เห็นผมชำนาญด้านเทคโนโลยี ใครอยากได้มือถือ โน๊ตบุ๊คแนะนำได้หมด แต่ผมเองก็ตายน้ำตื้นเวลาเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเหมือนกันนะครับอย่างเครื่องทำน้ำร้อน เตาไมโครเวฟเนี่ย แทบไม่มีความรู้เลย ไปถึงก็ต้องถามพนักงานขายกันอย่างเดียว ทีนี้ ก็มีแพลนว่าจะติดแอร์ใหม่ที่บ้านของแฟนผม ซึ่งนอกเหนือจากการคำนวณ BTU แล้ว ผมก็นึกไม่ออกว่าต้องดูอะไรอีกบ้างเวลาซื้อแอร์สุดท้ายก็ต้องพึ่งพี่พนักงานขายนี่แหละ
ไปยืนหน้าตรงบูทเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีแอร์อยู่สารพัดยี่ห้อ … ทุกอันก็ดูเหมือนๆกันหมด เลยต้องถามพนักงานให้ช่วยแนะนำให้หน่อย ซึ่งเดี๋ยวนี้พนักงานเค้าก็ทำการบ้านและเป็นงานเหมือนกันนะ มีรูปแบบคำถามที่ช่วยทำให้เลือกสินค้าได้ง่ายขึ้น ซึ่งเค้าก็ถามขนาดห้อง ทิศที่แดดลง ว่าจุดที่จะติดโดนแดดโดยตรงหรือเปล่า แล้วอยากจะได้เทคโนโลยีอะไรเพิ่มเติมไม๊
ผมนึกไม่ออก รู้แค่ว่า ผมเปิดแอร์บ่อยแล้วก็เปิดมันเกือบทั้งวัน สิ่งที่คาดหวังก็แค่ขอให้แอร์มันทนๆ แล้วก็ประหยัดไฟเท่านั้นเองครับ
พี่พนักงานขายแกก็พาไปหาเจ้าแอร์ตัวนี้เลย
พนักงานขาย : พี่!! ลอง R32 แมะ
ผม : ห๊ะ R32 … Skyline GTR รุ่น R32 น่ะหรอ
ชั่วโมงนั้น ถ้าผมไม่ใช่ลูกค้า ผมก็มีความรู้สึกว่า พี่พนักงานขายเค้าคงอยากกระโดดถีบสองขาคู่ใส่ข้อหากวนตีนเหลือเกิน
เอาเป็นว่า แกเล่าให้ผมฟังว่า มันเป็นแอร์ Daikin รุ่นใหม่ เป็นแอร์แบบ Inverter ด้วย แล้วก็ใช้น้ำยาแบบใหม่ ทำให้ประหยัดไฟกว่าเดิมและทำให้เย็นเร็วต่อเนื่อง มีระบบตาวิเศษ แถมยังต่อ WIFI ได้อีก เฮ้ย เจ๋งวุ้ย สุดท้ายก็โดนพนักงานขายสะกดจิตแล้วก็สั่งซื้อเจ้าแอร์ Dainkin Inverter R32 ขนาด 24,200 BTU ตัวนี้มาแบบงงๆ (พนักงานขายนี่น่ากลัวจริงๆ!)
รออยู่ประมาณอาทิตย์นึง ทีมงานติดตั้งก็เดินทางมาที่บ้านของแฟนผม
ขั้นตอนการติดตั้งใช้เวลาไม่นานประมาณ 2 ชั่วโมงครับ เพราะบ้านหลังนี้มีจุดที่เตรียมไว้ให้ใส่ตู้ Compressor อยู่แล้ว
แปบเดียวการติดตั้งก็เรียบร้อย ทีมช่างที่มาติดตั้งทำงานค่อนข้างเรียบร้อยดี ท่อภายนอกภายใน หุ้มให้หมด ชอบแฮะ
เอาล่ะ หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว ก็ต้องขอรีวิวกันซักหน่อยว่าเจ้า Daikin Inverter R32 Turbo เอ๊ย .. R32 เฉยๆ รุ่นนี้มันมีความเทพยังไงกันบ้าง จากการทำการบ้านของผม และ การไปค้นหาข้อมูลมาทีละเรื่อง
อย่างแรกเลย ผมสงสัยมานานแล้ว เวลาดูโฆษณาแอร์ หรือ ตู้เย็น บอกว่ามีระบบ Inverter .. ซึ่งไอ้ Inverter นี่มันคืออะไรหว่า???
หลังจากทำการบ้านด้วยการค้นคว้า เปิด Wikipedia และอื่นๆอีกมากมาย สุดท้ายจบลงด้วยการโทรไปถามช่างแอร์เค้าบอกว่า
สมัยก่อนเวลาที่แอร์ทำงาน ตัวมอเตอร์ของคอมเพรสเซอร์จะทำงานแค่ 2 Step คือ หยุดหมุน… กับ หมุนแบบ 100% เลย ทำให้เสียงดัง เปลืองไฟมากๆ ลองนึกถึงตอนแอร์ตัดเวลาที่อุณหภูมิถึงจุดที่กำหนดไว้สิครับ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ อากาศก็จะร้อนขึ้นด้วยความรวดเร็ว พอถึงจุดที่ร้อนระดับนึง มอเตอร์แอร์ก็จะทำงานอีกครั้ง เสียงดัง อื๊ดดดดดดดดดด แล้วลมเย็นๆ ก็ออกมาสลับๆกันไป
ใครใช้แอร์รุ่นเก่าๆแบบนี้ในห้องนอนเรียกได้ว่า นอนหลับกันยากมากเลยทีเดียว เพราะเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว แถมบางจังหวะเสียงแอร์ดังจนตื่นอีก ต้องเอาคอมเพรสเซอร์ไปตั้งไว้ไกลๆ
ต่อมาก็มีการพัฒนาให้มอเตอร์คอมเพรสเซอร์สามารถหมุนเป็น Step ได้ แต่จังหวะรอบก็ยังไม่ค่อยลื่นไหล ลองนึกสภาพเหมือนพัดลมอ่ะครับ ที่ กด เบอร์ 1 / 2 / 3 เพื่อเลือกความแรงได้ แอร์ทำงานได้นุ่มนวลกว่าเดิม แต่ก็ยังมีจังหวะกระชากอยู่ดี
สุดท้ายก็มีคนคิดค้นระบบ Inverter เป็นระบบควบคุมการจ่ายไฟฟ้าให้กับตัวมอเตอร์ของคอมเพรสเซอร์ เพื่อให้สามารถลดความเร็วรอบของพัดลมได้แบบโคตรรรรละเอียด
ผลก็คือ เมื่อแอร์ทำงานถึงจุดที่เย็นที่สุด มันก็ไม่ต้องตัดตัวเองจนเหลือ 0 รอบ แบบเก่า แต่เปลี่ยนมาเป็นปั่นด้วยรอบต่ำๆเลี้ยงไว้เบาๆ ก็พอ หรือถ้าเกิดโดดแดดนิดนึง อุณหภูมิเริ่มขึ้น มันก็ปั่นตัวเองขึ้นเบาๆ ก็พอเพื่อให้เย็นขึ้น
การทำแบบนี้ ทำให้เกิดข้อดีหลายอย่างครับ
- ประหยัดไฟมาก เพราะจากการที่ต้องกระชากมอเตอร์เปิดๆ ปิดๆ กลายเป็นใช้พลังงานที่เหลืออยู่ของมอเตอร์ + พลังงานไฟฟ้าที่จ่ายเพิ่มเข้าไป ทำให้ประหยัดไฟขึ้นมาก
- เงียบ จากการที่ไม่ต้องกระชากมอเตอร์ในคอมเพรสเซอร์เวลาเปิดๆปิดๆ แอร์
- อากาศเย็นต่อเนื่อง ไม่เหมือนแบบเก่าที่ต้องรอรอบแอร์ตัด แล้วมานั่งทนร้อนอยู่เกือบ 20-30 นาทีแล้วรอแอร์ทำงานใหม่อะไรแบบนี้ ถ้าติดแอร์แบบ Inverter ในห้องนอนนี่โคตรหลับสบายเลยครับ
แถมพนักงานยังบอกอีกว่า ระบบ Inverter ของ Daikin มันเทพไม่เหมือนใครเลยนะพี่ เล่ามาฉอดๆๆๆ ตอนขาย จำไม่ได้ซักอย่างสุดท้ายต้องมาทำการบ้านหาข้อมูลเอง
รู้แต่ว่าในเว็บของ Daikin เค้าบอกว่า ระบบ Inverter R32 ของรุ่นที่ผมซื้อมาเนี่ย
- เค้าว่า ระบบ Inverter ของ Daikin จ่ายไฟฟ้าต่ำ แต่ให้พลังงานสูง โดยทำค่า SEER ได้ถึง 18.94 โดยที่ค่า SEER ย่อมาจาก Seasonal Energy Efficiency Ratio โดยวัดจากจำนวน BTU หารด้วยจำนวน Watt ที่ใช้นั่นเองครับ
- ใช้แม่เหล็กแบบนีโมไดเมียมให้พลังงานมากกว่าแม่เหล็กธรรมดา … เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการหมุนและการประหยัดพลังงานให้มากขึ้นไปอีก บร๊ะ
ถัดมาก็คือ การใช้สารทำความเย็นตัวใหม่ที่ชื่อว่า R32 ครับ เท่าที่ไปทำการบ้านเรื่องสารทำความเย็น มันเป็นประเด็นใหญ่โตที่ว่าสารทำความเย็นรุ่นเก่าที่เราเคยใช้กัน เช่น R22 กับ R401A มันเป็นสารทำความเย็นที่ก่อให้เกิดปัญหาภาวะโลกร้อนขึ้นมาก และมีการประชุมระดับโลกให้ไปหาสารทำความเย็นตัวใหม่ + ยกเลิกตัวเก่าไปได้แล้ว ซึ่งเจ้าสารทำความเน็น R32 ตัวใหม่นี้ จะให้ประสิทธิภาพด้านการทำความเย็นมากกว่าเดิม ลดค่าดัชนีการทำลายชั้นโอโซนมากกว่าเดิมเกือบ 3 เท่า แถม Daikin เป็นเจ้าแรกที่นำมาใช้ด้วย แต่ผมก็ไม่ใช่รายแรกที่เอามาติดบ้านแต่อย่างใด ฮ่า
อ่านเรื่อง สารทำความเย็น R32 เพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ
มีระบบตาอัจฉริยะ ที่สามารถช่วยยายคิดได้ .. #ไม่ใช่ละ …
เท่าที่อ่านดู เจ้าตาอัจฉริยะ ที่เจ้าเซนเซอร์ขาวๆกลมๆ ที่อยู่ด้านขวาของเครื่องเนี่ย เป็นระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวครับ ถ้าพบว่ามีคนอยู่ในห้อง เครื่องก็ทำงานปกติ แต่ถ้าคนไม่อยู่ในห้องนานประมาณ 20 นาที เครื่องจะปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้น 2 องศาโดยอัตโนมัติเพื่อประหยัดไฟแต่ไม่จำเป็นต้องปิดแอร์คร้าบ เหมาะกับการเอาไปติดใน Office นะ ตอนพักเที่ยงไม่มีใครอยู่ระบบก็ปรับอุณหภูมิขึ้นให้โดยอัตโนมัติ พอคนกลับมาก็เย็นใหม่อีกครั้ง แจ๋วดี
โหมดแปลกๆในรีโมทอีกเพียบ เช่น
- Eco Mode : โหมดประหยัดพลังงาน ลดการใช้งานพลังงานและการสิ้นเปลืองได้ถึง 30% (เค้าว่างั้นในคู่มือนะ)
- Night Set Mode : โหมดปรับอุณหภูมิแบบอัตโนมัติขณะหลับ เพื่อการประหยัดไฟและหลับสบาย + ตื่นง่าย เพราะอุณหภูมิของแอร์จะสัมพันธ์กับอากาศตอนเช้าทำให้อุ่นขึ้น เวลาเราลุกขึ้นมาจะได้ไม่หนาวจนหลับต่อ
- ระบบสวิงบานพับสามมิติ : ไม่รู้เป็นโหมดเดียวกับ เครื่องยิงสามมิติใน Attack on Titan หรือเปล่า แต่ก็เป็นระบบที่ทำให้ลมแอร์กระจายไปทั่วห้องได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ติดตั้งแล้วลองใช้งานประมาณ 2 อาทิตย์ พบว่า
- เย็นเร็วมาก เย็นระดับหนาวมือสั่น เย็นแบบวัวตายควายแช่แข็ง แอร์เครื่องเก่าต้องตั้งอุณหภูมิประมาณ 20 องศาถึงจะเย็นหนำใจ แต่นี่แค่ 24 ก็หนาวจะตายแล้ว
- เงียบมากๆ แทบไม่มีเสียงหึ่งๆ ของแอร์แบบเดิมๆให้เสียสมาธิเลย อันนี้เป็นเรื่องนี่น่าตกใจมาก คือ ทุกที จะนอนหลับเพราะว่าได้ยินเสียงแอร์ทำงาน คราวนี้กลายเป็นนอนไม่หลับเพราะนึกว่าแอร์ไม่ทำงาน มันเงียบไป ต้องปรับตัวซัก 2-3 วันถึงจะชิน
- โหมดตาอัจฉริยะ ยังไม่ได้ใช้เท่าไหร่ เพราะว่าใส่ไว้ในห้องนอน แถมไม่ค่อยอยู่บ้านด้วย ถ้าใช้กับ Office สำนักงานน่าจะเห็นประสิทธิภาพชัดกว่านี้
- เรื่องค่าไฟที่ลดลงเดี๋ยวต้องรอเทียบบิลค่าไฟเดือนนี้ก่อน ไว้จะมาอัพเดทอีกทีครับ
- ปิดท้ายเรื่องความทนทาน เห็นว่าทาง Daikin เคลือบสาร PE Fin เพื่อเพิ่มความทนทานทั้งอุปกรณ์และคอมเพรสเซอร์ + รับประกันนาน 5 ปี เดี๋ยวก็ต้องดูว่าทนจริงไหม อันนี้ต้องดูกันไปนานๆเลยล่ะ ฮ่า
ใครอยากลองติดแอร์ Daikin Inverter R32 ก็ไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.daikin.co.th/product/smart/ นะครับ