Freeware.in.th
ขอเล่าย้อนไปถึง Blog เก่าตอนนี้ที่เล่าถึง การแข่งขัน Network Security ที่ตรงข้ามกับการแข่ง Hack แต่เป็นการแข่งขันเก็บหลักฐานและไล่ล่าตามจับ Hacker นั่นก็คือ งาน CAT CYFENCE CYBERCOP CONTEST 2015 หรือชื่อย่อมางาน C4 นั่นแหละครับ พอดี ในรอบชิงผมได้มีโอกาสไปร่วมชมบรรยากาศการแข่งขันมาด้วยเลยเก็บภาพ + นำเอาบรรยากาศมาเล่าให้ฟัง
หลังจากที่น้องๆทั้งหมด ผ่านการฝึกอบรมและแข่งขันกันในรอบแรก ทีมที่ได้รับคะแนนสูงสุด 10 ทีม จะได้สิทธิ์เข้ารอบสองเพื่อมาแข่งขันกันในรอบชิงชนะเลิศครับ งานนี้จัดขึ้นที่ Paragon Hall โดยที่จัดพร้อมกับงาน CAT Network Showcase 2015 .. ซึ่งเป็นงานโชว์นวัตกรรมของทาง CAT นั่นเองครับ นอกจากงานแข่งยังมีบริการระดับ Enterprise ของ CAT มานำเสนออีกเพียบเลย
โจทย์ในการแข่งขันในรอบชิงก็คือ ได้มีการจับกุม Hacker คนนึงได้ และผู้เข้าแข่งขันจะต้องล้วงเอาข้อมูลความผิดที่ทาง Hacker คนนี้ได้ทำเอาไว้โดยไปทำการแกะรอยเอาจาก Server เป้าหมาย ซึ่งโจทย์จะแบ่งออกเป็น 2 Part ด้วยกัน … ใน Part แรก จะเป็นการตอบคำถามโดยไปเก็บข้อมูลมาให้ได้ว่า สิ่งที่เราคุ้ยได้จากเครื่อง Hacker มีอะไรบ้าง จากนั้นนำเอาคำตอบมากรอกในโจทย์ทีละข้อเพื่อเก็บคะแนนให้ได้
และใน Part ที่ 2 .. จะต้องนำเอาข้อมูลจาก Part แรก ไป Trace ต่อเพื่อเข้าไปยัง Server ลับของ Hacker ที่ข้างในจะต้องเจาะระบบเพื่อเอาข้อมูลเพิ่มเติมอีกโดยที่ทั้ง 2 Part นั้นจะมีเวลาในการทำโจทย์ทั้งหมด 3 ชั่วโมงด้วยกัน
คนที่เดินดูงานอาจจะงงๆ ซักหน่อย เป็นการแข่งขันที่เงียบ ไม่มีเสียงอะไรรบกวนเลยนอกจากเสียง Keyboard ในการเคาะ Command Line ของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน แต่ผมเดินดูทีละทีม แหม่… แต่ละทีม เครียดกันสุดๆไปเลยครับ เพราะโจทย์ของกรรมการปีนี้ยากจริงๆ (ผมพยายามขอดูรายละเอียดโจทย์ แต่ว่าทำไม่ได้จริงๆครับ ข้อสอบเป็นความลับ อ๊ากกก)
โฉมหน้า Server ของ Hacker ที่เป็นเป้าหมาย แต่ทีมงานตกแต่งซะอย่างกะมีฉากฆาตกรรมในห้องปิดตาย ฮ่า
น้องๆทั้งสอบทีมที่มาเข้าร่วมแข่งขัน ก็มาจากหลายๆมหาวิทยาลัยด้วยกัน แต่ละทีมก็ตั้งชื่อกันได้เด็ดดวงมากเลยครับ
- ทีม Aero จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
- ทีม Bristlehead จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
- ทีม null จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
- ทีม OEM T E จากสถาบันเทคโนโลยีไทยญี่ปุ่น
- ทีม SGordon จาก สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร
- ทีม Stamford Rising Star จาก Stamford International University
- ทีม TPL จากมหาวิทยาลัยมหิดล
- ทีม TracertPlusPlus จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
- ทีม Unique จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ทีม ปุ๋ยเคมี เทพีเสรีภาพ จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เครื่องที่ทางกรรมการเตรียมไว้ให้จะมีเครื่องมือและโปรแกรมที่จำเป็นการใช้หาข้อมูลเพื่อตอบคำถามได้อยู่แล้ว แต่น้องๆจะใช้เครื่องมือในการแกะรอยของตัวเองเพื่อความถนัดก็ย่อมได้ (ซึ่งกรรมการฝากบอกมาว่า ใช้ของที่เตรียมไว้ให้นี่แหละง่ายสุดแล้วน้องเอ๊ย)
และเมื่อเวลาบนหน้าจอหมดลง คณะกรรมการก็ประกาศให้ทุกทีมวางมือจาก Keyboard ทันที เพื่อที่จะทำการรวบรวมคะแนนและวิเคราะห์ว่าแต่ละทีม ใครทำคะแนนได้สูงสุด และทีมที่ชนะเลิศก็ได้แก่ แก่ แก่ แก่….
“ทีม null” สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง นั่นเองคร้าบ น้องๆทีมนี้ก็จะได้รับเงินรางวัลทั้งหมด 60,000 บาท บวกกับประกาศนียบัตรและคอร์สอบรมเรื่อง Network Security เพิ่มเติมด้วย
ส่วนรองชนะเลิศอันดับหนึ่งก็คือ ทีม “ทีม Bristlehead” สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และ รองชนะเลิศอันดับสองก็คือ “ทีม TPL” มหาวิทยาลัยมหิดล ครับผม ก็จะได้รับเงินรางวัล 40,000 บาท และ 30,000 บาทตามลำดับ และได้รับประกาศนียบัตร กับคอร์สอบรม Network Security เช่นเดียวกัน
หลังจากการแข่งขัน ผมได้มีโอกาสได้คุยกับทีมกรรมการที่ออกโจทย์แล้วก็ถามถึง ผลการแข่งขันเชิงลึก กรรมการบอกว่า น้องๆทุกคน ไปเน้นที่ Part 1 กันมากเกินไป จนไม่เหลือเวลาในการทำ Part 2 .. ซึ่งถ้าเข้ามาเก็บคะแนนใน Part 2 ได้ อาจจะมีโอกาสทำคะแนนได้เยอะกว่านี้ เอาล่ะ ไม่เป็นไร ปีหน้าเอาไหมนะ น้องๆทุกคน
โดยส่วนตัวโลกในอนาคตจะมี Network เชื่อมไปยังทุกๆจุดที่เราเดินทางไป ไม่ว่าจะเป็นสถานที่เล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม ดังนั้น เหล่า Hacker ก็จะสามารถแฝงกายเข้าไปซ่อนได้ทุกที่ และการแข่งขันนี้ก็คือจุดเริ่มต้นของน้องๆที่สนใจ ที่อยากจะมาเป็นตำรวจไซเบอร์ในการไล่ล่าหา Hacker นั่นแหละครับ ใครสนใจการแข่งขันปีหน้าก็เตรียมฝึกฝีมือให้พร้อมกันเอาไว้ได้เลย ปีหน้าผมก็กะจะไปชมบรรยากาศการแข่งขันอีกเช่นเคยเหมือนเดิมครับ ขอบคุณทาง CAT สำหรับการอนุญาตให้สัมภาษณ์คณะกรรมการที่ออกโจทย์การแข่งขันนี้ด้วยนะครับ อิอิ
