ช่วงสองปีที่แล้ว Mobile Operator ทุกเจ้าหันมาทำโทรศัพท์มือถือจำหน่ายเอง เพราะว่า ควบคุม Spec ให้ตรงกับบริการที่ตัวเองมีอยู่ได้ อย่าง True เองก็ออกมาหลายเครื่องแล้ว พอดีได้ True Smart 4G 5.5 Enterprise (ชื่อยาวไปไม๊) มารีวิวประมาณ 2 อาทิตย์ ตอนนี้รีวิวเสร็จและ ลองอ่านกันดูนะครับ
จะว่าไปมือถือที่มาจาก Operator เนี่ย จะเน้นราคาประหยัด Spec แบบงั้นๆ เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้โดยง่าย ซึ่ง มองในแง่ลูกค้าที่ไม่มีประสบการณ์กับ Smartphone มาก่อน การกำหนดราคากับ Spec แบบนั้นก็สมเหตุผลดี
แต่สำหรับลูกค้าที่เป็นระดับ Power User นี่เรียกได้ว่า แทบไม่ได้หันมามองมือถือเหล่านั้นเลย เพราะลูกค้ากลุ่มนี้ มีตังค์ เข้าใจเรื่องเทคโนโลยี และอยากได้ของดีที่คุ้มค่า
ปีนี้ทาง True ก็เลย ลองทำ Smartphone ในราคาที่เรียกได้ว่า สูงสำหรับมือถือจาก Mobile Operator ด้วยกัน แต่พอดูราคาแล้ว อ้าว ก็ราคากลางๆนะ ราคาขายจาก iTruemart คือ 8,990 บาทครับ
ประกอบกับปีนี้ True ผลักดันโครงข่าย 4G แบบเต็มเหนี่ยว ดังนั้น ถ้าจะ 4G ให้มันมีความสุข ดูวีดีโอลื่นๆ โหลดอะไรเร็วๆ ไปใช้เครื่อง Spec ต่ำๆ มันก็ดูจะสวนทางยังไงชอบกล
เจ้า True Smart 4G 5.5 Enterprise ก็เลยมี Spec ที่เรียกได้ว่า ค่อนไปทาง กลาง-สูง เมื่อเทียบกับตลาด Smartphone ในปีนี้นั่นเองครับ
เอาล่ะ มาดูกันหน่อยว่าจ่ายไป 8,990 บาทเนี่ย ได้อะไรมาบ้าง
ในกล่องก็จะมีตัวเครื่อง / สายชาร์จ Micro USB / หูฟัง In-ear ที่มีรีโมท / แผ่นปิดหน้าจอครับ เท่านี้แหละ
หูฟังแบบ in-ear คุณภาพเสียงงั้นๆมาก แถมไม่มีปุ่มควบคุมเสียงอีกต่างหาก แหม่
ตัวเครื่องมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ตอบรับกับยุคสมัยตอนนี้ที่คนอยากจะได้หน้าจอมือถือใหญ่ๆ จอก็เลยเป็นจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด 720p และใช้หน้าจอแบบ IPS ทำให้มองเห็นได้คมชัดทุกองศา
ด้านหลังเหมือนโลหะ แต่จริงๆ คือพลาสติกสีเงินครับ มีสติ๊กเกอร์แปะกันรอยข้างหลังมาด้วย จะแกะหรือไม่แกะก็ได้นะ เพราะติดไว้เป็นกันรอยก็ดีเหมือนกัน ข้างบนเป็น กล้องหลังขนาด 8 ล้าน มาพร้อม LED Flash และด้านล่างเป็นรูลำโพงครับ
Battery ขนาด 3,100 mAh ดูเผินๆเหมือนจะแกะ Battery มาเปลี่ยนได้ แต่จริงๆแล้วแกะไม่ได้นะครับ ที่เจ๋งคือ ฝาหลังเป็น NFC ด้วย ใส่ได้ 1 SIM เป็นแบบ MicroSIM และมีช่องเสียบ Micro SD Card ที่รองรับได้สูงสุด 32GB ติดมาด้วย
ตอนบูธเครื่อง จะเป็น Android Kitkat 4.4.4 ที่มี Logo ของ True ขึ้นมาตอนบูธเลย ท่าทางจะแก้ไข Firmware มาอย่างดี
พอเปิดเครื่องเพื่อ Setup ปุ๊บบบบ ก็เจอ 4G เลย แถมตอนทดสอบ ไม่เคยเปลี่ยน Logo เป็น 3G ซักครั้ง ไม่รู้ว่าตอนนี้เครือข่ายมันแน่นแล้ว หรือ ล็อคใน Software ไว้หว่า ฮ่าๆ
ตัว Launcher เป็นของทาง True เอง หน้าแรกอัน App ของ True เอาไว้ให้เพียบครับ แถมยังมี App พื้นฐานฝั่ง Google มาให้ครบ เรียกว่าไม่ต้องไปหาโหลดเพิ่ม เปิดเครื่อง ล็อคอิน แล้วใช้งานได้เลย
App True ที่ให้มา ค่อนข้างครบนะ มี True Vision Anywhere มาให้ด้วย
Facebook / LINE / Instagram / Twitter พร้อม!
มีโปรแกรมที่ช่วยให้เราใช้งานมือเดียวติดมาด้วยครับ แน่ล่ะเครื่องนี้หน้าจอใหญ่มาก 5.5 นิ้ว คนมือใหญ่อย่างผมถือใช้งานมือเดียวยังลำบาก เจ้า App นี้จะเป็นเหมือนปุ่มควบคุมส่วรต่างๆของหน้าจอแบบง่ายๆ เช่น ย่อหน้าจอให้เล็กลง หรือเรียก App ที่ใช้งานบ่อยออกมาทำงาน ก็สะดวกดีครับ
ถ้าอยาก Backup ก็มี True Cloud มาให้ ใครที่มี True ID อยู่ กดสมัครก่อนแล้วค่อย Login เข้าไปใช้ได้เลยครับ
หน้า Notification แบบนี้ผมชอบดีนะ มีตัวบอกสถานะ Data ที่เราใช้ไปในวันนี้ / ปุ่ม Toggle พวกฮาร์ดแวร์ต่างๆของเครื่อง / กด Clear Ram จากตรงนี้เลยก็ได้ True Smart 4G 5.5 Enterprise ตัวนี้ให้แรมมา 2GB แล้วก็ถ้าคุณไม่ได้เล่นเกม หรือ อะไรโหดๆ การใช้ Ram จะเฉลี่ยอยู่ที่ 200 – 300 MB เท่านั้นครับ ค่อนข้างน้อยทีเดียว
ลองรัน Antutu เพื่อดูว่าได้กี่คะแนน ออกมาประมาณ 18,320 … สำหรับ Snapdragon 400 ที่เป็น Quad Core 1.2Ghz ก็ได้ประมาณนี้แหละครับ
ถ้าเทียบลำดับใน Antutu ก็ถือว่า ช้ากว่า Zenfone 5 อยู่นิดหน่อย
คะแนนของ Quadrant ได้มา 8,634 .. แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยจะมีใครใช้ Quadrant ทดสอบแล้วล่ะครับ มันค่อนข้างเก่า
การ์ดจอเป็น Adreno 305 .. ก็เรียกว่า กลางๆ ไม่ได้เทพอะไรขนาดนั้นครับ
จุดเด่นน่าจะเป็นที่ Battery 3,100 mAh ครับ คือโคตรเยอะเลย ผมเอาออกจากบ้านไปใช้ประมาณ 10 โมง กลับถึงบ้านประมาณเกือบๆ 4 ทุ่ม มีการใช้งานแบบทั้งวันโดยที่ไม่ได้ต่อ WIFI เลย มีการใช้นำทาง ประมาณ 40 นาทีตอนเช้าด้วย ยังเหลือ Battery กลับบ้านประมาณ 45%
กล้องหลัง 8 ล้านที่มีค่า F 2.0 .. ก็ถือว่าค่อนข้างคุณภาพดี แต่เวลากดถ่ายจะมี Shutter Lag อยู่บ้าง ภาพที่ถ่ายมานี่ไม่ได้ใช้โปรแกรมปรับแต่งใดๆ กดถ่ายในสภาพแสงน้อย เพื่อดูคุณสมบัติการชดเชยแสง
ภาพนี้ Indoor เหมือนกัน แต่มีแสงมากกว่าหน่อย ให้สีของ Skin Tone ได้ถูกต้องดีครับ
แดดจัดๆ แบบ Outdoor .. ถ้าไม่ติดว่ากดถ่ายแล้วมี Shutter Lag ก็ถือว่ามีคุณภาพที่ค่อนข้างดีทีเดียว
Outdoor อีกรูป สีค่อนข้างจัดจ้านทีเดียว
ปิดท้ายด้วยกล้องหน้าครับ ความละเอียด 5 ล้าน กับค่า F2.4 แบบ Wide Angle ด้วย ทำให้ถ่ายออกมาแล้วไม่ต้องยื่นแขนไปมาก ก็เก็บภาพ 2 คนครบนะ
อย่างไรก็ตาม ผมเจอปัญหาเรื่อง GPS นิดๆหน่อยๆ จะว่าไปก็เจอกับ Android เกือบทุกรุ่นแหละ นั่นก็คือ ความช้าในการหาสัญญาณ และความแม่นยำเวลาอยู่ใต้รถไฟฟ้า เครื่อง True Smart 4G 5.5 Enterprise ใช้เวลาประมาณ 15-20 วินาที ในการคำนวนหาว่าตัวเองอยู่ที่ไหน แล้วค่อยนำทางได้ ซึ่งถ้าเทียบกับ iPhone ที่ใช้เวลา 2-3 วินาที เนี่ย ก็แอบหงุดหงิดเหมือนกันในบางที
สรุปความรู้สึกหลังทดลองใช้ True Smart 4G 5.5 Enterprise
- ถึงแม้ CPU จะเป็นรุ่นกลางของปีที่แล้ว แต่ความเร็วไม่มีปัญหา มาพร้อม แรม 2G นี่เรียกว่า ใช้สบายๆ ไม่ติดขัดอะไรเลยครับ เหลือๆ
- Battery อึดมากๆ ประทับใจเลยล่ะ ใช้ทั้งวัน แถมยังทำ Hotspot แชร์ให้อุปกรณ์อื่นได้สูงสุด 8 ตัว อยู่ได้เกือบทั้งวันสบายๆ
- วัสดุดี จับแล้วไม่ขี้เหร่ ดูแน่หนา ไม่กระป๋อง
- กล้องเรียกได้ว่า พอฝากความหวังไว้ได้ คุณภาพโอเค มี Filter ช่วยเยอะ เอาเข้าจริงก็แทบไม่ได้ใช้เลย เมนูหน้ากล้องแอบรกนิดหน่อย ติดปัญหาเรื่อง Shutter Lag อย่างเดียวเลย
- ลำโพงอยู่ด้านหลังเครื่อง เวลาดูคลิป จะต้องเอามือไปอังไว้ ถึงจะได้ยินเสียง ก็ไม่ค่อยเข้าใจ ทำไมไม่เอาลำโพงมาไว้ข้างหน้ากันนะ หูฟัง คุณภาพงั้นๆมาก ถ้ามีงบเหลือซัก 2,000 บาทก็ไปหาหูฟังดีๆมาใช้ดีกว่า
- 4G True นี่มันเร็วสะใจจริงๆนะ ใช้แล้วไม่ผิดหวัง กดปริ๊ดดดดดเป็นมา
- มีพื้นที่เก็บข้อมูลน้อยไปนิด แค่ 8GB เท่านั้นเอง ถึงแม้ว่าจะเพิ่ม MicroSD ได้ ก็ตาม น่าจะให้มาซัก 16GB สำหรับเครื่องที่หน้าจอใหญ่ๆ + รองรับ 4G เทพๆแบบนี้
- ราคา 8,990 บาท ถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเจอคู่แข่งอย่าง Zenfone / iMobile แต่ซื้อเครื่องนี้สามารถเปิดโปรเทพๆ ของ True ในราคาพิเศาได้ด้วย ก็ต้องคำนวนความคุ้มค่ากันซักนิดนึงครับ
20 comments