Home -> Blog -> 10 เทคนิคทำ Facebook Live ยังไงให้คนตามดูเยอะๆ และไม่หนีไปไหน

10 เทคนิคทำ Facebook Live ยังไงให้คนตามดูเยอะๆ และไม่หนีไปไหน

ตอนนี้ Facebook live กำลังเป็น Feature หลักที่ทาง Facebook ดันแบบสุดลิ่มทิ่มประตูเพื่อสร้างรูปแบบในการนำเสนอเนื้อหาใหม่ๆบน Facebook จุดเด่นของมันก็คือ ความง่ายครับ แค่กดทีเดียว เปิดกล้อง ก็ Live ได้เลย ลดความซับซ้อนจากการทำ Live แบบเก่าๆไปได้เยอะมากๆ แต่ในขณะเดียวกัน ตอนนี้ผู้ใช้ Facebook ทั่วไป ก็ Live กันแบบสะเปะสะปะ แบบงงๆ ผมเลยทำเทคนิคการทำ Facebook Live ยังไงให้คนดูเยอะๆ และ ไม่หนีไปไหนมาฝากครับ

1. แจ้งคนดูล่วงหน้า ว่าคุณจะทำ Live ตอนกี่โมง

SNAG-0446

ถึงแม้ว่า การทำ Facebook Live จะได้รับการผลักดันแบบสุดๆ จากทาง Facebook ด้วยการเพิ่มค่า Reach ที่สูงมากไปยังเพื่อนเรา และคนที่ Follow เราอยู่อย่างมหาศาล แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะพร้อมดู Live ของเราทันทีนะครับ การประกาศล่วงหน้าว่าเราจะ Live กี่โมงและ Live เรื่องอะไรช่วยเพิ่มแรงกระตุ้น ให้คนรอคอย Live ของเรามากขึ้น และอย่าลืมลงท้ายฝากให้คนที่ติดตามอยู่แชร์ข้อความด้วยก็ดีครับ

2. หาสถานที่ที่มี WIFI แรงๆ หรือ 4G ที่เสถียรๆ ในการทำ Live

SNAG-0447

Internet ที่ดี ช่วยให้การทำ Live ราบรื่น ภาพไม่กระตุก เสียงไม่ขาดหาย คนดูไม่เสียอารมณ์ ถึงแม้ว่า Facebook จะใช้เทคโนโลยีในการบีบอัดภาพที่ค่อนข้างดีมากในการส่งข้อมูล แต่ผมก็แนะนำว่า คุณควรจะมี Internet ที่มีค่าอัพโหลดอย่างน้อย 2Mbps สำหรับการทำ Live ให้ภาพเป็น HD ดังนั้นก่อนทำ Live ก็ทำ Speedtest ทดสอบ Internet ที่ใช้งานดูก่อนว่ามีค่า Upload เท่าไหร่ และเพียงพอต่อการทำ Live ไหม

3. ทำบทพูดว่าจะพูดอะไรให้พร้อมก่อนทำ Live แล้วแปะไว้หน้ากล้อง

SNAG-0448

การทำรายการสด ไม่เหมือนรายการบันทึกเทปที่มันเกิดความผิดพลาดขึ้นมาก็ซ่อมได้ ดังนั้นการคิดเนื้อหาว่าเราจะพูดเรื่องอะไรก่อน Live เป็นส่วนที่สำคัญมากๆ ถ้าเป็นการรีวิว ก็อาจจะคิดว่า จะพูดเรื่องอะไรบ้าง ทำเป็นหัวข้อไว้ซัก 4-5 หัวข้อ เขียนใส่กระดาษแล้วแปะไว้ข้างมือถือ หรือจะพิมพ์ใส่ Notepad ตั้งไว้หน้าคอมอะไรแบบนี้ก็ได้ เพื่อให้เรา ไม่ลนลานว่าจะต้องพูดอะไรต่อ และทำให้การทำ Live ลื่นไหล ไม่สะดุด ไม่ต้องมา เอ่อ อ่าาาา อะไรหน้ากล้อง หรือที่ในวงการเขาเรียกว่า Dead air นั่นเองครับ

4. ก่อนจะเริ่ม Live .. ให้เข้าสู่ Airplane Mode แล้วเปิดเฉพาะ WIFI ซะ

maxresdefault

ผมเล่าไปในข้อสองว่า ให้หา WIFI แรงๆ ใช่ไหมครับ อีกหนึ่งสาเหตุที่เราต้องใช้ WIFI ก็คือ เพื่อให้เราปิดสัญญาณโทรศัพท์ในมือถือ ก่อนที่เราจะเริ่ม Live นั่นเอง หลายคนน่าจะงง จะให้ปิดทำไมฟระ….ลองจินตนาการว่าคุณกำลัง Live อยู่ แล้วมีคนโทรเข้ามาสิครับ โทรศัพท์จะตัดเข้าสู่หน้าจอที่มีคนโทรเข้าทันที แล้ว Live จะถูกหยุดด้วยครับ ดังนั้น ถ้าไม่อยากให้ Live สะดุดเพราะคนโทรเข้า ก็เข้า Airplane Mode แล้วเปิดเฉพาะ WIFI มาใช้ซะ  แต่ถ้าไม่มี WIFI จริงๆ แล้วต้องใช้ 4G .. ก็ภาวนาอย่าให้ใครโทรเข้ามาละกันครับ

5. หาขาตั้งกล้องมาใช้กับมือถือที่ทำ Live ซะ

IMG_20160430_233618

ผมเห็นเวลาคนทำ Live กัน ก็เปิดมือถือ แล้วก็ใช้มือยกถ่ายกันง่ายๆเลย จริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรหรอกครับ แต่ถ้าคุณถือด้วยมือ ภาพก็จะสั่นไปมา ดูแล้วเวียนหัว แถมตัวคุณเองยังโคตรเมื่อยอีก ถ้าเป็นไปได้ หา ขาตั้ง + ตัวยืดมือถือ มาใช้ซะ มันทำให้ Facebook Live ของคุณ ภาพนิ่งขึ้น ไม่เวียนหัว แถมคุณยังมีมือครบสองข้าง ไว้ทำท่าทาง หรือหยิบจับอะไรได้สะดวกขึ้นอีกต่างหาก ราคาของขาตั้ง + ตัวยึด iPhone ก็ราคาไม่กี่ร้อย ลงทุนนิดหน่อย ทำให้คุณ Live ได้สะดวกขึ้นแยะ

6. หาไมค์ดีๆ มาใช้เพื่อให้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้น

IMG_20160430_233819
Rode VideoMic ME สำหรับงานที่ต้องคุย Live กันหลายคน
IMG_20160430_233846
Rode SmartLav+ สำหรับการทำ Live ในที่ๆมีเสียงรบกวนเยอะๆ

ในการทำงานวีดีโอ ถึงภาพไม่ค่อยดี ก็อาจจะไม่แย่เท่าเสียงห่วยๆนะครับ เพราะเสียงที่ไม่ดี จะรบกวนคนที่ดูอยู่ ทำให้ไม่อยากดูต่อ ซึ่ง Facebook Live สามารถทำได้จากมือถือ แต่มือถือแต่ละตัวมีคุณภาพไมโครโฟนที่ดีไม่เท่ากัน ขนาด iPhone เอง เอามาทำ Facebook Live ยังต้องการที่เงียบๆ เพื่อให้คุณภาพเสียงที่ดีเลย แต่ถ้าเกิดคุณอยากเพิ่มคุณภาพของ Live ให้มันดีมากขึ้น การหาไมโครโฟนดีๆคือคำตอบครับ ผมใช้ Rode VideoMic Me สำหรับงานที่ต้องคุยกันหลายๆคน ในระยะภาพไม่เกิน 1-2 เมตร แต่ถ้าสถานที่ที่ผมจะทำ Live มีเสียงรบกวนเยอะมาก ผมก็ต้องเปลี่ยนไปใช้ไมโครโฟนแบบ Lavalier เพื่อลดเสียงรบกวนและเพิ่มขยายเสียงของผมให้ดีขึ้น แต่ถ้าเกิดคุณไม่อยากลงทุนขนาดนั้น การใช้ไมโครโฟนของหูฟัง iPhone ก็ช่วยได้เยอะมากแล้วครับ

7. ทักทายคนที่เข้ามาดู Live ด้วย อย่าพล่ามคนเดียว

SNAG-0449

การทำ Live ก็เหมือนการนำเสนอเนื้อหา แต่เสน่ห์ของมันคือมันเป็นการสื่อสารสองทางนะครับ คุณทำ Live ไปหาคนดู และคนดูก็ Comment กลับมาหาคุณได้ การทักทายคนที่เข้ามาดู Live ช่วยลดช่องว่างระหว่างคนทำ Live กับผู้ชมได้เยอะมาก อ่านชื่อเค้าแล้วก็ตอบสิ่งที่เค้าถามครับ นอกจากเพิ่มความสนิทสนมแล้วยังช่วยถ่วงเวลาตอนที่นึกไม่ออกว่าจะพุดอะไรได้ดีมาก แต่อย่าทักทายอย่างเดียวจนลืมวัตถุประสงค์ของการ Live ครั้งนั้นซะล่ะ ว่าจะ Live เรื่องอะไร

8. ถ้าอยากให้คนติดตามอย่างต่อเนื่อง ควร Live บ่อยๆ และเวลาเดิม

SNAG-0450

การทำอะไรอย่างต่อเนื่องช่วยเพิ่มคนที่ชม Live ของเราอย่างต่อเนื่องครับ ถ้าคุณทำ Live แบบนานๆทำที คนที่เคยดูอาจจะลืม หรือ ไม่ได้ติดตามต่อ แต่ถ้าคุณ “เตรียมเนื้อหา” มาทำ Live บ่อยๆ ก็จะเพิ่มฐานของแฟนๆขาประจำได้มาก และจะยิ่งดี หากคุณกำหนดไปเลยว่า จะ Live ทุกๆวันนี้ ตอนกี่โมง ได้จะยิ่งดี เพราะสามารถพูดย้ำเพื่อให้คนที่ฟังอยู่ติดตามได้ง่ายยิ่งขึ้นครับ

9. การ Live ไม่ควรทำสั้นกว่า 10 นาที และ ไม่ควรนานเกิน 30 นาที

maxresdefault2

เวลาคุณทำ Facebook Live ช่วงประมาณ 1-2 นาทีแรก อาจจะยังไม่มีคนเข้ามา เพราะตอนแรกๆ คนอาจจะยังไม่ได้รับ Notification ว่ามีเรากำลัง Live อยู่ ดังนั้นช่วงแรกๆ อาจจะยังไม่ต้องเข้าเนื้อหา แต่เป็นการพูดทักทายกันก่อน พอมีคนดูซักนิดหน่อยค่อยเริ่มเข้าเนื้อหาครับ ดังนั้น ถ้าคุณทำ Live สั้นๆ คุณจะแทบไม่มีคนดูเลยครับ แนะนำว่าการทำ Facebook Live อย่าสั้นกว่า 10 นาที เพราะถ้าสั้นไป คนจะเข้ามาดูไม่ทัน ส่วนเรื่องของความยาวเนี่ย ผมคิดว่า ไม่ควรนานเกิน 30 นาทีครับ เพราะถ้านานกว่านั้น คนก็หมดแรงชมแล้ว เพราะมีเนื้อหาอื่นๆ รอให้คนเสพอยู่เหมือนกันนะครับ ไม่ได้มี Live ของคุณคนเดียว ถ้าคุณทำ Live นานเกิดไป คนก็จะหายหมด และ คุณจะไม่ได้พูดปิด หรือ บอกลาคนดูครับ ดังนั้น Live นึง ไม่ต้องนานเกิน 30 นาทีครับ กำลังดีแล้ว

10.ก่อนจะจบ Live อย่าลืมบอกให้คนดู Subscribe คุณไว้ด้วย

livescribe

ก็เหมือนกับ Youtube แหละครับ ถ้าใน Youtube คุณอยากจะให้คนตามวีดีโอใหม่ๆของคุณ ก็ต้องขอให้เค้า Subscribe ตัว Channel ของคุณเอาไว้ … และ Facebook ก็สามารถทำได้เหมือนกันนะครับ โดยที่ปุ่ม Subscribe ก็จะอยู่ข้างล่างกับข้างบน ตามรูปเลยนะครับ

บอกตามตรงว่า ตอนนี้ทำ Facebook Live มาหลายครั้งแล้ว สนุกดี คงทำต่อไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นอ่านข่าว หรือ รีวิวอุปกรณ์มากมาย ยังไงใครที่กดดู Live ของผมก็อย่าลืมกด Subscribe ไว้ด้วยนะครับ

Check Also

การเรียนรู้รูปแบบใหม่ของ ม.กรุงเทพ ที่ทำให้อยากกลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้ง

นี่คือความรู้สึกของผมจริงๆ ตอนที่นั่งฟังอยู่ในงานแถลงข่าวเปิดตัวหลักสูตรใหม่ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เมื่อวันอังคารที่ 18 มิถุนายน 2019 ที่ผ่านมานี่แหละ ต้องเล่าให้ฟังก่อน ที่ ม.กรุงเทพเนี่ย เป็นมหาวิทยาลัยที่จะใช้ Creativity หรือความคิดสร้างสรรค์ เป็นแกนกลางแล้วนำไปผสานกับเทรนด์อื่นๆของโลก เพื่อสร้างเป็นหลักสูตร …