วันนี้ได้รับเชิญจากทางบริษัท TOT จำกัด มหาชน ในการร่วมงานเปิดตัว บริการใหม่ของทาง TOT ครับ งานจัดขึ้นที่ Fashion Hall ชั้นหนึ่ง สยามพารากอน ซึ่งการเปิดตัวครั้งนี้ก็มี Blogger สาย IT มาร่วมงานกันเพียบเลยครับ และวันนี้ทาง Blogger ทั้งหมดก็ได้รับกล่อง MeTV กลับมาบ้านกันคนละกล่องด้วย ซึ่งผมคิดว่า น่าจะมีรีวิวให้อ่านหลายสไตล์เลยล่ะครับ
ทำไมต้องทำระบบ ทีวีผ่านอินเทอร์เน็ตด้วย??
สาเหตุก็เพราะตอนนี้ อินเทอร์เน็ต เป็นเหมือนบริการขั้นพื้นฐานสำหรับคนเมือง ไม่ต่างอะไรกับน้ำ หรือ ไฟฟ้า … ลองตัดน้ำกับตัดเน็ตสิครับ ให้นอนตัวเหนียวยังพอนอนได้ แต่ก่อนนอนไม่ได้อัพ Facebook บอกชาวบ้านว่าคืนนี้น้ำโดนตัด หลายคนทนไม่ได้นะเนี่ย
ที่สหรัฐอเมริกา บริการอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ ก็พ่วง Cable TV มาด้วยกันทั้งสิ้นดังนั้น การส่งสัญญาณของรายการทีวีไปกับอินเทอร์เน็ต ก็เป็นการทำให้ อินเทอร์เน็ตถูกใช้งานอย่างคุ้มค่ามากขึ้น (ปล. ยังมีคนอีกหลายล้านคนบนโลกนี้ ที่ไม้ได้เปิดเครื่องคอมทิ้งไว้เพื่อโหลดบิทนะครัฟ)
ทาง TOT เองก็เป็นผู้ให้บริการโครงข่าย ทั้งโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว ก็เลยทำบริการดูรายการทีวีผ่านอินเทอร์เน็ตมาเป็นบริการเสริม เพื่อที่จะทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตดูน่าสนใจและน่าติดตั้งในบ้านมากขึ้นนั่นเองแหละครับ
ผมมาตอนเวลาประมาณเที่ยงกว่าๆ ซึ่งยังไม่ถึงเวลาเปิดงานเท่าไหร่ คนเลยยังไม่ลงทะเบียนเข้างานกัน แต่เจ้าหน้าที่ของทาง TOT เยอะมากๆ แล้วก็คอยตอบปัญหาคนที่เข้ามาสอบถามทุกคน
พิธีกรภาคสยามเองก็พาชมแต่ละบูท โดยที่แต่ละบูทก็จะแทน หมวดหมู่ต่างๆที่มีให้บริการใน MeTV เช่น Sport , Music , Movie , Kids , Documentary และอื่นๆอีกมากมาย
หน้าตาเมนูของ MeTV ซึ่งจริงๆแล้วเป็น App ตัวนึงใน Android ครับ รองรับการทำงานจากทั้งรีโมทและ Keyboard+Mouse
อยากจะบอกว่า ใครอยากดู Beartai Hiech แบบ HD ก็สามารถดูได้ใน MeTV ด้วย
และเมื่อถึงเวลาเริ่มงาน @nuishow และ @lizasadler พิธีกรรายการแบไต๋ ไฮเทคก็ขึ้นไปทำหน้าที่พิธีกร ทั้งเวอร์ชั่น ไทยและอังกฤษพร้อมกัน ทั้งเจ๋งและฮามากๆในเวลาเดียวกัน
ที่น่าทึ่งมากก็คือ งานนี้ TOT มีพาร์ทเนอร์ด้าน Content เยอะมากๆ ทั้งข่่าว เพลง หนัง กีฬา และผู้บริหารของทุกๆ Content ก็มาร่วมกันในงานด้วยเพื่อแสดงให้ผู้ใช้งานรู้สึกถึงความมั่นใจในการให้บริการครับ
เอาล่ะครับ เมื่อผมได้รับกล่องอุปกรณ์ MeTV มาแล้ว ก็ขอเอามารีวิวแบบแกะกล่องกันเลยละกันว่ากล่อง MeTV สามารถทำได้อย่างที่ผู้บริหารเค้าประกาศบนเวทีหรือเปล่า
แกะกล่อง MeTV ว่ามีอะไรให้บ้าง
เมื่อแยกร่างออกมาเสร็จก็จะเจอ
- กล่อง MeTV 1 กล่อง
- สาย HDMI ขนาด 1.2 เมตร 1 เส้น
- สาย RCA 1 เส้น
- หัวแปลงให้กล่อง MeTV ใช้สาย RC A ได้ 1 เส้น
- สาย LAN 1 เส้น (แจ๋วมาก แถมสาย LAN ให้ด้วยครบเครื่องจริงๆ)
- Power Adapter 1 ตัว
- รีโมทพร้อมถ่าย AAA จำนวน 2 ก้อน
- คู่มือการใช้งาน
ตัวกล่องเรียกได้ว่าเล็กมากๆ ขนาดพอๆกับ iPhone5 ครับ ทำจากพลาสติก น้ำหนักเบา แต่แข็งแรง ดูแล้วน่าจะทนความร้อน ไม่น่าจะละลายง่ายๆ
ด้านหน้าจะเป็น ปุ่ม เปิด/ปิด เครื่อง , IR Remote , ไฟบอกสถานะการทำงาน , ช่องเสียบ SDCard และ USB 2.0 จำนวน 2 ช่อง
ด้านหลังมีช่องเสียบไฟ DC / ช่องต่อ AV Out ด้วยหัวแปลงที่ทาง MeTV ให้มา / HDMI / LAN และ ช่อง Digital Connector
สำหรับ TV รุ่นเก่า ก็สามารถใช้งานกล่อง MeTV ได้นะครับ ถึงแม้ว่าจะไม่มี Port HDMI แต่ความละเอียดจะไม่ใช่่ HD นะครับ
ตัวรีโมทออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับ MeTV เลย มีปุ่ม Shortkey ในการเข้่าสู่ส่วนต่างๆของเครื่องได้อย่างง่ายดาย แถมยังเป็นรีโมทที่มีระบบ Learning ในตัว คุณสามารถให้มันบันทึกค่า เปิด/ปิดทีวี , เพิ่ม/ลดเสียง และปุ่มอื่นๆจาก รีโมททีวีเครื่องหลักของคุณได้เพื่อที่คุณจะไม่ต้องปวดหัวในการหารีโมทหลายๆตัว
ตัว Spec ของ Hardware ผมไม่แน่ใจเรื่อง CPU ครับ แต่มีแรม 1GB และมี Storage ในเครื่องอยู่ที่ 2GB และมี Wireless LAN ในตัว ทำให้สะดวกในการติดตั้งมากๆ เพราะถ้ามี WIFI แค่เสียบสาย HDMI กับปลั๊กไฟก็ทำงานได้แล้ว ส่วน Android ก็เป็น ICS 4.04 ครับ ไม่เก่าไม่ใหม่ กำลังดี
หน้าจอ Setup เป็นของ Android แท้ๆ คนใช้ Android มาก่อนก็สบาย แถมรองรับเมนูไทยด้วย
ช่อง USB มีมาให้ 2 รูแบบนี้ ผมก็เลยเอาชุด Keyboard + Mouse ไร้สายมาเสียบ ก็สามารถใช้ Mouse ในการควบคุมได้อีกช่องทางหนึ่งเลยด้วย
หน้า Home จะเป็นตัว Homescreen ที่ทาง TOT ทำขึ้นมาเอง โดยที่จะมีเพียง App ให้ใช้ได้เท่าที่มีบนหน้าจอเท่านั้น แต่สามารถติดตั้ง App อื่นๆผ่านทาง App Store ได้
ถึงจะชื่อว่า App Store แต่ก็ไม่ได้ติดตั้ง App ได้ทุกตัวเหมือน Google Playstore นะครับ ตัวนี้เป็น Market ที่ทาง TOT ทำขึ้นมาเอง จะมีโปรแกรมพื้นฐานในการทำงานอยู่ไม่กี่ตัวเท่านั้น แต่ก็มีครบๆในหมวดดูหนังนะครับ ไม่ว่าจะเป็น Facebook , Twitter , Youtube , Pinterest แม้แต่ TV Thailand ยังมีเลย
แต่ icon แรกที่คุณควรต้องคลิกก่อนหลังจากต่อเน็ตก็คือ MeTV เพราะมันจะทำการลงทะเบียน Username + PW ที่ติดมาใต้กล่องให้โดยอัตโนมัติ
หน้าจอควบคุมเมนูในการชมรายการของทีวี จะเป็นเหมือนระบบ Smart TV ทั่วๆไป มีให้เลือกดูหลายบริการด้วยกัน
- Channel คือ การดูทีวีรายการสด ซึ่งช่องพื้นฐานจะมีทั้งหมด 74 ช่องให้เลือกครับ
- VOD ก็คือ Video On Demand : มีหนังฟรีให้ดูระดับนึง (หนังเก่าเกรดบี พอดูเอาขำๆได้นะครับ)
- MyTV ก็คือ รายการที่เรา Favortie เอาไว้
- Setting : ก็จะส่งเข้า Setting ของ Android ไปเลย
ความเจ๋งของระบบ MeTV ก็คือ มันมีระบบ Time Shift หรือ ดูย้อนหลังได้ 72 ชม. ครับ สมมติกลับมาบ้านแล้วดูรายการที่อยากดูไม่ทัน ก็เลือกย้อนกลับไปดูได้เลย สบายจริงๆ ใครติดละครหรือเกมโชว์เหมาะสุดๆ
รายการหนังที่ให้ดูในช่อง Video On Demand มีหนังให้เลือกเยอะ แต่ไม่ค่อยรู้จักชื่อเท่าไหร่เลย
และเนื่องจากที่มันเป็น Android จึงมีตัว Market ให้โหลด App ได้ระดับนึง เป็น AppStore ของทาง MeTV เอง ไม่ใช่ Google PlayStore ดังนั้นก็จะมีโปรแกรมจำกัด แต่มีพวก Google Chrome / Facebook / twitter และอื่นๆ มีประมาณ 30 ตัวได้ครับ
ข่องหนังฝรั่งจะมีทั้ง พากษ์เสียงไทยทับ และมี Subtitle ปนๆกันไป แต่ Foxcrime HD นี่แจ๋วมาก ได้ดู CSI NY แบบ Full HD ด้วย
กล่อง MeTV จะใช้ความเร็วขั้นต่ำในการดูคือ 2 Mbps แต่เท่าที่ผมดูจากโปรแกรมที่เล่นอยู่ มันจะมีตัวบอกสถานะว่า ใช้ความเร็วในการส่งไฟล์อยู่ที่เท่าไหร่ ถ้ารายการไม่ชัด ความเร็วในการใช้งานจะเหลือแค่ 500Kbps เท่านั้นเอง ส่วนตัว HD จะอยู่ที่ 1,200 – 1,500 Kbps
และเนื่องมาจากมันมี USB + SDCard Reader มาให้ ผมก็เลยก็อปหนังใส่ USB Drive เพื่อทดลองซักหน่อยว่ามันเป็น Media Player ได้หรือเปล่า
ปรากฏว่าได้ครับ ดู HD720 ลื่นสภาพๆกับไฟล์แบบ MKV นะ ตัว Font นี่ปรับไม่ได้ เพราะว่าโปรแกรมไม่มีให้ปรับ แต่ก็ถือว่าไม่แย่นัก
ความเจ๋งอีกอย่างของระบบ MeTV ก็คือ มันมี App บนมือถือ Android / iOS ให้ด้วยครับ เราสามารถดูทุกๆช่องรายการใน MeTV ผ่าน App ตัวนี้ได้เลย โดยที่ต้องใช้ Username + Password จากกล่อง MeTV ในการ Login เข้าระบบด้วย ซึ่งค่า Setting ที่เราตั้งเอาไว้ก็จะตามมาถึงใน App นี้ด้วยครับ
ช่องรายการสดดังๆ มากันครบ
ระบบ Video On Demand ก็มีให้ดู
สรุปทุกอย่างของ MeTV ให้ฟัง
- ถ้าอยากติดตั้งไม่ติดค่ากล่อง แต่ต้องเช่าเอาในราคา 150 บาทต่อเดือน
- ซื้อ Package เพิ่มได้ โดยดู Promotion เพิ่มเติมจาก http://www.totiptv.com/index.php?option=com_content&view=article&id=47&Itemid=28
- Internet ขั้นต่ำ 2Mbps ก็ดูได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ Internet ของ TOT ในการรับชม แต่ถ้าใช้ ADSL ของ TOT จะได้ส่วนลดด้วยครับ
- ความเร็วในการทำงานของ Android ในกล่อง ก็ไม่เร็วปรู๊ดปร๊าดอะไร กดแล้วก็รอตามปกติของ Android
- ภาพของช่อง HD มีแตกยิบๆเวลาเคลื่อนไหวเยอะๆ น่าจะเพราะ bitrate ในการ encode ต่ำไปหน่อย
- ความเจ๋งคือ อยู่บ้านก็ดูได้ ออกนอกบ้านก็ดูผ่าน App ได้ ทำให้การสมัครบริการของเราคุ้มค่ามากขึ้น ลองนึกว่าสมัคร 150 บาทต่อเดือน แล้วมี National Geographic ติดตัวไปนั่งดูที่ Office ผ่านมือถือ ก็เจ๋งแล้ว
- Package ที่คุ้มค่ามากคือ 580 บาท เพราะมีหนัง HD กับสารคดี HD เยอะ
- ใครสนใจก็ติดต่อ Call Center ของ TOT ได้ที่หมายเลข 02-575-7711 หรือตอนนี้ที่ Star Dome ชั้น 3 ห้างสยามพารากอนเค้าจัดงานอยู่ ไปลองเล่นๆจับๆของจริงกันดูได้เลยครับ
ขั้นต่ำ 2Mb เหรือครับ เมื่อวานบ้านผมเหลือ 47Kb เอง กลัวว่าจากหนัง HD จะกลายเป็น SlideShow จริงๆ
สเปคตัวเครื่อง CPU arm cortex A9 800MHz ครับ
ผมได้ลองใช้ดูแล้ว จากแรกๆด่าเรื่อง content ที่ว่า ไม่มีอะไรน่าสนใจ กลายเป็นว่าหลงรักกล่องนี้ครับ ดูย้อนหลังได้ 3 วัน ตอบสนอง Lifestyle ได้ดีสุดๆครับ
ปล บังเอิญเน็ต TOT บ้านผม เร็วเกินสปีด อิอิ