ปัญหาของการไปเมืองนอกแล้วปวดหัวมากก็คือ เรื่องของโทรศัพท์ครับ .. ที่เจอกันบ่อยมากๆก็คือ เอามือถือของตัวเองไปเที่ยวเมืองนอก กลับมาก็จะเจอบิลค่าโทรศัพท์ชนิดพร้อมจะเป็นลมไปซะตรงนั้นเลย ซึ่งถ้าเกิดไม่ได้เปิดโปรโมชั่นหรือเตรียมความพร้อมไปเนี่ย ก็อย่าเอามือถือไปจะดีกว่า แต่ไปต่างประเทศแล้วไม่พกโทรศัพท์ไป ก็ไม่อุ่นใจอีก เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา ก็ลำบาก โอ๊ยปวดหัว
ผมเองสมัยก่อนเวลาเอามือถือไปต่างประเทศ ก็จะใช้วิธีไม่โทรออก เก็บไว้รับสายเฉยๆ เพราะคิดว่า แค่รับสาย เราคงไม่เสียเงินมั้ง .. แล้วถ้าเกิดมีใครโทรเข้ามา เราก็รีบบอกเค้าว่า เราอยู่ต่างประเทศ เค้าจะได้รีบๆพูดแล้วก็รีบๆวางสายไป หรือถ้าเกิดเป็นสายที่ไม่สำคัญ ก็แค่ไม่กดรับ น่าจะพอคุมค่าใช้จ่ายได้ แต่ทว่า สิ่งที่ผมคิดไว้มันผิดกับความเป็นจริงมากๆเลยครับ เพราะว่า
- อยู่ต่างประเทศ เวลารับสายก็เสียเงิน บางประเทศรับสายดันแพงกว่าโทรออกของอีกประเทศซะอีก
- เวลามีสายเข้ามา ถึงไม่รับ ก็เสียเงินไปแล้ว เพราะสัญญาณมันมาถึงแล้ว รับๆไปเหอะครับ
- พอรับสายแล้ว ยังไงมันก็คิดเงินนาทีแรกไปแล้ว ดังนั้น ใช้ 1 นาทีนั้น คุยให้คุ้มค่าซะแล้วก็รีบวางก่อนจะครบนาทีถัดไป
ดังนั้นวิธีของผมที่ผมใช้งานหลังจากที่รู้เรื่องพวกนี้แล้วก็คือ ผมจะเปิดเบอร์โทรศัพท์อีกเบอร์นึงเอาไว้ ไม่บอกใครเลย เพื่อไม่ให้ใครโทรเข้ามาครับ แล้วเบอร์นั้นก็แค่เปิดโปร Internet ระหว่างประเทศไว้ เล่น Twitter , Facebook ติดต่องานผ่าน Email เฉยๆ ซึ่งก็พอจะคุมค่าใช้จ่ายได้บ้าง
ต่อมา ที่ประเทศต่างๆเริ่มมีพวก Sim มือถือแบบเติมเงินสำหรับนักท่องเที่ยว ให้เลือกใช้งานเป็นพวก Unlimited 3 วัน , 7 วัน อะไรก็ว่าไป ผมก็ใช้วิธีไปซื้อ Sim ที่ต่างประเทศแทน แล้วไม่เอาโทรกลับไทยด้วย เปลือง ไม่ใช้หรอก เพราะยังไงก็ไม่คุยอยู่แล้ว ใช้แต่ Social Network + Email อย่างเดียวก็เหลือเฟือ
แต่ทว่า..
เมื่อตอนผมไปสิงค์โปร์เมื่อช่วง 24 – 27 พฤศจิกายน 2012 ที่ผ่านมา ดันเกิดเหตุการงานเข้าขึ้นครับ ผมอยู่บนเกาะ Sentosa ซึ่งเป็นเกาะของพวกนักท่องเที่ยวกำลังเดินชมวิวริมหาดอยู่เลย อยู่ดีๆลูกน้อง Mail มาบอกว่า มีลูกค้าเป็นท่านผู้บริหารอยากให้โทรไปคุยเรื่องงาน เผื่อจะมี Project ใหญ่ .. แต่ว่า ท่านผู้บริหารไม่ได้ใช้ Twitter , Facebook หรืออะไรพวกนี้ แถมที่สำคัญ จะให้ผม Facebook Chat ไปคุยกับท่านเรื่องงาน มันก็ยังไงๆอยู่นะ ดังนั้นทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกรณีนี้ก็คือ ควรจะโทรเข้าออฟฟิศ หาเลขา เพื่อให้ได้คุยกับท่านลูกค้ารายนี้
แต่ Sim ของผมมันเป็น Internet SIM อย่างเดียว มันโทรไม่ได้ แถมไม่ได้เติมเงินมาเพื่อโทรข้ามประเทศด้วย ที่สำคัญก็ดันลืมเอา Sim เบอร์หลักที่เปิด Roaming ไว้แล้วที่โรงแรม โอ้วโน้ววว อะไรมันจะงานเข้าขนาดนี้ฟระเนี่ย
พอ Facebook Chat คุยกับลูกน้องซักพัก มันก็บอกว่า “พี่ ลองไปโหลด App TOT netcall แล้ว sign in ด้วย Account ผมก็ได้ มันเป็นบริการโทรแบบ VoIP เข้าเบอร์บ้าน เบอร์ออฟฟิศจากอินเทอร์เน็ตได้”
ก็เลยลองดูครับ โหลด App , ใส่ Username + Password กดผัวะ ออนไลน์โทรกลับเมืองไทยหาลูกค้าได้ แถมราคาไม่แพงอีกด้วย พอกลับจากสิงค์โปร์ผมเลยคิดว่า เออ ดีแฮะ ผมน่าจะมี TOT netcall ทิ้งไว้ซัก 1 Account บ้างนะ เผื่อไปเมืองนอก อยากโทรกลับไทย หรือใครอยากโทรหาผมผ่านทาง TOT netcall มันก็ราคาไม่แพงแฮะ พอกลับมาถึงกรุงเทพเลยมาเปิดบริการบ้างครับ พอเปิดเสร็จ เติมเงินใส่ไว้ 50 บาทแล้วเสร็จแล้วก็เลยเอามาแนะนำด้วย เผื่อใครๆแถวนี้จะอยากใช้วิธีแบบผมในการไปลุยต่างประเทศกันบ้าง
บริการ TOT netcall เป็นบริการคุยโทรศัพท์แบบ VoIP จากทาง TOT ซึ่ง เทคโนโลยี VoIP ก็คือ การแปลงคลื่นเสียงให้กลายเป็น ข้อมูล Digital แล้วส่งออกไปทาง Internet ข้อดีมากๆก็คือ สัญญาณเสียงคมชัด ไม่มีคลื่นรบกวน สำหรับ TOT netcall ก็ต้องการอินเทอร์เน็ตขั้นต่ำเพียงแค่ 100 kbps ผ่าน ADSL หรือ 3G เท่านั้นครับ
สำหรับสัญญาณเสียงที่เราคุยกันในโทรศัพท์มือถือระบบ GSM ทั่วไป จะมี bitrate หรือ ค่าบีบอัดความชัดของเสียงอยู่ที่ 14.4 kbps เท่านั้น (อ้างอิงจาก gsm-modem.de) ซึ่งค่านี้ยิ่งมากก็จะยิ่งชัด แต่ก็จะใช้ Bandwidth ในการส่งข้อมูลเพิ่มมากขึ้นไปด้วย ดังนั้นเวลาเราคุยโทรศัพท์ เราก็จะรู้สึกว่าเสียงมันไม่ค่อยจะใสเท่าไหร่ แต่การคุยโทรศัพท์มือถือเนี่ย เค้าจะเน้นคุยรู้เรื่องมากกว่าคุยชัดเสียงใสอะไรแบบนี้ ซึ่งมันก็ถูกต้องอยู่แล้ว
บน TOT netcall ก็เลยจะมีเสียงที่คมชัดกว่าการคุยมือถือแบบทั่วไป โดยที่ใช้ Bandwidth เพิ่มขึ้นมาอีกหน่อยแหละครับ
วิธีการสมัครก็ค่อนข้างง่ายครับ แต่ก่อนอื่นเลย ผมอยากให้ทุกท่านวิ่งไป 7-11 แล้วถามกับพนักงานว่า ขอบัตร TOT Prepaid ราคา 100 บาท ใบนึงก่อนเลยแล้วค่อยวิ่งกลับมาหน้าคอมเพื่อสมัครครับ เพราะว่ามันต้องมีค่าใช้จ่ายในการเปิด Account ครั้งแรกด้วยครับ
การสมัคร Account สามารถไปสมัครได้ที่ http://www.totnetcall.com ได้เลยครับ ซึ่งขั้นตอนแรกจะไม่มีอะไรมาก เป็นการกรอกรายละเอียดทั่วไป ซึ่งคนเล่นอินเทอร์เน็ตน่าจะชินกันอยู่แล้ว และหลังจากที่กดสมัครเสร็จ ทาง TOT netcall จะส่ง email มายืนยันการสร้าง Account ครับ
ตรงนี้ไม่มีอะไรมาก กดยืนยันการสร้าง Account ตรง Link ที่ผมปาดสีแดงๆทิ้งไว้ เพื่อไปยังขั้นตอนถัดไปได้เลยครับ
หน้านี้จะให้เราเลือกว่า เราจะเลือก Promotion แบบไหน แน่นอนล่ะ สำหรับคนที่ซื้อบัตรมาแค่ 100 เดียวแบบผมจะเลือกอะไรได้นอกจาก Package แรกสุด (ฮ่าาาา) แต่ตรงนี้ ถ้าเราเติมเงินเยอะ โปรโมชั่นก็จะถูกลงไปด้วยนะครับ
หน้านี้แหละครับ เอาบัตรเติมเงินมาขูดแล้วก็กรอกเลข 14 หลักลงไปเลย
ยืนยันเรียบร้อย ผมใช้เงินใน TOT Prepaid Card เติมเงินไป 50 บาท ยังเหลือเงินอีก 50 บาทในการ์ดไว้ไปเติมบริการอื่น หรือถ้า TOT netcall หมดค่อยกลับมาเติมอีกรอบก็ได้
ระบบ TOT netcall จะส่ง Username กับ Password มาให้ทาง Email ก็อย่าให้หายนะครับ สำคัญมาก แล้วก็วันหมดอายุของ Account นี้จะมีอายุ 1 ปีด้วยกันครับ
แค่นี้แหละครับ การเปิดบริการ Account TOT netcall ก็ง่ายดี ไม่มีอะไรมาก แต่ว่าเราสามารถเอา Account TOT netcall นี่ไปใช้ได้ที่ไหนกันบ้างล่ะ
- ถ้าบนมือถืออย่าง iOS เช่น iPhone , iPod Touch , iPad ตอนนี้จะมี App ให้โหลดใช้งานได้ 3 ตัว ครับนั่นคือ TOT netcall , Sipfone , 3CX Phone
- บน Android ก็ใช้ 3CX Phone , Sipdroid , CSipSimple
- บนเครื่อง PC มีโปรแกรมชื่อว่า TOT netcall , X-Lite [Download ได้ที่นี่ครับ] ที่ผมชอบมากในหน้าดาวน์โหลดของ TOT netcall ก็คือ มีคู่มือภาษาไทยอธิบายให้เสร็จ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยคล่องครับ ทำตามคู่มือไปได้เลย
แม้แต่บนเครื่องโทรศัพท์บ้านก็ยังสามารถใช้คุยได้ แต่คุณจะต้องมีอุปกรณ์แปลงให้โทรศัพท์บ้านให้กลายเป็น VoIP ที่เรียกว่า ATA ครับ ย่อมาจาก Analog Telephone Adapter ซึ่ง แล้วแต่ Spec ของอุปกรณ์ที่ซื้อ ซึ่งถ้าตัวเทพๆ สามารถแปลงโทรศัพท์ทั้ง Office ให้กลายเป็น VoIP ได้เลย
สำหรับค่าบริการในการโทรจะมีหลายแบบด้วยกัน มาดูการโทรระหว่างประเทศกันก่อนละกันครับ ซึ่งประเทศที่น่าสนใจก็จะมี อเมริกา , สิงค์โปร์ , จีน , ฮ่องกง ครับ เพราะโทรหาทั้งเบอร์บ้าน และเบอร์มือถือในประเทศนั้นๆ อยู่ในเรทแถวๆ นาทีละบาท จนถึง บาทหน่อยๆเท่านั้นเอง ถูกหยั่งกะโทรหามือถือในบ้านเรา และสำหรับประเทศอื่นๆสามารถกดตรวจสอบค่าโทรได้ [ ที่นี่ ] เลยครับ คุณสามารถโทรไปที่แปลกๆก็ได้นะครับ อย่างประเทศ แอสเซสชั่น หรือ หมู่เกาะโซโลมอน (อยู่ตรงไหนของโลกฟระเนี่ย) จะมีค่าบริการอยู่ที่นาทีละ 35 บาทครับ ฮ่าๆ อยากลองอะไรแผลงๆก็ทดลองดูได้ครับ
ข้อควรรู้สำหรับการใช้งาน TOT netcall
- TOT netcall โทรหา TOT netcall ด้วยกัน ฟรี!! (จะใช้ iOS โทรหา Android , Android โทรหา PC หรือยังไงก็ได้ ฟรี)
- TOT netcall โทรหาเบอร์บ้าน หรือเบอร์มือถือในประเทศ จะคิดเรทตามโปรโมชั่นที่สมัครไป (โปรโมชั่นสำหรับ Prepaid / โปรโมชั่นแบบรายเดือน)
- โทรไปต่างประเทศจะคิดเรทตามประเทศนั้นๆ (สามารถดูราคาแต่ละประเทศได้ที่นี่)
- อยู่ต่างประเทศ จะโทรกลับไทย จะคิดเรท เหมือนโทรภายในประเทศตามโปรโมชั่นที่เราสมัครไว้
- ถ้าโทรในประเทศ เศษที่เกิน 1 นาทีจะคิดเป็น 1 นาที แต่ถ้าโทรต่างประเทศ จะคิดเศษตามวินาที และขั้นต่ำจะอยู่ที่ 1 นาทีครับ
โดยส่วนตัวแล้ว ผมว่า TOT netcall เหมาะมากกับคนที่ต้องมีการติดต่องานกับต่างประเทศอยู่เรื่อยๆ โทรบ่อยๆ และมี Internet ให้ใช้งานอยู่ตลอด รับรองโคตรเหมาะเลยครับ หรือ Office ที่อยากทำระบบโทรศัพท์ระหว่างสาขา คุณมีสาขาอยู่ 2 ที ก็ทำ TOT netcall ไว้ 2 Account โทรหากันก็ฟรีเลยครับ
ข้อดีมากๆ ของ TOT netcall ที่เหนือผู้ให้บริการเจ้าอื่นอย่าง Skype ก็ง่ายๆเลยครับ คุณวิ่งไปซื้อบัตรเติมเงินที่ 7-11 ได้ แต่กับ Skype คุณต้องมีบัตรเครดิต ซึ่งหลายๆคนอาจจะยังไม่สะดวกเท่าไหร่ ที่สำคัญ TOT ยังเป็น ISP เจ้าใหญ่ของประเทศไทยมีเครือข่าย Fiber Optic เดินไปทุกจังหวัด ดังนั้นการโทรในประเทศจะให้เสียงที่ดี และ Lag น้อยกว่า การใช้ Skype แน่ๆล่ะครับ
มีข้อสงสัยอยากสอบถามนิดนึงครับ..(ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกรึป่าว?)
คือ การที่จะใช้ TOT netcall ได้จะต้องมีการเชื่อมต่อinternetใช่มั้ยครับ?และสำหรับมือถือ…
1. ถ้าจะเชื่อมต่อเน็ตแบบประหยัดก็ต้องซื้อบัตรเติมเงินเหมาจ่ายของปท.นั้นๆ(ถ้ามี)ใช่มั้ยครับ?หรือไม่ก็หาสัญญาณfree wifi(ซึ่งหายากมาก ส่วนใหญ่จะเสียตังค์)
และ
2.ถ้าในกรณีที่เราจะใช้เบอร์มือถือเดิมของเราที่ทำการroamingใช้โทร TOT netcall แบบเสียเฉพาะค่าโทรnetcall(ไม่เสียค่าroaming)ก็สามารถทำได้ แต่ต้องเชื่อมต่อinternetผ่านทางสัญญาณwifiให้กับมือถือของเรา(กรณีที่มีfree wifiให้ใช้)เท่านั้น, ใช่มั้ยครับ?(เพราะไม่ผ่านเครือข่ายผู้ให้บริการมือถือที่ทำการroaming…)
ผมเข้าใจถูกต้องมั้ยครับ?
ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ
– ถูกต้องแล้วครับ จะมือถือ จะคอมพิวเตอร์ ต้องต่อ Internet ครับ
– มีครับ ส่วนใหญ่ประเทศที่พัฒนามากแล้วจะมีขายอยู่ในเรท 3 – 5 วัน ประมาณ 300 – 500 บาท / Free Wifi สิงค์โปร์มีทั้งประเทศครับ /
– ใช่ครับ มือถือ ก็ต้องต่อผ่าน Internet ส่วนจะต่อ Internet ผ่านอะไรก็ได้ครับ โดยที่ค่าใช้จ่ายในการต่อ Internet ก็ต่างหากนะ ไม่เกี่ยวกับการ roaming เข้าเครือข่ายมือถือเลยครับ
ขอบคุณสำหรับคำตอบมากครับ…
ผมเพิ่งไปสิงคโปร์มาเมื่อเดือนที่แล้ว หาเน็ตฟรียากมากครับ จะมีเฉพาะตามร้านบางร้านในห้างที่ปล่อยเน็ตฟรีให้ใช้ ส่วนที่โรงแรมลืมไปได้เลยครับ..คิดค่าบริการเป็นรายชม.แพงมากครับ (คงเป็นเพราะผมไม่ได้พักร.ร.ระดับแพงน่ะครับ เขาถึงไม่มี free wifi ให้ใช้งาน (คืนละตก 5,000 ฿ผมก็ว่าไม่ถูกแล้วนาา…แต่ค่าครองชีพที่นั่นสูงกว่าบ้านเรามาก) )
ส่วนเรื่องการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตกับมือถือที่ทำการ roaming เขาจะคิดเหมาจ่ายเป็นรายวันน่ะครับ(อย่างประหยัด) ..อย่างของ DTAC รู้สึกจะได้ 25 MB จ่ายวันละ 350 ฿ แต่ถ้าใครเผลอไม่ได้เลือกโปรโมชั่นละก็…จ่ายหัวโตแน่นอนครับ เพราะปกติจะคิด 256 ฿/MB เลยทีเดียว
ฉะนั้น…ทางเลือกสำหรับคนที่จะใช้มือถือที่ทำการ roaming ไว้ต่ออินเตอร์เน็ตเพื่อใช้ TOT netcall จึงน่าจะเป็นทาง free wifi ใช่มั้ยครับ? จะได้ไม่ต้องเสียค่า data roaming ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
PS.ทำไมเมล์ที่อ.ศุภเดชส่งมา (Freeware.in.th : 3 นาที) เวลาเปิดดูใน iPhone บางทีก็อ่านออก(เป็นภาษาไทย) แต่บางครั้งกลับกลายเป็นภาษาต่างดาวล่ะครับ??? งง..จุงเบย :p