Home -> Blog -> 10 วิธีเร่งความเร็วตอนบูทเครื่อง

10 วิธีเร่งความเร็วตอนบูทเครื่อง

ไปเจอบทความนี้มาจาก LifeHacker เห็นว่าเข้าท่าดี ก็เลยแปลไทยมาให้พวกเราอ่านกันซักหน่อย เพราะความช้าในการบูทเครื่องของ Windows มันมีปัจจัยหลายอย่างที่ไม่เท่ากัน เพราะบางคน Windows ติดไวรัสก็ทำให้เครื่องช้า บางคนแรมน้อย บางคน CPU ช้า หรือบางคน Hard Disk เสีย แต่ถ้าเกิด เครื่องเราไม่มีปัญหาอะไรเลย จะใช้วิธีไหนได้บ้าง

  1. ปรับแต่งค่า BIOS
    ค่า BIOS หรือ Basic Input/Output System เป็นค่าตั้งต้นของคอมพิวเตอร์ในการจะเริ่มทำงาน ซึ่งวิธีเข้าไปปรับ BIOS ของคอมพิวเตอร์แต่ละยี่ห้อก็จะไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเป็น PC ส่วนใหญ่ก็จะให้กดปุ่ม “del” ตอนบูท เพื่อเข้าไปใน BIOS พอเข้าไปเสร็จมีค่าต้องปรับประมาณ 2-3 ค่าด้วยกัน ดังต่อไปนี้
    •  Quick Boot ให้เปิดเป็น On เพราะค่านี้จะปิดการทดสอบระบบก่อนใช้งาน ทำให้เครื่องบูทเร็วขึ้น
    • Boot List ถ้าติดตั้ง Windows เสร็จแล้ว ก็ปิดการบูทจากอุปกรณ์ USB , CD หรือ Network ออกให้หมด เพื่อให้การบูทจาก Hard Disk เร็วขึ้น
  2. ปิดโปรแกรมตอน Startup
    ให้คุณไปที่ Start -> Run แล้วพิมพ์คำสั่ง msconfig แล้ว กด Enter เรียกโปรแกรมขึ้นมา จากนั้นก็ไปที่หัวข้อที่ชื่อ Startup ค้นหาโปรแกรมที่คุณคิดว่า คุณไม่จำเป็นต้องใช้ แล้วติ๊กเครื่องหมายถูกออกให้หมด
  3. หน่วงเวลา Windows Service บางตัวให้มาทำงานตอนบูทเสร็จแล้วแทน (สำหรับ Windows 7 และ Vista เท่านั้น)
    ในตัว Windows จะมีพวก Service หรือ โปรแกรมที่จะทำงานทุกครั้งที่เข้า Windows ซึ่งยิ่ง Service มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องรอนานกว่าจะบูท Windows ได้ แต่บาง Service มันไม่จำเป็นต้องมาทำงานกันตอนบูท Windows เราก็สั่งให้มันไปเริ่มทำงานตอนที่บูท Windows เสร็จแล้วแทนครับ  (วิธีการเข้าไปทำ Delay Service Start คลิกที่นี่โลดครับ)
  4. แก้ไขค่าหน่วงเวลาตอน Boot Menu
    สำหรับบางคนที่ทำ Dual Boot หรือการบูท 2 OS ถึงจะมีหัวข้อนี้มาให้เลือก การลดเวลาตรงนี้จะช่วยทำให้บูทเร็วขึ้นไปอีก คนที่ไม่ได้ทำ Dual Boot ก็ข้ามหัวข้อนี้ไปเลยก็ได้นะครับ วิธีเข้าไปปรับค่านี้ ให้เรียกค่า msconfig ขึ้นมาเหมือนข้อ 2 แล้วไปที่หัวข้อ Boot แทน แก้ไขเวลา timeout จาก 30 วินาที ให้น้อยลง แต่อย่าให้เป็น ศูนย์ นะครับ เดี๋ยวเลือก OS ตอนบูทไม่ได้
  5. Disable Hardware ที่ไม่ใช้
    Hardware บางตัวที่ไม่ใช้จะมีปัญหาตอนบูทคือต้องโหลด Driver … ถ้าตัวไหนที่คิดว่าไม่ได้ใช้แล้ว ก็ถอดออกไปเลยก็ได้ หรือ Disable มันทิ้งไปผ่าน Device Manager ซึ่งวิธีการเข้า Device Manager ก็ให้คลิกขวาที่ My Computer เลือก Properties แล้วเลือกหัวข้อ Device Manager เลยครับ
  6. Update Antivirus และให้แน่ใจว่ามันทำงานได้
    วิธ๊การนี้ จะช่วยป้องกันพวก Malware เข้ามาติดเครื่องและทำให้เครื่องของคุณทำงานได้อย่างราบรื่นครับ ใครที่ใช้ Antivirus เถื่อนๆอยู่ โปรดจงแน่ใจไว้เลยว่ามันทำงานหลอกๆ เท่านั้นครับ ตอนนี้โปรแกรม Antivirus ฟรีๆ ดีๆ มีทั้งมากมาย เช่น Avast , MSE หรือ AVG ครับ
  7. เอา Font ที่ไม่ใช้ออก
    Font หรือรูปแบบตัวอักษร จะช่วยในการแสดงผล แต่ก็มีปัญหา ในการทำให้บูทเครื่องช้า ก็คือ ก่อนที่จะเริ่มการใช้งาน Windows จะทำการอ่าน Font ทั้งหมดในโฟลเดอร์ c:\windows\fonts ซึ่ง ยิ่งมี font เยอะ ก็จะทำให้บูทช้าไปด้วย ดังนั้น เลือกติดตั้งเฉพาะ Font ที่จำเป็นจะดีกว่านะครับ
  8. ยัดแรมเพิ่ม
    อันนี้เป็นวิธีที่เห็นผลที่สุดแล้วครับ ปัจจุบัน ปริมาณแรมที่ค่อนข้างโอเคในการใช้งานสำหรับทุกเครื่องจะอยู่ที่ 2GB และตอนนี้ราคาแรมก็ถูกมากๆแล้วยกเว้นแรมรุ่นเก่า ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ เพิ่มแรม จะเป็นวิธีที่เห็นผลที่สุดครับ
  9. FIX IP ให้กับเครื่องของคุณ
    ขั้นตอนนี้อาจจะลดเวลาได้ซัก 1 – 2 วินาที ในตอนบูท เพราะคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ จะใช้ระบบ DHCP (Dynamic Host Configuration Protocol) ซึ่งความสามารถนี้ จะใช้วิธ๊ รับค่า Network Setting จาก Router ซึ่งถ้าคุณอยู่บ้าน หรือ Office สำนักงาน การ Fix IP ก็จะช่วยได้มาก แต่ถ้าเป็น Notebook ผมแนะนำให้เปิด DHCP ไว้เหมือนเดิมจะดีกว่าครับ
  10. เปลี่ยนไปใช้ SSD (Solid State Drive)
    ปัจจุบัน อุปกรณ์ที่ถ่วงความเจริญและความเร็วคอมพิวเตอร์อยู่ทุกวันนี้ก็คือ Hard Disk ครับ เพราะในขณะที่คนอื่นเค้าทำความเร็วระดับ nanosecond กันแล้ว อีตานี่ยังวิ่งอยู่ที่ econd อยู่เลย ซึ่งความเร็วของ Hard Disk ในปัจจุบันจะอยู่ที่ 80-90MB/วินาที ในขณะที่ SSD จะวิ่งอยู่ที่ 150 – 400MB/วินาที ทำให้ความเร็วในการใช้งานต่างกันคนละขุมเลยครับ
เอาล่ะ หมดแล้วนะครับ สำหรับเทคนิค 10 ข้อที่ช่วยให้บูทเร็วขึ้น ซึ่งข้อ 8 กับข้อ 10 นี่ใช้เงินแก้ปัญหาล้วนๆนะครับ แต่ก็เป็นเรื่องจริงที่ปฏิเสธไม่ได้เช่นเดียวกัน เอาเป็นว่า ใครมีเทคนิคดีๆ ก็ส่งมากันได้นะครับ ผมจะได้เอามาแนะนำให้กับท่านอื่นๆเพิ่มเติมให้

 

Check Also

การเรียนรู้รูปแบบใหม่ของ ม.กรุงเทพ ที่ทำให้อยากกลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้ง

นี่คือความรู้สึกของผมจริงๆ ตอนที่นั่งฟังอยู่ในงานแถลงข่าวเปิดตัวหลักสูตรใหม่ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เมื่อวันอังคารที่ 18 มิถุนายน 2019 ที่ผ่านมานี่แหละ ต้องเล่าให้ฟังก่อน ที่ ม.กรุงเทพเนี่ย เป็นมหาวิทยาลัยที่จะใช้ Creativity หรือความคิดสร้างสรรค์ เป็นแกนกลางแล้วนำไปผสานกับเทรนด์อื่นๆของโลก เพื่อสร้างเป็นหลักสูตร …

3 comments

  1. ถูกใจใช่เลย

  2. ชอบคำว่า “ใช้เงินแก้ปัญหา” ในย่อหน้าสุดท้าย ฮ่าๆ

Leave a Reply