Home -> Review -> รีวิว WAHOO Blue SC .. เซนเซอร์วัดความเร็วและรอบขาจักรยานที่ถูกและแม่นกว่า Garmin

รีวิว WAHOO Blue SC .. เซนเซอร์วัดความเร็วและรอบขาจักรยานที่ถูกและแม่นกว่า Garmin

สำหรับคนที่อยากจริงจังเรื่องจักรยาน การจะหาเซนเซอร์วัดค่าสถิติเช่น รอบขา / ความเร็วแบบมานี้มาติดรถ มันก็เป็นเรื่องธรรมดาเนาะ แถมยิ่งใช้ตัว Bike Computer อย่างของ Garmin ด้วยแล้ว ยิ่งขาดไม่ได้ เพราะทำให้สถิติเราละเอียดครบถ้วนมากขึ้น แต่หลังจากที่ Garmin อัพเกรดอุปกรณ์เป็นรุ่นใหม่ (Garmin 520 นั่นแหละ)  ผมก็รู้สึกแย่กับตัวเซนเซอร์วัดความเร็วกับรอบขาที่มันแถมมาให้มาก เพราะมันสัญญาณขาดๆหายๆ ปั่นอยู่ดีๆ รอบขาหายไปครึ่งนึงอะไรแบบนี้ เทียบกับ Sensor รุ่นเก่าแล้ว คุณภาพต่างกันแบบฟ้ากับเหว

IMG_9718

เรื่องให้บ่นเกี่ยวกับไอ้เซนเซอร์รุ่นใหม่นี่มีอีกเยอะ เมื่อก่อนตัวเซนเซอร์จะเป็นแค่ชิ้นเดียว คือ วัดได้ทั้งรอบขา และ ความเร็วล้อ ในตัวเดียวเลย พอมาเป็นรุ่นใหม่ เจือกทำแยกขาย รอบขา กับ ความเร็วล้อ แยกกัน ราคามหาโหด ขายแยกอันละ 1,800 ขายคู่กัน 2,700 .. เออ ถ้าคุณภาพดีจะไม่ว่าเลย แต่คุณภาพมันสั่วขนาด คนที่ Thaimtb เอามาขายมือสองกันเป็นว่าเล่น เพราะมันวัดไม่ได้เรื่อง

ที่แย่กว่านั้นคือ หาซื้อ เซนเซอร์วัดความเร็วกับรอบขารุ่นเก่าไม่ได้แล้วด้วยครับ งานนี้ ผมเองก็ต้องดิ้นรนด้วยการไปหายี่ห้ออื่นมาใช้ล่ะ และที่ค้นเจอมาก็คือเจ้า Wahoo BLUE SC ตัวนี้คร้าบ

IMG_9723

Wahoo Fitness เป็นบริษัทที่ทำพวกอุปกรณ์ส่งเสริมการออกกำลังกาย พึ่งก่อตั้งบริษัทได้ไม่นานครับ เกิดมาเมื่อตอนปี 2014 นี่เอง แต่ก็เติบโตเร็วน่าดู เพราะปีนี้ บริษัท Wahoo Fitness ทำสัญญากับทีม sky เจ้าพ่อแชมป์ Tour De France ในการสปอนเซอร์ระบบ Indoor Trainer ให้กับ Chris Froome ที่เป็น Leader ของทีมครับ

IMG_9725

เจ้า Wahoo BLUE SC ตัวนี้เป็นเซนเซอร์วัดความเร็วรอบขา ที่ผมว่าเจ๋งดีตรงที่รองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อ 2 อันด้วยกัน นั่นก็คือ Bluetooth Smart กับ ANT+ ครับ

ซึ่งอุปกรณ์วัดสถิติในโลกออกกำลังกายมันแบ่งเป็นสองค่าย Support กันมานาน ข้างนึงเน้น Bluetooth ข้อดีก็คือใช้กับพวก Smartphone ได้ แต่ข้อเสียก็คือ อุปกรณ์ออกกำลังกายสาย Pro ส่วนใหญ่จะไม่รองรับ

ในขณะเดียวกัน พวกสาย Pro (เช่น Garmin , CATEYE )จะเน้นไปที่มาตรฐาน ANT+ มากกว่า กลายเป็นว่า หากคุณใช้อุปกรณ์สำหรับวัดต้องมานั่งดูอีกว่าจะวัดด้วยอะไร ก็ต้องซื้ออุปกรณ์ที่มัน Support ตัวนั้นๆมาด้วย แต่ Wahoo Blue SC ตัวนี้เจ๋งดีครับ รองรับ 2 มาตรฐานเลย ฮ่า ใช้กับมือถือก็ได้ ใช้กับ Garmin ก็ได้

หน้าตาของ BLUE SC ก็จะเหมือนกับเซนเซอร์รุ่นดั้งเดิมของ Garmin แหละครับ ตรงจุดสัมผัสด้านหน้าจะเป็นตัวรับสัญญาณแม่เหล็กจากขาจาน ส่วนก้านด้านหลังก็คือตัวรับสัญญาณแม่เหล็กจากล้อหลัง

IMG_9728

นอกจากตัวเซนเซอร์แล้ว ของในกล่องก็มีประมาณนี้ครับ

  • แม่เหล็กยึดขาจาน (ต้องมีประแจหกเหลี่ยมไว้ถอดบันไดด้วยนะครับ)
  • แม่เหล็กยึดซี่ล้อหลัง
  • ยางยึดตัวเซนเซอร์กับเชนสเตย์
  • Cable Tie ไว้ยึดตัวเซนเซอร์กรณีที่ยางรัดไม่ถึง

IMG_9731

การติดตั้งก็ไม่ยากครับ ถอดบันไดขาจานออกมาก่อน แล้วก็ยัดตัวแม่เหล็กขาจานลงไป แต่ขาจานเสือหมอบมันใหญ่ ไอ้ยางนี่ก็โคตรเล็ก ตอนยัดลงไปก็ยากสัสๆ (อ้าวไหนบอกง่ายไง) เอาเป็นว่าข่มขืนให้เข้ารูไปได้ประมาณนี้แหละครับ

IMG_9733

ใส่บันไดคืน วัดระยะระหว่างแม่เหล็กกับเซนเซอร์ให้ดีก่อนติดตั้ง

IMG_9734

ถ้าระยะได้ ก็ยึดด้วย Cable Tie แล้วก็ตัดสายโลด!!

IMG_9733

พอดีเป๊ะ.. อย่าลืมวัดแม่เหล็กซี่ล้อให้ตรงกับตัวเซนเซอร์หลังด้วยนะครับ

IMG_9737

กลับไปที่ Garmin แล้วกด Pair หาตัวเซนเซอร์โลด ตอนกด Search All ก็ปั่นขาจาน กับล้อให้หมุน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเชื่อมต่อครับ

IMG_9720

สำหรับฝากมือถือ หากจะใช้เจ้า BLUE SC ตัวมันรองรับ App ดังต่อไปนี้ครับ Strava / Cyclemeter / MapMyRide / Runtastic RoadBike / Wahoo Odometer / Wahoo Fitness

แต่ละตัว ไม่ใช่ยี่ห้อที่บ้านของเราใช้เลยครับ มีแค่ Strava นี่แหละที่เป็นความหวัง (ถึงแม้คนไทยจะใช้ปนๆกันระหว่าง Strava กับ Endomondo แต่ยังดีที่สองค่ายนี้มันโอนข้อมูลข้ามค่ายกันได้)

IMG_9743IMG_9742

วิธีจับคู่เจ้า BLUE SC กับ Strava ก็เปิด App แล้วไปที่หน้า Record ครับ กดตรงไอค่อน Setting ที่เป็นเส้น สามเส้นมีวงกลมพาดอ่ะครับ จากนั้นเลือกตรงหัวข้อ External Sensors

IMG_9745IMG_9746

กดเปิด Bluetooth Sensor ครับ จากนั้นก็ปั่นขาจานกับล้อให้หมุนติ้วๆ เพื่อกระตุ้นสัญญาณ Bluetooth ตรง Speed & Cadence จะเปลี่ยนจาก Searching เป็น Connected ครับ

IMG_9747

เท่านี้ก็ใช้ BLUE SC บนมือถือได้แล้วครับ เย๊

IMG_9735

โดยรวมแล้ว ผมชอบที่ค่าตัวไม่แพงมาก 2,200 บาท แต่รองรับทั้ง ความเร็วและรอบขาแถมยังได้ทั้ง Bluetooth และ ANT+ อีก ซื้อตัวเดียวเที่ยวทั่วโลก ยังไม่ได้ทดสอบความทนทานกับความแม่นยำเท่าไหร่ เดี๋ยวทดสอบเสร็จแล้วจะมาอัพเดทอีกทีครับ ใครสนใจไปซื้อได้ที่ ร้าน Mobile Sport ครับ ผมกดซื้อออนไลน์ใช้เวลา 2 วันถึง ก็โอเคดี มีถ่านกระดุมแถมมาให้อีกอันด้วย ชอบๆ

Check Also

รีวิว Auto-Empty Dock ของที่ต้องมีถ้ามีคุณ Roborock s7

ไม่ต้องเกริ่นเยอะ สำหรับคนที่ใช้งานหุ่นยนต์ทำความสะอาด ถึงแม้ว่ามันจะสะดวกสบายก็เถอะ แต่มันก็ยังเหลือ ภาระนิดๆ ให้คุณต้องมาจัดการบ่อยๆ นั่นก็คือ ต้องเอาฝุ่นใน Dustbin มันมาทิ้ง!! Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine