ตอนนี้ผู้ให้บริการ Data Center เริ่มที่จะเพิ่มทางเลือกในการให้บริการกับลูกค้ามากขึ้น โดยที่เมื่อก่อน ทางผู้ให้บริการก็จะมีแค่ Network ให้พื้นที่ให้ ส่วน Server ก็แล้วแต่ลูกค้านำมาติดตั้งกันเอง แต่ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา กระแสของ Cloud Services มันมาแรงมากซะจน ผู้ให้บริการ Data Center ต้องปรับตัวและเพิ่ม Product ด้าน Cloud กันบ้างแล้ว โดยที่ทาง CAT เองก็มี Cloud ของตัวเองมาให้บริการภายใต้ชื่อ IRIS Cloud ครับ
IRIS ย่อมาจาก Intelligent Resilient Information System โดยแนวคิดของทาง CAT ในการพัฒนา Cloud Platform ตัวนี้ขึ้นมาก็เพื่อออกแบบให้เป็น Multi-Cloud & Multi-Technology ในการเชื่อมต่อระบบ IT อื่น ๆ ซึ่ง IRIS Platform นี้ จะทำหน้าที่เหมือนเป็นห้องครัวขนาดใหญ่ที่มีการออกแบบและสร้างขึ้นมาอย่างดี มีอุปกรณ์ที่เพียบพร้อมสำหรับการสร้าง Cloud Service ทุกรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีทีมงานที่คัดสรรมาอย่างพิเศษเปรียบเสมือนพ่อครัวที่จะทำหน้าที่ในการสร้างสรรค์บริการต่างๆ ให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพ
สำหรับใครหลายๆคนที่ยังไม่รู้จักว่า Cloud Service คืออะไร ผมขอยกตัวอย่างเคสคลาสสิคเรื่องการลงทุนซื้อ Server เลยครับ
สมมติว่า ผมเปิดบริษัทขึ้นมาใหม่ แล้วผมอยากจะวางระบบ Web + Mail Server ในองค์กร ผมก็ต้องไปซื้อเครื่อง Server แล้วก็ลง Software จากนั้นก็จ้าง Network Admin มาดูแล ใช้งานมันใช่ไหมครับ
ปัญหาคือ Spec ของ Server ที่ซื้อวันแรกเนี่ย… ผมต้องซื้อ Spec ไหนล่ะ
ผมควรจะซื้อ Spec แรงๆเลยไหม เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ
หรือผมควรจะซื้อ Spec รองๆ เพื่อประหยัดงบ
ซึ่งถ้าผมซื้อ Spec ตัวแรงๆ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ มันจะเกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้กับ Server ตัวนั้น นั่นก็คือกว่า ธุรกิจจะเติบโตจนถึงจุดที่ Server ตัวนั้นทำงานเต็มที่ ก็เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ไปตั้งเท่าไหร่ แถมเสียค่าเสื่อมไปฟรีๆ กี่ปี
แต่ถ้าผมซื้อ Spec ตัวรองๆ แล้วเกิดธุรกิจขยายตัวขึ้นมากระทันหัน … ค่าใช้จ่ายในการซื้อ Server ที่สอง มันจะทับซ้อนกันกับ Server แรก เช่นค่า License Software , ค่า Network Config , ค่า Maintenance และอื่นๆอีกมากมาย
แต่ถ้าสมมติ ผมใช้ Cloud Service ในวันแรกของการเริ่มต้นการทำงาน
ผมสามารถซื้อ Spec ราคาเริ่มต้น เพื่อลดต้นทุนของบริษัทได้ … นอกจากนั้นค่า License Software บางตัวเช่น Windows License ก็ถูกรวมมาในค่าบริการอยู่แล้ว ทำให้ไม่ต้องซื้อรวดเดียว
วันดีคืนดี ผมจัดโปรโมชั่นอะไรซักอย่างเพื่อกระตุ้นให้คนมาเข้าเว็บ … ผมก็ Mail ไปหาผู้ให้บริการ ขอให้เพิ่ม CPU / RAM / Bandwidth รอไว้ให้เลย ซึ่งสามารถขึ้น Spec ได้ในพริบตาโดยที่ไม่ต้องรอสั่งซื้อ Hardware
พอโปรโมชั่นหมด ก็สามารถลด Spec ของตัว Server ที่ใช้งานลงมาสู่ Scale เดิมได้ โดยที่ไม่มีผลกระทบต่อข้อมูลใดๆ
อันนี้เป็นตัวอย่างแรกที่ชัดเจนที่สุด ของการใช้ Cloud ครับ
- ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ เพราะกำหนดได้ตาม Spec เลย
- ยืดหยุ่น ไม่พอก็อัพ .. ใช้เยอะไปก็ลดลงมา
- ลดค่าใช้จ่ายด้าน Maintenance .. ซึ่งถ้าเรามี Server ในการดูแลมาก คนดูแลก็จะต้องเยอะมากขึ้นไปด้วย แต่ IRIS Cloud ตัวนี้ทำงานอยู่เบื้องหลัง Network ที่ทางทีม IRIS ดูแลอยู่อีกที ทำให้ลดความกังวลเรื่อง Security ไปอีกขั้นนึง ไม่ต้องซื้อหา Firewall มาติดเอง
สำหรับคนที่อยากจะเทียบค่าใช้จ่ายระหว่างการวาง Server เองกับการใช้ Cloud ทาง CAT เค้าก็ทำตัวราคาเทียบมาให้ดูง่ายๆครับ โดยเทียบกับ ถ้าคุณลงทุนกับ Server ที่มี CPU 4 Core / Ram 8GB กับ HDD ที่เป็น SAS ขนาด 500GB โดยที่คิดเรื่องระบบสำรองด้วย (ซื้อ 2 เครื่องนั่นเอง) ค่าวางระบบ / ค่า Windows License โดยหารเฉลี่ยต่อเดือน / ค่าจ้าง Network Engineer เพื่อดูแล / ค่า Firewall + SLA Support แล้วคิดราคาเป็นรายปี ออกมาทั้งหมด 3 ปี ซึ่งถือเป็นจุดคุ้มทุนของ Server ตัวนั้น
ถ้าซื้อ Server ใช้เอง ก็ซัดค่าใช้จ่ายไปประมาณ 1,548,000 .. แต่ถ้าใช้ IRIS Cloud ตัว Size L .. ก็จะเหลือ 485,298 บาท .. (แอบมีลด 5% ด้วยนะ)
แต่อย่างไรก็ตาม องค์กรบางองค์กรก็ยังมีแนวคิดเรื่อง ไม่อยากจะให้ Data ไปอยู่ในมือคนนอกอยู่ดี .. ซึ่งอันนี้ก็เป็นหน้าที่เจ้าของบริษัทแหละครับ ว่าคุณน่าจะพิจารณาว่า ข้อมูลแบบไหน อยากจะเก็บไว้เอง หรือ Service ตัวไหน อยากจะไป Cloud ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายองค์กรนั่นแหละครับ
ถ้าสนใจดูรายละเอียด IRIS Cloud เพิ่มเติม ก็ไปดูได้ที่ http://iris.cattelecom.com/ เลยนะคร้าบ