Home -> Review -> รีวิวเครื่องฟอกอากาศยี่ห้อ Airocide ที่มาพร้อมเทคโนโลยีจากยานอวกาศ

รีวิวเครื่องฟอกอากาศยี่ห้อ Airocide ที่มาพร้อมเทคโนโลยีจากยานอวกาศ

ถ้าใครได้ดูรายการช่างคุย ตอนพี่หมอรัฐอยากจะดราม่า ภาค 2 .. จะเห็นว่าตรงนั้น มีผม และ พี่ Ben ร่วมรายการด้วย โดยที่ตอนท้ายรายการ พี่Ben ก็มานำเสนอ สินค้าที่แกเป็นตัวแทนจำหน่ายอยู่ เป็นเครื่องฟอกอากาศที่หน้าตาเหมือนลำโพงไฮโซชื่อ Airocide หลังถ่ายรายการวันนั้น ผมก็แอบสนใจมาก พี่ Ben ก็ใจดี ส่งมาให้ทดสอบ 1 ตัว ขอบคุณพี่ Ben มากๆครับ

ทีนี้ พี่ Ben ก็เล่าให้ฟังว่า เจ้าเครื่องฟอกอากาศเครื่องนี้ ไม่ได้ใช้ Filter กรองอากาศแบบเครื่องกรองอากาศทั่วไป แต่เป็นเทคโนโลยีใหม่ของ NASA ที่ใช้บนยานอวกาศโน่นนนนนครับ …

Screen Shot 2557-09-22 at 16.35.09

เรื่องของเรื่องก็คือ ใน Project ที่จะส่งนักบินอวกาศในดาวอังคารเนี่ย มันเป็นการเดินทางที่ไกลมาก ไกลขนาด ขนอาหารไปเท่าไหร่ก็ไม่พอ ทางเดียวที่จะทำให้มันพอได้ก็คือ ต้องปลูกพืชผัก กันในยาน เพื่อให้มันเป็นระบบนิเวศน์ครบวงจร จะได้มีอาหารกินกันได้อย่างต่อเนื่อง

ทีนี้ปัญหาก็คือว่า เวลาที่พวกพืชผักที่นำไปในอวกาศมันจะมีการคายเอธิลีนก๊าซออกมา ซึ่งเป็นสาร VOC ประเภทหนึ่ง

สาร VOC (Volatile Organic Compound) มันคือสารอินทรีย์ที่สามารถระเหยเป็นไอกระจายตัวไปในอากาศได้ง่ายที่อุณหภูมิและความดันปกติ โดยทั่วไปแล้วแหล่งกำเนิดของสารอินทรีย์ระเหยมี 2 แหล่งใหญ่ คือ สารอินทรีย์ระเหยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น ไฟไหม้ป่า ก๊าซจากการเน่าเสียของอินทรีย์วัตถุ รวมทั้งจากการขับถ่ายและการหายใจของมนุษย์ เกิดจากภูเขาไฟระเบิด หรือ เกิดจากพืชบางชนิดที่ผลิตสารอินทรีย์ระเหยสู่บรรยากาศ เป็นต้น สำหรับรายละเอียดเต็มๆของสาร VOC ไปหาอ่านกันได้ที่นี่เลย

แล้วไอ้สาร VOC ตัวเนี่ย มันไปเร่งปฏิกริยาของผักผลไม้ให้สุกเร็วขึ้น ซึ่งถ้าเป็นสภาวะปกติบนโลกสารพวกนี้ก็จะสลายหายไปในชั้นบรรยากาศเอง แต่พอมาอยู่ในอวกาศที่เป็นสภาวะปิดตาย ก๊าซพวกนี้ก็ไม่หายไปไหน ผลก็คือ ผัก ผลไม้ที่อุตส่าห์แบกขึ้นอวกาศไป เน่าเสียหาย กินไม่ได้หมด

กลายเป็นว่าทาง NASA ก็มีการบ้านที่ต้องกลับมาขบคิดว่า จะทำยังไงถึงจะกำจัดเจ้าพวก สาร VOC ประเภทนี้ดี เพราะขนาดของโมเลกุลมันเล็กมาก ไม่สามารถใช้ HEPA Filter ที่เป็น Filter กรองอากาศแบบละเอียดในการช่วยกรองได้  แถมพอเจอเรื่องแบบนี้เข้าไป NASA ก็ต้องขบคิดให้มันจบในทีเดียวเลยว่า “ทำยังไงถึงจะสามารถสร้าง อากาศที่สะอาดบนกระสวยอวกาศได้” เพราะนอกจากไอ้เจ้าเอธิลีนก๊าซแล้ว ก็ไม่รู้อนาคตจะต้องเจออะไรอีก ขอคิดเทคโนโลยีทีเดียวให้มันจบในตัวเลยละกัน

NASA เลยร่วมมือกับมหาวิทยาลัย Wisconsin ในการวิจัยระบบฟอกอากาศแบบใหม่ที่ไม่ได้ใช้ตัว Filter กรองอากาศ จนกลายมาเป็นเทคโนโลยี Airocide ครับ

ผมนั่งฟังพี่ Ben เล่าให้ฟัง ก็เลยสงสัยว่า เอ๊ะ ตกลง Airocide มีไว้เพื่อป้องกัน ผักสุกเร็วแค่นั้นหรอ????

เกือบโดนพี่ Ben เบิ๊ดกระโหลกให้

Screen Shot 2557-09-22 at 16.49.04

จริงๆแล้ว Airocide สามารถทำให้อากาศสะอาดได้ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะตัวของเค้า  นั่นก็คือ การใช้เทคโนโลยีในการเคลือบไทเทเนียมที่ตัวทำปฏิกริยาที่พัฒนาโดยนาซ่า เพื่อทำลายเชื้อโรคที่มีขนาดเล็ก โดยที่ไม่ได้ใช้การดักจับแบบ Filter ทั่วไป พูดง่ายๆ เทคโนโลยีการทำให้อากาศสะอาดนี่คนละเรื่องเลย คุณไม่จำเป็นต้องเอา Filter ไปล้างน้ำ หรือทำความสะอาดครับ ถ้าตัวสารเคลือบไทเทเนียมหมดประสิทธิภาพการทำงานก็แค่เปลี่ยนครับ น่าจะประมาณปีละครั้ง

IMG_2595

ว่าแล้วก็มาแกะกล่อง Airocide กันเล้ยยยย ตัวเครื่องขนาดแอบใหญ่นิดนึง

IMG_3129

เปิดฝากล่องออกมา ก็เจอป้ายรับแขกเท่มากครับ “ขอต้อนรับสู่การปฏิวัติอากาศสะอาด” แหม่!!

IMG_2599

แกะกล่องออกมา ก็หน้าตาพร้อมใช้ครับ เสียบไฟใช้ได้ทันที เสียงจะดีขนาดไหนนะ #ก็บอกว่าไม่ใช่ลำโพง!!

IMG_3121

แผงด้านหน้าเรียกว่า Grill Plate ครับ ไม่ได้มีตัวยึดอะไร สามารถแงะเบาๆแกะออกมาได้เลย จะเจอตัว Reaction Chamber 2 ชิ้น บนกับล่าง ซึ่งเจ้านี่แหละครับ เป็นตัวทำความสะอาดที่เราต้องเปลี่ยนเมื่อมันหมดประสิทธิภาพในการทำงาน

IMG_3122

อันนี้ผมแกะตัว Reaction Chamber ออกมาดูข้างหลังจะเห็นว่ามันเป็นวัสดุอะไรซักอย่างที่เหมือนกับแก้ว

IMG_3125

ด้านหลังมีปุ่มเปิดปิดอยู่

IMG_2600

ว่าแล้วก็เอาไปทดสอบในห้องนอนกันเลยดีกว่า ยกไปตั้งหัวเตียงแล้วก็รู้สึกว่าแหม หน้าตาดีมีชาติตระกูลจริงๆ เห็นแล้วก็ชอบนึกว่าเป็นลำโพงทุกทีสิน่า

IMG_3131

การทำงานของ Airocide มี 3 โหมดด้วยกันครับ

  • ขีดยึกยือเส้นเดียว เป็นโหมดทำงานแบบเงียบสุด
  • ขีดยึกยือ 3 เส้น เป็นโหมดทำงานเต็มที่
  • วงกลมๆ เป็นโหมด Auto

วิธีการใช้งานก็ไม่มีอะไรมาก วางเอาไว้ในห้อง เสียบปลั๊ก แล้วก็เปิดเครื่อง จากนั้นเลือกโหมด Auto จบข่าวกลับบ้านนอนได้ครับ

ห๊ะ!! แค่เนี้ยเรอะ เทคโนโลยี NASA

 

ใช่ครับ มีแค่นี้แหละครับ

ระหว่างที่เครื่องทำงาน พัดลมดูดอากาศก็จะดูดเอาอากาศไปทำความสะอาดด้วยเทคนิคที่ชื่อว่า Photo Catalytic Oxidation (CPO)

box_catalyst

เชื้อโรคที่ลอยอยู่ในอากาศจะถูกดึงเข้าสู่เครื่องและถูกกดอัดให้แน่นด้วยตัวเร่งปฏิกิริยาระดับสูงโดยใช้แสงที่มีความเข้มข้นสูงระดับ 254 นาโนเมตร ปฏิกิริยาจะทำลายเชื้อโรคเหล่านี้ทันทีที่สัมผัสกับเหล่าเชื้อโรคร้าย และระบบก็จะไม่กักเก็บสิ่งใดไว้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดด้วยการยก Filter ไปเทอะไรแบบนี้ครับ

IMG_3126

ทาง Airocide เคลมว่าสามารถกำจัดสารอินทรีย์ระเหยที่เป็นอันตรายเช่น สเปรย์แอโรซอล สารทำความสะอาด สารฆ่าเชื้อโรค สิ่งที่ท่านใช้สำหรับทำงานอดิเรก เสื้อผ้าที่ผ่านการซักแห้ง วัสดุก่อสร้างและทินเนอร์ ยาฆ่าแมลง หรือแม้แต่สเปรย์ปรับอากาศ ได้เกือบ 100%และ สามารถกำจัดเชื้อโรคในอากาศที่เครื่องฟอกอากาศทั่วไปทำไม่ได้ เพราะอนุภาคเหล่านี้ มีขนาดเล็กเกินกว่าที่ไส้กรองจะดักจับไว้ได้

SNAG-0244

เทคโนโลยีของ Airocide ได้ถูกนำไปใช้ในหลายๆสถานที่เช่น โรงพยาบาล โรงบ่มไวน์ ห้องเก็บรักษาอาหารและวัตถุดิบในระดับอุตสาหกรรม เรียกได้ว่าทดสอบกันมาเป็นสิบปี กับสถานที่ที่ต้องการอากาศสะอาดๆระดับเทพๆ กว่า 700 แห่ง

และทาง Airocide เค้าก็รับประกันด้วยว่า คุณจะรู้สึกดีขึ้นใน 6 สัปดาห์ หากไม่ดีขึ้น ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนครับ บร๊ะ ป๊าจริงๆเลยยยยยย

และจากการทดสอบในห้องนอนขนาด 5 x 4 เมตร เป็นเวลาประมาณ 4-5 สัปดาห์แล้วเนี่ย ผมก็ขอสรุปคร่าวๆดังต่อไปนี้ครับ

  • มันมีเสียงการทำงานเบาๆ ตอนแรกที่วางไว้หัวเตียงผมก็รำคาญเสียงมันนิดหน่อย เลยย้ายไปวางที่โต๊ะปลายเตียง ก็สามารถหลับได้สบายๆ
  • ที่คอนโดเป็นห้องขนาด 84 ตรม โดยที่ ห้องนอนมีขนาด 20 ตรม ผมเลี้ยงหมา Jack Russell ไว้หนึ่งตัว ขนร่วงเยอะมากขนาดต้องใช้หุ่น iRobot 760 มาทำความสะอาด แต่ขนก็ยังลอยในอากาศอยู่ดี หลังจากที่เปิด Airocide ทิ้งเอาไว้ในห้องแล้ว เหมือนทุกทีจะที่เคยเห็นเศษขนลอยๆในอากาศมันน้อยลงจนรู้สึกได้ครับ
  • ผมเป็นโรคแพ้ฝุ่น เวลาที่พักผ่อนน้อย แล้วมาเจอฝุ่นในห้องนอน จะมีอากาศน้ำมูกมาทันที ที่หัวเตียงจะต้องมายาพ่นฉีดจมูกเพื่อขยายโพรงจมูกไว้ เพราะไม่งั้นนอนไม่ได้เพราะน้ำมูกตัน ทำให้หายใจไม่ออกครับ ในช่วงที่ผ่านมา ผมแทบไม่ได้พ่นจมูกเลย
  • จอยและผมก็เป็นหวัดกันในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่พอกลับมาบ้าน นอนเล่นมือถือในห้องนอน รู้สึกเหมือนแทบไม่จามเลย
  • โหมดในการทำงานที่เป็น แรงหรือเบา จะใช้สำหรับตอนเราย้ายไปห้องโน้น ห้องนี้ เช่นถ้าอยากเปิดในห้องนั่งเล่นก็ยกมา เปิดโหมดทำงานแรงๆเลยซักพัก แล้วค่อยเปิดเบา แต่ถ้าตั้งห้องไหนประจำ ผมแนะนำว่า กด Auto ไปเลยก็ได้ครับ จบในตัว

IMG_3133

หลังจากที่ทดสอบเสร็จแล้ว พบว่ามันดีจริงๆแฮะ คิดว่าคงต้องซื้อไว้แล้วล่ะ แล้วก็คิดว่าจะเอามาขายใน Melonbox ด้วยครับ เพราะลองด้วยตัวเองแล้วรู้สึกประทับใจครับ เท่าที่ดูน่าจะมีปัญหานิดหน่อยตรงที่ ราคายังแอบสูงอยู่ ประมาณ 3x,xxx บาท ส่วนตัว Reaction Chamber ก็ประมาณ 3,xxx บาท เปลี่ยนปีละครั้ง ทำให้มันน่าจะเป็นอุปสรรคสำหรับหลายๆคนที่อยากจะได้อยู่เหมือนกัน

แต่สำหรับคนที่ไม่มีปัญหาด้านค่าใช้จ่าย แล้วพบว่า อาการแพ้อากาศ แพ้ฝุ่น มันทำให้คุณทรมาณกับการนอน ผมว่าลองดู Airocide ก็ไม่เลวนะครับ

ลองกดซื้อ Airocide ที่ Melonbox.com ได้ครับ ผมได้ราคาพิเศษมา

Check Also

รีวิว Auto-Empty Dock ของที่ต้องมีถ้ามีคุณ Roborock s7

ไม่ต้องเกริ่นเยอะ สำหรับคนที่ใช้งานหุ่นยนต์ทำความสะอาด ถึงแม้ว่ามันจะสะดวกสบายก็เถอะ แต่มันก็ยังเหลือ ภาระนิดๆ ให้คุณต้องมาจัดการบ่อยๆ นั่นก็คือ ต้องเอาฝุ่นใน Dustbin มันมาทิ้ง!! Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine

37 comments

Leave a Reply