ไปเจอเคสชาร์จตัวนึงขายอยู่ที่ Loft สาขา Paradise Park ครับ ดูราคาแล้วมันทะแม่งๆ มันจะใช่ราคานี้แน่หรอ เลยลองซื้อกลับมาดู เพราะมันเป็นเคสชาร์จสำหรับ iPhone7+ ที่มีความจุมากถึง 3,650 mAh (ขนาด Battery ของ iPhone7+ ยังมีแค่ 2,900 mAh เอง) พอลองเอามาใส่เครื่องแล้วพบว่า เฮ้ย บางมาก ขนาดเหมาะมือ ไม่ได้ใหญ่เทอะทะอะไรเลยเอามารีวิวติด Blog ไว้ซักหน่อยครับ
พูดถึงเคสชาร์จ หลายๆคนที่เป็นแฟนของ Blog ผมก็น่าจะรู้ดีว่าผมเป็นสาวก iPhone และมีเคสปูด ที่เป็นเคสชาร์จของ iPhone6s มาก่อน แต่พอย้ายมาใช้เครื่องใหญ่ที่เป็น iPhone7+ ทาง Apple ไม่ยอมทำเคสปูดตัวใหญ่ออกมาให้ก็เลยไม่ได้ใช้ ซึ่งจะว่าไป Battery มันก็เยอะระดับนึงอยู่แล้วล่ะ แทบไม่ต้องใช้ก็ได้ และก็อย่างที่บอกว่า เดินไปเจอ + ราคาเร้าใจมาก เลยหยิบมาอันนึงครับ
เคสชาร์จของ USAMS ตัวนี้ทำในประเทศจีนครับ USAMS ก็มีสินค้าที่เป็น Mobile Accessories เยอะมากๆ น่าจะมีประสบการณ์ในการทำ Accessories มาอย่างยาวนานเลยล่ะ งานผลิตค่อนข้างดีทีเดียว ตัวเคสเป็นพลาสติกแบบ PC ผสมกับ TPU ที่ค่อนข้างแข็งแรงเลยทีเดียว แต่ลองจับๆผิววัสดุดูก็ไม่แน่ใจว่าใช้ไปนานๆ มันจะเหนียวหรือเปล่า
วิธีการใส่ iPhone เข้ากับตัวเคสนี้ก็มีสกรีนใส่เครื่องเอาไว้เลยล่ะ
ส่วนหัวชาร์จที่เป็น Lightning ค่อนข้างจะติดกับเคสมาก เลยทำให้เคสนี้ไม่ค่อยหนาครับ
พลิกมาด้านหลัง จะมีปุ่มกดเพื่อเช็คสถานะ Battery ครับ กดหนึ่งทีจะโชว์สถานะ กดค้างจะปล่อยไฟชาร์จเข้าเครื่อง กดค้างอีกทีก็หยุดชาร์จ จะไม่เหมือนกับเคสปูดของ Apple ที่เสียบปุ๊บชาร์จปั๊บนะครับ
พลิกมาดูด้านข้าง มีสกรีนโลโก้ของ USAMS ไว้ด้านขวาพร้อมกับปุ่ม Power ซึ่งกดปุ่มได้ง่ายเหมือนไม่ได้ใส่เคสอะไร
ปุ่ม Volumn ก็กดง่าย ส่วนปุ่ม Silent Mode นี่ต้องใช้เล็บแงะลงไปนิดหน่อย แต่ก็ไม่ยากเท่าไหร่
ในแง่ความบาง เรียกได้ว่าหนากว่าตัว iPhone7+ เพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นเอง
วิธีใส่ก็ยัดตูดเข้าไปก่อนแล้วค่อยกดหัว ส่วนตอนถอด ก็ใช้นิ้วดันตรงเลนส์กล้องแล้วก็ค่อยๆกดมันออกมาครับ ถือว่าใส่ง่าย ถอดง่าย ไม่ได้ยากเย็นเหมือน Air Jacket
ปิดท้าย ก็คือ เจ้านี่ใช้ช่องชาร์จเป็น Lightning ครับ ถือว่าง่ายเลย เพราะว่าเคสชาร์จพวกนี้ สมัยก่อนจะเป็นหัว MicroUSB ซึ่งเราจะต้องมานั่งพกสายสองเส้น
หลังจากทดลองใช้มาได้ซักไม่กี่ชั่วโมง
ขอเล่าความรู้สึกคร่าวๆละกันนะครับ
อย่างแรกเลยก็น่าจะเป็นเรื่องสัมผัส ไม่ได้ใหญ่เทอะทะน่าเกลียดอะไร หนาขึ้นมาอีกนิด ยังจับถนัดอยู่ เลนส์กล้องและ Flash ก็ยังทำงานออกมาได้ปกติไม่ได้บังกล้องหรือแสงอะไร ในแง่น้ำหนักก็ถือว่าหนักมากขึ้นระดับนึงเลยทีเดียว เรียกได้ว่าใส่กระเป๋ากางเกงหลวมๆ นี่มีดึงกางเกงหลุดตูดได้ สิ่งที่ชอบคือใช้สาย Ligjtning ชาร๋จได้ แต่สิ่งที่ไม่ชอบคือ เสียบสายชาร์จกับคอม แต่มองไม่เห็นอุปกรณ์นี่แหละ ตอนเสียบสายชาร์จ เหมือนมันจะชาร์จทั้งมือถือและเคสพร้อมๆกันเลย เรียกว่าแบ่งๆกันชาร์จ เลยน่าจะนานโคตรกว่าแบตจะเต็ม โดยรวมแล้ว ผมเชื่อว่า Loft น่าจะติดราคาผิด เพราะขนาดในเว็บยัง 41.99$ เลย แต่ไหงมาโผล่ในราคา 520 บาทได้ สงสัยท่าทางจะพิมพ์เลขหนึ่งตกไปตัวนึงนะจ๊ะ ใครใจดีก็แจ้ง Loft หน่อย ใครใจร้ายก็ไปโกยกันเองละกันครับ