ช่วงนี้ก็ได้มีโอกาสโดนลากไปคุยกับผู้บริหารจาก True ค่อนข้างบ่อย ก่อนหน้านั้นก็เป็น TrueMove H รอบนี้เป็น TrueMoney ครับ น่าจะเพราะผมเล่าเรื่องบริการของ True Money ไปเมื่อซักเดือนที่แล้ว งานนี้ผู้บริหารคึกคักเลยอยากเชิญ Blogger มาพูดคุยแล้วก็ขอข้อมูลจากทางฝั่ง Blogger เพื่อไปปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน TrueMoney Wallet ครับ
ผมว่าประเด็นแรกที่คนอ่าน Blog นี้สงสัยกันคือ พวก Blogger นี่มันเป็นใครกันหว่า ทำไมผู้บริหารถึงต้องมาคุยด้วย???
ก็ต้องบอกว่า พวกเราชาว Blogger ก็เป็นผู้ใช้งานเหมือนกันคนอ่านทุกท่านนี่แหละครับ อาจจะได้เปรียบตรงที่พวกผมที่เป็น IT Blogger จะมีประสบการณ์ที่ได้ใช้ของที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ๆบ่อยกว่าชาวบ้าน ประสบการณ์การใช้งานของพวกเราก็จะมีในแง่มุมแปลกๆที่ ผู้ใช้ทั่วไปอาจจะนึกไม่ถึง ซึ่งการได้มาพูดคุยกับผู้บริหารโดยตรงอาจจะทำให้เรานำเสนอแง่มุมของบริการแปลกๆใหม่ๆได้นั่นแหละครับ
ทีนี้ประเด็นการพูดคุยวันนั้นมันมีอะไรบ้างล่ะ??
งานนี้ก็มี Blogger + สื่อข่าวไอทีจำนวนมาก มากันประมาณ 30 กว่าคน ทั้ง ผม และ พี่หลามที่เป็นตัวแทนล้ำหน้าโชว์ , Droidsans , Flashfly , iPhondroid หรือแม้แต่คุณเอิ้นแห่ง IT24hr แกก็มาด้วยครับ ซึ่งประเด็นเรื่องของ TrueMoney มาเอามาพูดคุยกัน น่าจะเป็นประเด็นในเชิงสอบถามประสบการณ์การใช้งานการจ่ายเงินแบบ Cashless ที่ทุกคนเคยใช้มากันมากกว่าครับ
ก่อนเริ่มช่วงสอบถามทางผู้บริหารของ TrueMoney Wallet ก็เข้ามาแนะนำองค์กร + สิ่งที่ตอนนี้ทาง True กำลังทำอยู่ในภาคธุรกิจด้าน Digital Money ว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่บ้าง โดยที่มีผู้บริหารสองท่านมานั่งทานข้าวแล้วก็พูดตคุยกับพวกเราเหล่า Blogger ครับ นั่นคือ คุณปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ประธานคณะผุ้บริหารบริษัท ทรู มันนี่ จำกัด (ในเครือแอสเซนด์ กรุ๊ป) และ คุณอรุณ สุดเวหา ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายเพย์เม้นท์ บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด
ซึ่งตอนนี้ปัญหาหลักๆที่ทาง TrueMoney ประสบกันเยอะมากก็คือ บรรดาผู้ใช้เบอร์มือถือแบบเติมเงิน ยังคงเลือกเติมเงินด้วยวิธีแบบเก่า หรือที่เรียกว่ากดผ่าน USSD
ถ้านึกไม่ออก มันก็คือ ระบบกดเติมเงินผ่านหมายเลข *xxxx#อะไรเนี่ยและครับ ปัญหาก็คือ ลูกค้าใช้วิธีบันทึกตัวหมายเลข USSD เติมเงินกันเอาไว้ในเครื่อง แล้วก็ซื้อโปรผ่านระบบนี้กันอย่างเดียว เป็นปริมาณที่สูงมาก สูงถึง 90% ของลูกค้าแบบเติมเงินด้วยกัน
ซึ่งทาง True เองก็บอกว่า การที่ลูกค้ายัง USSD แบบเดิมๆเนี่ย มันจะทำให้ลูกค้าไม่มีโอกาสได้พบโปรใหม่ๆ พอจะส่ง SMS ไปแจ้งโปรใหม่ที่ถูกกว่า ลูกค้าก็มองว่าเป็น Spam พอจะทำการโฆษณาในช่องทางอื่น ก็กลายเป็นว่าทาง True มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น พอต้นทุนเพิ่มก็ไม่สามารถทำโปรที่ราคาประหยัดกว่าเดิมให้ลูกค้าได้ ปัญหาวนเป็นงูกินหางอยู่แบบนี้
ทางฝั่ง Blogger ก็ยิงถามไปตรงๆเลยครับ อ้าว แล้วลุกค้าใช้โปรราคาแพงแบบนี้ ไม่เป็นประโยชน์ต่อทาง True กว่าเหรอ?
ทางผุ้บริหารแกก็ตอบตรงๆครับ แกบอกว่า มันดีก็จริง แต่ในเชิงประสบการณ์ผู้ใช้งานมันจะไม่ดีเลย และลูกค้าก็อาจจะพลาดโอกาสที่จะใช้บริการอื่นๆของทาง True ด้วย
ทีนี้ทาง True ก็มุ่งมั่นที่จะผลักดันให้ตัวแอป TrueMoney Wallet เป็นทางเลือกของผู้ใช้งานสายเติมเงิน พยายามทำให้ True Money สามารถชำระค่าใช้จ่ายได้หลายๆอย่าง รวมไปถึง การเติมเงินและการซื้อโปรผ่าน True Money Wallet เนี่ย จะมีโปรเฉพาะที่จำหน่ายในนี้เป็นราคาพิเศษ ที่ไปเติมโปรที่อื่นไม่ได้ รวมไปถึง การทำ Cashback เงินเมื่อจ่ายค่าบริการผ่าน TrueMoney Wallet
คือ ตอนผมอ่านสิทธิประโยชน์ของทาง TrueMoney Wallet เนี่ย ผมแม่งตาวาวเลยครับ คือ โปรก็ดี เติมเงินก็ Cashback จ่ายเงินซื้อของใน 7-11 ก็ได้ แถมพวกสิทธิ์แลกซื้อ หรือ เหรียญใน 7-11 ก็เก็บสะสมใน App ไปเลยทีเดียว ไม่ต้องมานั่งเก็บใบเสร็จหรือรอสติ๊กเกอร์อะไรพวกนี้แล้ว
แต่ทว่า….. ยอดผู้ใช้งานของลูกค้ากลุ่มเติมเงินนั้นก็ยังไม่ค่อยย้ายมาใช้กัน
การพูดคุยสอบถามกับ Blogger ก็จะเป็นเรื่องของประสบการณ์ในการใช้งาน Digital Money ของแต่ละคนว่ามี Lifestyle กันเป็นยังไงบ้าง
คนชงประเด็นบ่อยๆ น่าจะเป็นคุณลิ่ว แห่ง Blognone มากกว่า แกเองก็เป็นคนที่ใช้ True Money Wallet บ่อยมากๆ แล้วก็เวลามีเศษเหรียญในกระเป๋า แกก็มักจะไปหยอดตู้ของ True Money เพื่อโยนเข้ากระเป๋าเงินออนไลน์แกไปเลย ทางคุณลิ่วก็ Comment ไปว่า ระบบใบเสร็จของตู้ Kiosk ของ True Money น่าจะมีให้เลือกรับใบเสร็จทาง Email แทน เพราะว่าแกก็เกรงใจบางทีเดินไปหยอดตู้ True Money ห้าบาท สิบบาท ก็พิมพ์ใบเสร็จออกมาเลย ซึ่งแกบอกว่าเปลือง
ผมเองในฐานะที่เข้า 7-11 บ่อยๆ แล้วก็จ่ายเงินซื้อของใน 7-11 ผ่าน True Money Wallet ก็แจ้งปัญหาไปว่า บางทีไปจ่ายเงินที่ 7-11 แต่พนักงานยังงงๆ เวลาที่เราบอกว่าจะจ่ายด้วย True Money บางทีกดผิดๆถูกๆ กัน 4 รอบกว่าจะจ่ายได้ ซึ่งทางทีมผุ้บริหารก็บอกว่า ทางเราเทรนน้องพนักงานอยู่ตลอด แต่ว่าอาจจะรบกวนทางลูกค้าช่วยสอนน้องๆที่ยังเป็นมือใหม่ด้วย ซึ่งในหน้าจ่ายเงินก็ประโยคเอาไว้บอกน้องๆว่า ควรจะกดปุ่มอะไรเพื่อให้ชำระผ่าน True Money Wallet ได้
อีกเรื่องนึงที่ผมถามทางทีมผู้บริหารไปก็คือ ตอนนี้ทาง AIS จับมือกับ Samsung เอาบัตร Mastercard ใน mPay มาผูกกับ Samsung Pay ได้ ซึ่งทาง True Money wallet เองก็มีระบบที่ออกบัตร Mastercard ให้กับทางลูกค้าเหมือนกัน เป้นไปได้ไหม ที่จะทำให้เพิ่มบัตร Mastercard จากฝั่ง True Money เข้าไปใน Samsung Pay ได้ ซึ่งทางทีมผู้บริหารก็บอกว่า เรามีแผนไว้เรียบร้อยแล้ว อีกไม่กี่เดือนจะใช้ได้อย่างแน่นอนครับ
ในเชิงประเด็นเรื่อง คนกลุ่มเติมเงินยังไม่ค่อยย้ายมาที่ระบบ True Money Wallet ทางพี่หลามแกชงประเด็นนึงที่ค่อนข้างน่าสนใจว่า น่าจะเป็นเพราะกลุ่มคนเหล่านี้ ส่วนใหญ่ได้รับรายได้เป็นรายวัน และพอใช้เพียงแค่นั้น น่าจะไม่ได้มีเงินก้อนสำหรับเติมเข้าไปในระบบเพื่อทิ้งๆเอาไว้ ถึงแม้ว่าอยากจะใช้ แต่รายได้ก็ไม่เอื้ออยู่ดี แถมโปรโมชั่นพวก Cashback เวลาคืนเป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์ คนกลุ่มนี้มีรายได้น้อยมากๆ เงินที่เติมเข้าไปในระบบแล้วได้ Cashback กลับมาก็น้อยมาก
ซึ่งเราพูดคุยกันในประเด็นนี้ค่อนข้างเยอะ โดยรวมอาจจะยังไม่มีข้อสรุปตายตัวในเชิงการให้บริการ แต่ว่าทางผู้บริหารทั้งสองท่านเองก็ได้รับทราบแง่มุมที่พวกเรา Blogger แชร์กันในตลอด 2 ชั่วโมงของการพูดคุย (จริงๆมีประเด็นเยอะกว่านี้มากครับ มีลงลึกในระดับการ Optimize App ให้มันทำงานเร็ว ตอบสนองเร็วเลยทีเดียว ซึ่งผมมองว่าอาจจะ Geek ไปหน่อย เอาแค่ประเด็นเรื่องการใช้งานก็พอ)
ทีนี้ผมขอเล่าประสบการณ์ในการใช้งาน TrueMoney Wallet App บ้างละกันครับ
ตัวผมเองเริ่มใช้มาได้ประมาณเกือบๆ หนึ่งปีแล้ว สาเหตุที่เลือกใช้ก็เพราะว่า 7-11 เป็นร้านค้าเดียวในละแวกบ้านผมที่อยู่ในรัศมีเดินไปถึง ซึ่งเวลาผมไปซื้อของใน 7-11 เนี่ย ผมก็ซื้อของในปริมาณที่เยอะมาก อารมณ์เหมือนเข้า Super Market แบบเล็กๆอ่ะครับ ขนม น้ำ นม ขนมปัง มาม่า เรียกได้ว่าเข้าหนึ่งครั้งมีเสียเงินประมาณ 300-400 บาท ปัญหาที่เจอหลักๆจะมีสองเรื่อง
- เงินสดไม่พอ
- เงินทอนท่วม
ซึ่งไอ้สองปัญหาเนี่ย มันก็สร้างความหงุดหงิดให้ผมระดับน่ารำคาญเลยล่ะ อารมณ์เหมือนเดินมาคิดเงิน แล้วอ้าว เงินไม่พอ แต่โอ้โห ข้างหลังต่อคิวกันเพียบเลย จะเดินออกไปกดตังค์ ก็เสียเวลาเยอะมาก
สุดท้ายไปเจอโฆษณาที่โปรโมทว่า TrueMoney จ่ายเงินใน 7-11 ได้นะ เลยสมัครแล้วผูกบัญชีไปแบบไม่คิดชีวิตเลย เติมเงินทิ้งไว้ 1,000 นึง เผื่อเดินเข้า 7-11 ก็จ่ายได้เลย โคตรเท่ อารมณ์เหมือนคนกิน Star Bucks ก็จ่ายเงินด้วยแอป Star Bucks … แต่ของเราจ่ายค่า 7-11 ฮ่าๆ
ปิดท้ายอีกนิด ก็คือ ปัญหาที่เหล่า Blogger ให้ข้อสรุปค่อนข้างตรงกันเกี่ยวกับเรื่องของระบบ Cashless ในบ้านเราก็คือ บริการรับชำระเงิน ยังไปไม่ถึงทุกห้างร้าน ทุกคน ทุกที่ ทุกแห่งจริงๆ เพราะปัจจุบันเอาแค่บัตร BTS กับ MRT มันยังจ่ายร่วมกันไม่ได้เลย คนกลุ่มชนชั้นกลางหรือคนที่มีรายได้น้อย ยังไม่กล้าเอาเงินมาใส่ไว้ในระบบเพราะ การรับจ่ายเงินมันยังมีข้อจำกัด ถ้ามันเป็นเหมือนประเทศญีุ่่นที่กระเป๋าเงิน Digital ของเราสามารถจ่ายตรงไหนก็ได้เนี่ย มันจะทำให้คนกล้าใช้บริการตรงนี้มากขึ้น ซึ่งผมเองก็ช่วยผลักดันแค่ได้ว่า ให้ความรู้คนเรื่องระบบเงิน Digital เยอะๆ จะยี่ห้อไหนก็ได้ ถนัดยี่ห้อไหนก็ใช้ไปเหอะ แต่ถ้าคนกลุ่มนี้ใช้เยอะๆ ผมว่ามันจะมีแรงกระเพื่อมให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นครับ
โปรโมทปิดท้าย Blog
ทางทีมงาน True Money ก็ฝากเอาโปรโมชั่นมาแจกครับ เป็นโปรเด็ดๆสำหรับคนใช้งานโทรศัพท์มือถือกับแอป TrueMoney Wallet นะครับ
- รับฟรีทันทีทรูมูฟ เอช อินเตอร์เน็ต 500 MB เต็มสปีดแบบรายครั้ง (เฉพาะลูกค้าทรูมูฟ เอช ระบบเติมเงิน) ในราคา 15 บาท โดยสมัครและรับสิทธิ์ง่ายๆ ได้ที่นี่ http://d.truemoney.com/pr500MB จากนั้น ดาวโหลดแอปทรุมันนี่ วอลเล็ท และซื้อแพ็คเกจอินเตอร์เน็ตแพ็คใดก็ได้ครั้งแรกผ่านทรูมันนี่ วอลเล็ท รับเงินคืนเข้า วอลเล็ท 100% จำกัดเงินคืนสูงสุด 20 บาททุกแพ็คเกจ สิทธิพิเศษตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 60
- สิทธิพิเศษเพิ่มเติมลูกค้าสามารถเลือกแพ็คเกจทั้งแบบรายครั้งหรือบุฟเฟ่ต์เน็ตไม่อั้น หลากหลายครบทุกสไตล์ ทุกแพ็คลดเพิ่มอีก 7% (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) ช่องทางสำหรับเติมเงิน (Truemoney Wallet ) สะดวกมากยิ่งขึ้น ผ่าน 7-eleven , ATM/ Internet Banking/ Mobile Banking ฟรีค่าธรรมเนียม โดยเริ่มต้นการเติมเงินที่ 100 บาท ( ยกเว้น ตู้เติมเงิน ) ครบ คุ้ม ง่าย เติมได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http://ext.truemoney.com/pro/vas/new/