการที่ไม่กินพลังงาน CPU มากอีกด้วย แถมในราคาแค่ 5,850 บาท ยังได้ Spec ที่ค่อนข้างดีมากอีกด้วย จึงอยากแนะนำกันครับ

อีกตัวนึงที่ผมจะแนะนำก็คือ True Beyond 3G จากค่าย True ที่เปิดตัวไปพร้อม Presenter อย่าง Girls Generation เมื่อวันที่ 21/05/2013 ที่ผ่านมานี้เอง ตอนแรกไม่ได้กะจะเอาเข้ามาใน List แต่พอไปงานเปิดตัวมา แล้วเจอ Spec + ราคา เลยต้องกลับมาแก้บทความเลยครับ

จุดเด่นของ True Beyond 3G

• เป็น Quad Core CPU 1.2 ของ Snapdragon
• Ram 1GB
• มาพร้อม App พิเศษที่ True ทำร่วมกับ Girls Generation แบบครบเซ็ต เช่น Live Wallpaper ที่ให้ Gire Generation มาเต้นเหมียวหง่าว 9 แบบเลยทีเดียว (เลือดกำเดาพุ่ง)
• ราคาแค่ 6,590 บาท

ข้อเสียเล็กน้อยของ True Beyond 3G

• Storage แค่ 4GB
• 3G วิ่งความเร็วสูงสุดได้แค่ 7.2 Mbps

 

งบประมาณ 8,000 (+/- 1,000) บาท

เป็นช่วงราคาที่งงๆ คือ ไม่รู้จะถูกหรือจะแพงดี มีตัวเลือกไม่ค่อยมากเท่าไหร่ แต่ก็ยังมีให้เล่นหวือหวาบ้างครับ ในช่วงราคานี้ ผมขอแนะนำ 2 ตัวด้วยกันนั่นก็คือ

LG Optimus L7-II

http://www.youtube.com/watch?v=MQf17UR6nNI

ทำไมถึงเลือกตัวนี้ ทั้งๆที่ Spec โดยรวม ยังสู้ True Beyond 3G ที่ราคา 6,590 ยังไม่ได้ .. แต่อยากจะบอกว่าที่สู้ไม่ได้มันแค่ CPU กับแรมเองครับ ที่เหลือไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ IPS , กล้อง 8 ล้านที่เป็น sensor ที่มีระดับกว่า รวมไปถึง Body ของตัวเครื่องที่จับแล้วดูดีกว่ากันเยอะ ผมมองว่าในงบ 8,xxx ถือเป็นตัวที่น่าสนใจเลยเลือกมาครับ

อีกตัวในงบประมาณ 8,000 กว่าบาทที่ผมเลือกมาก็คือ Huawei Honor 2 ครับ

แน่นอน อันนี้ก็จะเป็นมุมกลับกันกลับเจ้า LG Optimus L7II เลย เพราะเจ้านี่ให้ Spec ที่แรงกว่า LG Optimus L7II ครับ ในราคาที่ต่างกันแค่ 1,000 เดียว ไม่ว่าจะเป็น จอ HD , CPU แบบ Quad Core แรมก็เยอะกว่า และหน้าจอ IPS เหมือนกัน แต่ที่ทำราคาไม่ต่างจาก LG มากนัก อาจจะเพราะว่า ในแง่ของการรับประกัน ผู้ซื้ออาจจะยังไม่สามารถเชื่อมั่นได้เท่า LG ครับ ถึงต้องทำราคาลงมายั่วใจเสียหน่อย

งบประมาณ 10,000 ต้นๆ

ถือเป็นสมรภูมิที่ทุกค่ายต่างเข้าห้ำหั่นกัน เพราะว่า Spec ในช่วงราคาต่ำหมื่นถือเป็นจุดที่ทำกำไรได้มาก และสามารถส่งตัวที่มี Spec กลางๆมาเล่นได้เยอะ แต่ก็ถือเป็นจุดที่ทำราคายากเช่นเดียวกัน เพราะว่า ช่วงราคาต่ำหมื่นถึง เกือบหมื่นจะทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่คิดอยู่สองอย่าง ก็คือ ไม่เพิ่มงบไปเล่นตัวทะลุหมื่นไปเลย ก็ ลดงบไปเล่นตัวถูกกว่าไปเลยครับ ดังนั้น ช่วงราคานี้จึงมีการแข่งขันสูงนั่นเอง ในช่วงระยะนี้ ตัวที่ผมแนะนำ มี 2 ตัวด้วยกันครับนั่นก็คือ

Nokia Lumia 720

แน่นอนว่า แนะนำ Lumia 520 ไปแล้วก็ขอแนะนำ 720 ด้วย สิ่งที่อัพเกรดขึ้นมา นอกจาก CPU จากรุ่น 520 ก็คือ จอที่ใหญ่กว่าแถมเป็นจอ IPS แบบ Clearblack สามารถสู้แสงกลางแดดได้สบายๆ พร้อมเลนส์ Carl-Zeiss ที่ Wide ถึง 26มม และมีค่ารูรับแสงถึง f1.9 เรียกได้ว่า กินแสงน้อยมาก ทำให้ถ่ายที่มืดได้โคตรดี แล้วก็มีกล้องหน้ากับ NFC ที่เหลือไม่มีอะไรแตกต่างจาก 520 มากนัก แต่ในราคา 10,900 บาท ได้เลนส์เทพมาใช้ก็โคตรคุ้มแล้ว

อีกตัวนึงที่ผมอยากแนะนำก็คือ ตัวที่โด่งดังมากจากงาน Thailand Mobile Expo รอบแรกเมื่อตอนต้นปี นั่นก็คือ

Samsung Galaxy Grand Duos นั่นเอง

จุดเด่นคือ หน้าจอใหญ่โคตรถึง 5 นิ้ว แถมมาแบบ 2 Sim อีกต่างหาก จึงกลายเป็นรุ่นที่ผู้ใช้โทรศัพท์แม่ยกสายเติมเงินทั้งหลายให้ความสนใจเป็นอย่างมาก แถมราคาไม่แพง นั่นก็คือ 11,900 พร้อมของแถมเพียบ ในงาน Thailand Mobile Expo ครั้งนี้จึงยังคงเป็นตัว Hot อยู่แน่นอนครับ

 

งบประมาณ 15,000 กว่าๆ

นี่เป็นสังเวียนระดับเกือบสูง ถ้าเปรียบเป็นมวยก็ประมาณ Middle Weight ที่มีความจัดจ้านมากขึ้น ช่วงราคานี้ จะเป็นสมรภูมิของ Smartphone ที่เป็น Quad Core กันแทบทั้งนั้น แต่จะให้อะไรมาเป็นไม้ตาย ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละเจ้าครับ ซึ่งในช่วงราคา 15,000 กว่าๆ นี้ ตัวที่ผมแนะนำมี 3 ตัวครับ ได้แก่

OPPO Find 5

 

ครบเครื่องทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น CPU ระดับ SnapDragon S4 Pro ที่เป็น Quadcore CPU มาพร้อมกับ GPU Adreno 320 ที่เป็นตัวโคตรแรง แรมที่มากถึง 2GB และหน้าจอความละเอียดระดับ Full HD แต่ราคาแค่ 15,900 ซึ่งเป็นราคาที่เจ้าใหญ่หลายเจ้า ไม่อยากจะส่งตัว Top ลงไปแข่งกันเลยทีเดียว Android ที่มาด้วยก็เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดแล้ว ทีนี้ ความกังวลเล็กน้อยสำหรับการใช้งาน Android จากเจ้าที่พึ่งมาทำ Android ได้ไม่นานก็คือ ถ้าซื้อไปแล้วจะได้อัพเกรดตัว Software เป็น Android เวอร์ชั่นล่าสุดเมื่อไหร่ ซึ่งตรงนี้ก็ถือว่าเป็นอีกจุดนึงที่ผู้ใช้จะต้องคำนึงนะครับ ขนาดซื้อ Android เจ้าใหญ่ๆอย่าง Samsung บางทียังไม่ได้อัพเกรดซอฟท์แวร์บ้างก็มี

อีกตัวนึงที่ผมแนะนำในราคา 15,000 กว่าๆ ก็คือ .. Samsung Galaxy Note 8 ครับ

หลายคนอาจจะทักว่า Note 8 มันไม่ใช่ Smartphone นะครับ มันเป็น Tablet 7 นิ้วที่โทรได้ แต่ผมอยากจะบอกเลยว่า ในราคา 15,200 แต่คุณได้ความสามารถเท่า Galaxy Note2 ที่หน้าจอใหญ่ขึ้น กล้องลด Spec ลงนิดหน่อย และ จอภาพก็ไม่ใช่จอ Super AMOLED .. แต่ที่เหลือ มันคือ Note2 เลยครับ จากที่ได้ลองจับดู พบว่า ตัวเองยังอยากได้เลย เพราะความสามารถของ S-Pen ที่เป็นตัว Sylus แบบพิเศษที่ Samsung จับมือกับทาง Wacom สร้างขึ้นมา นี่มันเทพและ ใช้งานได้จริงๆ

อีกตัวที่ผมแนะนำสำหรับราคาหมื่นกลางๆ ก็คือ Sony Xperia V

ถึงแม้ว่า Spec ของ Xperia V จะเป็นแค่ Dual core 1.5 Ghz แต่ก็เป็น Dual core จากค่าย Qualcomm ที่เป็น SnapDragon ผู้ซึ่งปั่นให้ CPU แบบ Dual Core แรงกว่า QuadCore มาแล้วในหลายๆตัว ทำให้ไม่ต้องกังขาเท่าไหร่เรื่องของความเร็ว และยิ่งไปกว่านั้น Rom ของ Sony Ericsson ยังเป็นรอมที่ออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่ทำรู้สึกสะดุดในการใช้งานเท่าไหร่นัก

ส่วนเรื่องกล้อง ก็เป็นกล้องที่มีความละเอียดถึง 13 ล้าน แล้วยิ่งถ้าเป็นเลนส์นี่หายห่วงเลย เพราะขนาด iPhone ยังใช้ชุดเลนส์ของ Sony จึงทำให้มั่นใจได้ว่าถ่ายออกมาได้โคตรเป๊ะ อย่างแน่นอน และที่หล่อที่สุดก็คือ มันกันน้ำ กันฝุ่นครับ สามารถกันน้ำ ในความลึก 1 เมตรได้ 30 นาที ด้วยมาตรฐาน IP57 นั่นเอง ในราคาหมื่นกลางๆ มีตัวที่ Spec แรงกว่า Sony Xperia V เยอะ แต่ผมยกให้ในฐานะที่ครบเครื่องครับ

งบประมาณ 18,000 บาท

ช่วงนี้บอกตรงๆว่า มีขาประจำกันอยู่ไม่กี่คนครับ แต่ละคนก็คือ อดีตเรือธง ของเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ที่ต้องลดค่าตัวเพื่อหลีกทางให้กับ เรือธงลำใหม่ที่จะมาเปิดตัวในฤดูกาลนี้นั่นเอง แต่ขึ้นชื่อว่าเรือธง ถึงแม้จะช่วงรุ่งเรื่องจะผ่านไปแล้ว แต่ก็ยังมีศักดิ์ศรีของความเป็นเรือธงอยู่ดีครับ โดยที่ในช่วงราคา 18,000 ผมเลือกมา 2 ตัวด้วยกันครับ นั่นก็คือ

HTC Butterfly

 

อดีตเรือธงที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี่เอง ถือว่าเป็น Smartphone จอใหญ่ 5 นิ้วระดับ Full HD ตัวแรกของปีนี้ มาในสีแดงแรงสามเท่ามากๆ เห็นครั้งแรกก็อยากได้แล้ว ตัวเครื่องก็อัด Spec เต็มที่มาไม่แพ้ใคร ไม่ว่าจะเป็น CPU แบบ SnapDragon S4 Pro แบบ Quadcore พร้อมแรม 2GB

ที่เจ๋งมากก็คือระบบกล้องเทพในแบบฉบับของ HTC ที่ถ่ายภาพแปลกๆมาได้ และระบบเสียงแบบ beats audio ที่ทำให้การฟังเพลงโคตรมันส์ขึ้นเยอะ ค่าตัวประมาณ 19,900 บาทซึ่งลดจาก 21,900 บาท ตอนต้นปี เพราะต้องหลีกทางให้ลูกพี่ HTC One

อีกตัวที่น่าสนใจในราคา 18,000 หน่อยๆก็คือ Sony Xperia ZL ครับ

สำหรับ Xperia ZL จะเหมือน Xperia Z ที่เป็นเรือธงของ Sony ในตอนนี้เลย แต่เอาความสามารถกันน้ำ กันฝุ่นออก แล้วหักราคาไป 2,000 บาท ทำให้ค่าตัวอยู่ที่ 18,900 บาท ซึ่งน่าสนใจมาก เพราะตัวนี้ก็เป็น CPU ระดับ SnapDragon S4 Pro Quadcore 1.5 Ghz พร้อมแรม 2GB เลยทีเดียว จุดเด่นของตัวนี้ก็คือ กล้อง 13 ล้านที่ใช้ Sensor แบบ Exmor RS ถ่ายรูปได้แบบชัดเป๊ะ แถมจอภาพก็เป็น Mobile Bravia Engine 2 ที่เอาเทคโนโลยีจอภาพ Bravia จากจอ Sony มาใช้อีกด้วย

งบประมาณ 20,000 Up

นี่คือ มวยระดับ Super Heavy Weight .. ผู้ท้าชิงที่ต่อยในสังเวียนนี้คือ ตัว Top ประจำปีนี้ ทั้งนั้นครับ แน่นอนล่ะ ทำราคา 20,000 กว่า มันก็ต้องมีลูกเล่นเยอะหน่อย ลองมาดูกันว่า ผมเลือกอะไรมาเป็นตัวที่น่าซื้อหาในราคานี้ครับ

Samsung Galaxy S4

ไม่ต้องสืบเท่าไหร่นัก เพราะ S4 ก็คือ พระเอกประจำปีนี้ของทาง Samsung .. ซึ่งทาง Samsung ก็พึ่งจัดงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ไปเมื่อไม่นานมานี้เอง ตัว S4 มี Feature ใหม่ๆเยอะมาก เยอะขนาดที่ว่า เล่า ชม นึงก็ยังไม่จบครับ [ลองไปอ่านรีวิวที่ผมเขียนที่นี่ได้ครับ]

Feature เด็ดๆกว่า 80% จะอยู่กับระบบกล้องเกือบทั้งหมดครับ ถ้าจะให้ติเล็กน้อยก็คือ วัสดุที่ Samsung ใช้ยังคงเป็นพลาสติกแบบ Polycarbonate อยู่ ซึ่งในแง่ของประสิทธิภาพ มันดีมาก เพราะผลิตได้เร็ว ทนทาน รับแรงกระแทกได้ดีมาก  แต่กับผู้ใช้ที่กำตังค์มา 20,000 บาทเพื่อซื้อตัว Top บางคนก็อยากจะได้ตัวที่จับแล้วให้ความรู้สึก Premium ดูดีมีราคาครับ ซึ่งแน่นอน คู่แข่งอีกตัวที่ผมเสนอมาชนกันในราคาร 20,000 Up ก็คือ

HTC One นั่นเองครับ

HTC One ถือเป็นเรือธงจาก HTC ที่มีความเปลี่ยนแปลงเยอะมากจากในอดีต เพราะเปลี่ยน Home Screen ใหม่เป็นระบบ Blink Feed ที่ทำให้คุณดูข้อมูลต่างๆได้ง่ายขึ้น กล้องหลังที่เป็นกล้องแบบ Ultra Pixel ที่ถึงแม้ภาพที่ถ่ายได้จะมีความละเอียดแค่ 5Mbps แต่ความละเอียดของภาพที่ซูมเข้าไปมันชัดกว่าเดิมถึง 3 เท่า

แถมกล้องหน้ายังโคตร Wide และกินแสงน้อยมาก ผมเอากล้องหน้าถ่ายตัวเองในลักษณะยื่นมืดสุดแขน แต่ภาพ Wide จนเห็นครึ่งตัวเลยทีเดียว และในเรื่องของ Feature กล้อง ก็มีความสามารถชนกับ Samsung Galaxy S4 ได้แบบหมัดต่อหมัดเลยทีเดียว  แต่ในด้าน Software ก็ยังถือว่า ยังมีไม่เยอะเท่า S4 ครับ เพราะอย่าง S4 มีทั้ง Air Gesture , S-Health และอื่นๆอีกมากมาย

และจุดเด่นของ HTC One ตัวนี้อีกเรื่องก็คือ Body แบบ Aluminium ที่จับแล้วให้ความรู้สึกหรูหรา ผมไปลองสัมผัสมาแล้ว พบว่าเค้าทำเครื่องมาได้ไม่ใหญ่มาก จับถนัดมือ ไม่หลุดมือง่าย วัสดุดูดีมาก ใช้แล้วโคตรหล่ออ่ะครับ

และ Best Buy ที่น่าซื้อที่สุดที่ผมแนะนำจากทุกตัวที่ได้กล่าวถึงไป ผมขอแนะนำ Samsung Galaxy Note 8 ครับ

สาเหตุก็ง่ายๆ เครื่องเดียวเที่ยวทั่วโลก โทรได้ ทำงานได้ เขียนได้ อ่านหนังสือได้ เสียอย่างเดียวมันยัดกระเป๋ากางเกงไม่ได้เท่านั้นเองครับ แถมราคาก็ดีมากเมื่อเทียบกับ Spec อีกด้วย

และนี่คือบทสรุปที่ผมอยากจะแนะนำให้กับทุกท่านที่กำลังจะไปงาน Thailand Mobile Expo 2013 ที่ศูนย์สิริกิติ์นะครับ เตรียมเงินไปซื้อเครื่องแล้ว ก็เหลือเงินไว้ซื้อพวก Accessories อย่างเคส , แผ่นแปะหน้าจอกันรอย (แนะนำของ Fresh Gadget เพราะ ปีเตอร์กวงควงมือถือเค้าเป็น Presenter ครับ ฮ๋าๆ) หรือพวก Battery เสริมด้วยก็ดีนะครับ เพราะในงานเค้าขายทุกอย่างที่เกี่ยวกับมือถืออยู่แล้ว ขอให้มีความสุขกับเทศกาลวู่วามครั้งใหญ่ของคนไทยนะครับ

• Facebook
• Twitter
• Line