Soxy Xpreia Z คือ เรือธงระดับตัวแรงของค่าย Sony ในสงคราม Smartphone มาโดยตลอด ซึ่งตอนนี้ มีทั้งหมด 9 ตัวแล้ว โดยที่มี Sony Xperia™ Z2 เป็นตัวล่าสุดครับ ผมได้รับ Z2 สีขาวมาจากทาง Sony พร้อมกับการบ้านที่ว่า ขอให้รีวิวอย่างเต็มที่ ไม่มีกั๊ก ทั้งข้อดีและข้อเสียกันเลยทีเดียว เอ้ามาดูกันเลยครับ
Code Name ในการพัฒนาของ Z2 คือ Sirius ครับชื่อในการพัฒนา หรือชื่อโครงการพวกนี้ ถูกตั้งเอาไว้เรียกกันตอนทำงานเพื่อที่เวลาคุยกันจะได้ไม่มีข่าวรั่วออกไปว่า กำลังพัฒนาไม้ตายอะไรกันอยู่
Z2 ก็คือผู้สืบทอดความสำเร็จของ Xperia™ Z1 รุ่นพี่ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วในฐานะของ Smartphone ตัว Top ที่หน้าตาดีที่มีหลักการในการออกแบบก็คือ Omni Balance ครับ ก็คือตัวโทรศัพท์มันจะสมมาตรกันหมดทุกสัดส่วน และขึ้นตัวเฟรมด้วย Aluminium แล้วทำแบบ Unibody เพื่อความแข็งแรง และ กันน้ำได้ ถ่ายรูปใต้น้ำก็ได้นะครับ
มาดู Spec คร่าวๆของ Sony Xperia™ Z2 กันก่อนนะครับ
- CPU : Qualcomm SnapDragon™ 801 2.3 Ghz (จริงๆมันก็คือ SnapDragon™ 800 ที่ Overclock ขึ้นไปเป็น 2.3Ghz น่ะแหละครับ)
- Ram : 3GB (เป็นปริมาณแรมที่เยอะสุดตั้งกะมี Smartphone มาเลย)
- Storage : 16GB แล้วสามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้อีก 128 GB (แต่ว่าพื้นที่สำหรับใช้ได้จะอยู่ที่ 11.57 GB นะครับ เพราะส่วนของ Android มันใช้ไปหน่อยนึงแล้ว)
- Battery : 3,200 mAh
- หน้าจอ : ขนาด 5.2 นิ้ว เป็นจอ BRAVIA IPS LCD และใช้เทคโนโลยีหน้าจอแบบ TRILUMINOS™ ที่มีความละเอียดระดับ FullHD 1080x 1920 pixels มีความหนาแน่นของ Pixel อยู่ที่ 424 ppi ครับ
- กล้อง : ถ่ายรูปด้วยความละเอียด 20.7 ล้าน ด้วยเลนส์ G ซึ่งเป็นเลนส์ที่ใช้กับกล้อง Digital ของ Sony เอง คู่กับเซนเซอร์แบบ Exmor RS ปิดท้ายด้วยระบบประมวลผลภาพแบบ BIONZ™ (คือเทคโนโลยีด้านกล้องที่ยัดมาให้ นี่มันคือมาจากกล้อง Digital ของ Sony ทั้งหมดเลยครับ)
- ถ่ายวีดีโอแบบ 4K , Time Lapse , ปั่นเบลอหน้าหลังได้ , มีแอปพลิเคชั่นกล้องแบบ AR มาให้ด้วย ที่สามารถเพิ่มแอนิเมชั่นต่างๆขณะถ่ายภาพได้
- น้ำหนักอยู่ที่ 163 กรัม เบากว่า Z1 นิ๊ดดดดดดดดดดดนึงครับ เบากว่า 7 กรัมได้ ฮ่าๆ แต่ถือว่าเบากว่าเยอะเหมือนกันถ้าเทียบว่า Z1 จอ 5 นิ้ว แต่ Z2 ใช้จอ 5.2 นิ้วครับ
- ตัวเครื่องที่ผมได้มาเป็นรุ่น D6502 ซึ่งรองรับแต่ 3G อย่างเดียว ยังไม่รองรับ LTE แต่ก็สามารถใส่ 3G ได้ทุกค่ายครับ เพราะรองรับครบทุกความถี่
- พวกการเชื่อมต่อทั้งหลาย เช่น Bluetooth LE , NFC , WIFI แบบ 5GHZ ก็มีหมดครับ ฟังวิทยุก็ได้ แต่ต้องเสียบสายหูฟัง
เท่าที่ดูจาก Hardware เนี่ย ก็ถือว่า Sony ยัดสเปคมาให้แบบเต็มข้อไม่มีกั๊กแล้วล่ะครับ จัดให้หมดทุกอย่าง
ที่ผมชอบมากอีกอันก็คือ เทคนิคในการ Design เครื่องให้กันน้ำครับ คือ เพื่อที่จะทำให้กันน้ำได้ ก็ต้องออกแบบให้ปิดสนิททุกส่วน แต่อย่าง Port การเชื่อมต่อทั้งหลายจะทำยังไงดีล่ะ ต่อให้มีฝาปิด แต่การเปิด-ปิดฝาบ่อยๆ ก็ทำให้มันหลวมได้ ทาง Sony ก็เลยออกแบบ Port การต่อเชื่อมแบบพิเศษของตัวเอง เพื่อให้สามารถชาร์จและ Sync ได้โดยที่ไม่ต้องมานั่งแกะฝาปิดกันน้ำครับ
ซึ่งนอกจากป้องกันปัญหาฝาปิดกันน้ำเสื่อมเร็วแล้ว ยังขาย Accessories เพิ่มได้อีกนะครับเนี่ย ฮ่า
ถึงแม้ว่าหน้าตาของ Z1 กับ Z2 จะเหมือนกันอย่างกับแกะ แต่ก็มีวิธีการแยกระหว่าง Xperia™ Z1 กับ Z2 ง่ายๆครับ เพราะว่าช่องใส่ SIM จะอยู่กันคนละข้าง ของ Z1 จะอยู่ด้านขวา แต่ของ Z2 จะอยู่ด้านซ้ายครับ
ตัว Z2 จะใช้ Micro SIM แบบเดียวกับ iPhone4 / 4S นะครับ ซึ่งจะมีถาดใส่ SIM มาด้วย ก็ใช้เล็บจิกถาดออกมาแล้ววาง SIM ลงไป จากนั้นก็ยัดกลับเข้าไปก็ใช้ได้แล้วครับ
จาก Hardware ก็มาดู Software กันบ้างนะครับ
12 comments