Home -> Feature -> รีวิว Linksys EA6500 Darth Vader แห่งวงการ Wireless Router

รีวิว Linksys EA6500 Darth Vader แห่งวงการ Wireless Router

ก่อนหน้านี้เคยรีวิว Linksys EA4500 ไปแล้วรอบนึง ซึ่งด้วยความสามารถ Cisco Cloud Connect ทำให้มันกลายเป็น Wireless Router ที่เซ็ตอัพได้ง่ายมาก แทบจะทำให้ Network Admin ต้องตกงานกันเลยทีเดียว คราวนี้ทาง Linksys ได้ส่งรุ่นใหญ่มาให้ผมทดสอบและรีวิว โดยที่ ถ้าเรียกแบบ Star Wars ก็ต้องเรียกว่า Darth Vader มาเอง จะเป็นยังไงมาดูกันครับ

Linksys EA-6500 เป็น Wireless Router ที่รองรับมาตรฐาน 802.11ac  ซึ่งเป็นมาตรฐานการส่งสัญญาณไร้สายตัวล่าสุด.. แต่!! มันยังอยู่แค่ สถานะ Draft 4.0 เท่านั้น แปลว่ายังอีกนานจนกว่าจะเป็นมาตรฐานกลางที่ใช้กันในอุปกรณ์ทั่วโลก ถ้าพูดง่ายๆ ก็เป็นมาตรฐาน 802.11ac เฉพาะอุปกรณ์ของ Linksys ด้วยกันเท่านั้น

ถ้าถามว่า แล้วทำไม ไม่ออกมาตรฐานให้มันเสร็จๆไปเลย ผมจะเล่าให้ฟังว่าดราม่ามันเกิดขึ้นยังไงครับ

IEEE_logo_1.jpg

คนที่ออกมาตรฐานของพวกการส่งสัญญาณไร้สายพวกนี้ คือกลุ่มที่เรียกว่า IEEE (Institute of Electrical and Electronics Engineers) เป็นสมาคมที่ทำหน้าที่วิจัยแล้วก็ออกข้อกำหนดด้านวิศวกรรมในเรื่องต่างๆ โดยที่ทาง IEEE จะทำการออก Requirement เบื้องต้นว่าควรจะมีสเป๊คเป็นยังไง แล้วก็จะทำวิจัย + เลือกข้อกำหนดด้านมาตรฐานออกมา ซึ่งดราม่ามันบังเกิดในยุคสมัยของ มาตรฐาน Wireless อยู่ที่มาตรฐาน G กำลังจะขึ้น N ครับ ตอนนั้นอุปกรณ์ Wireless กำลังเติบโตอย่างมาก ทาง IEEE ก็มีการกำหนดสเป๊ดของ Wireless N กันเอาไว้คร่าวๆว่าต้องทำให้ได้ตามข้อกำหนดนี้นะ ก็มี 4-5 ข้อ เป็นเรื่องของความเร็ว ระยะ อะไรประมาณนี้

ซึ่งผลก็คือ ผู้ผลิตตัวชิปไร้สายแต่ละเจ้าก็พยายามเข้ามานำเสนอ และเข้ามาคุยกับทาง IEEE ว่า ใช้เทคโนโลยีของฉันเป็นมาตรฐานสิ เพราะฉันทำได้เยอะแยะเลยนะ เพราะว่าสาเหตุที่แต่ละเจ้าพยายามที่จะนำเสนอให้เทคโนโลยีของตัวเองเป็นมาตรฐานที่ IEEE เลือก ก็เพราะว่า หาก IEEE เลือกเจ้าใดเป็นมาตรฐาน เจ้าอื่นก็ต้องมาซื้อลิขสิทธิ์ของคนๆนั้นไปใช้งาน ทีนี้ก็รวยเละเลยล่ะครับ ซึ่งนอกเหนือจากการที่แต่ละเจ้าจะพยายามดัน IEEE ให้มาเลือกของตัวเองแล้ว แต่ละคนก็ยังพยายามบังคับให้ IEEE เลือกตัวเองเป็นมาตรฐานแบบทางอ้อม โดยการโฆษณามาตรฐานของตัวเองที่ยังทำไม่เสร็จไปบนหน้ากล่องสินค้ากับผู้ใช้งานว่าฉันคือ Wireless มาตรฐาน N นะจ๊ะ ทำให้มีผู้ใช้จำนวนมากที่ซื้อสินค้าของบริษัทนี้ไป พอมีคนใช้เยอะๆ ก็ไปกดดัน IEEE ว่า “นี่ไง ของฉันคนใช้เยอะนะ เลือกฉันเป็นมาตรฐานสิ เพราะคนใช้กันเพียบเลย” สุดท้ายกว่า มาตรฐาน N แท้ๆจะงอกออกมา ก็มีผู้ใช้หลายคนซื้อมาตรฐาน N เทียมๆไปใช้โดยที่อัพเกรดเป็น Wireless-N แท้ๆไม่ได้ไปเยอะเหมือนกัน

แล้วมาตรฐาน 802.11ac เป็นยังไงแล้วมีอะไรบ้าง

โลกเรามีมาตรฐานการส่งข้อมูลไร้สายมาหลายตัวมากครับ ดูตามรูปได้เลย (แน่นอนว่ามองแทบไม่เห็น คลิกเพื่อดูรูปเต็มๆได้ ที่นี่ ครับ)

Screen Shot 2556-01-31 at 3.30.07 PM

ถ้าดูแล้วไม่เข้าใจ มาตรฐาน IEEE 802.11ac (ชื่อเต็ม) จะทำให้การเชื่อมต่อด้วยระบบไร้สาย ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 1gb ต่อวินาทีครับ เท่าสาย LAN แบบ Gigabit ตอนนี้เลยนะ แล้วปัญหาเรื่องสัญญาณกวนก็จะน้อยลงไปเพราะทำงานอยู่บนความถี่ 5Ghz (ถ้าอยากรู้ว่า ความถี่ 2.4Ghz กับ 5Ghz มันต่างกันยังไง ไปอ่าน รีวิว Engenius ESR-600H ได้ครับ มีเขียนอธิบายเอาไว้)

ซึ่งเจ้า Linksys EA6500 เนี่ย ก็รองรับมาตรฐาน IEEE 802.11ac ที่ Draft 4.0 ซึ่งก็คือ เมื่อมาตรฐานตัวเต็มๆออก ก็สามารถอัพเดท Firmware ให้กลายเป็นรุ่นมาตรฐานได้ทันทีครับ.. เอาล่ะมาแกะกล่องกันดีกว่าครับ หลายคนคงอยากเห็นหน้าตาแล้ว

IMG_1003

เมื่อเราแกะกล่องออกมาจะพบกับอุปกรณ์ดังต่อไปนี้ครับ

  • Wireless Router EA-6500
  • Power Adapter 1 เส้น
  • สาย LAN 1 เส้น
  • คู่มือการใช้งาน
  • CD ติดตั้งตัว Wireless Router (ห้ามหาย และ ต้องใช้ในการติดตั้งครั้งแรกด้วย)
  • บัตร Simple Tap (บัตร NFC ที่ทำให้มือถือที่มี NFC เชื่อมเข้าสู่ Network ของเราได้โดยที่ไม่ต้องกรอก Network Key)

IMG_1004

ตัว Linksys EA-6500 มีขนาดที่เรียกว่าใหญ่มากทีเดียวครับ ผิวด้านบนเป็นพลาสติกแบบด้าน ไม่มีไฟบอกอะไรนอกจากไฟบนโลโก้ Cisco ที่จะส่องแสงสีขาวออกมาตอนเปิดใช้งาน (โคตรเท่)

IMG_1005

ด้านล่างจะเป็น Serial No. และ WPS Key ที่ใช้กรอก ตอนใช้งานระบบ WPS ครับ (ระบบ WPS คือ ระบบที่กดเพื่อรับเครื่องที่จะเข้ามา Connect โดยที่ไม่ต้องบอก Network Key แบบเต็มๆ)

IMG_1006

แผงระบายความร้อนจะอยู่ด้านข้าง รวมถึงด้านล่างนิดหน่อย มีรูแขวนเอาไว้เผื่อเราต้องการใช้ประกบกับ Wall Mount เพื่อติดผนัง

IMG_1007

เมื่อพลิกมาดูด้านหลังจะเจออุปกรณ์ดังต่อไปนี้เลยครับ

  • ปุ่ม WPS
  • Port LAN แบบ 10/100/1000 จำนวน 4 Port
  • Port WAN ไว้ต่อกับ ADSL Router หรือ ช่องทางที่ Internet เข้า ซึ่งเป็น Port แบบ Gigabit เหมือนกัน
  • USB Port x 2 ไว้เสียบกับ External HDD หรือ Flashdrive เพื่อให้ทำหน้าที่เป็น File Server ใน Network
  • ปุ่ม Reset ค่าทั้งหมดของ Linksys EA-6500 เพื่อกลับสู่ค่าเริ่มต้น
  • ช่องเสียบ Power Adapter

IMG_1010

และเทคโนโลยีที่แจ๋วมากก็คือ บัตร SimpleTap ครับ เป็นบัตรที่มี NFC ในตัว เมื่อเราเอาบัตรนี้ไปทาบกับโทรศัพท์มือถือที่มี NFC + ลง App ชื่อ Cisco Connect Cloud ทันใดนั้น มือถือเครื่องนั้นก็จะเข้าใช้งาน Network ของเราได้ทันที ลองจินจนาการว่าเพื่อนมาบ้านแล้วถามหารหัส WIFI คืออะไร เราไม่ต้องบอก แค่เอาบัตรนี้ทาบมือถือเพื่อน ก็ต่อได้ทันที โคตรหล่อเลยครับ

IMG_1012

เบื้องหลังบัตร SimpleTap จะมีชิป NFC ที่มีหน้าตาแบบนี้

IMG_1013

ขนาดของ Linksys EA-6500 เมื่อเทียบกับ Linksys EA-4500 ที่ผมเคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ ผมแนะนำให้อ่านรีวิวของ Linksys EA-4500 ด้วยนะครับ เพราะจะได้เข้าใจระบบการทำงานผ่าน Cisco Connect Cloud

และแน่นอน ในเมื่อมันเป็น Wireless Router ใน series เดียวกันกับ Linksys EA-4500 มันจึงสามารถใช้ Cisco Connect Cloud ได้ .. ซึ่งไม่อยากอธิบายเพื่มเยอะ เอาเป็นว่า มันเป็นระบบเทพที่ทำให้คุณสั่งการ Wireless Router ของคุณจากที่ไหนก็ได้บนโลก บวกกับ เมนูที่ง่ายเหลือเชื่อชนิดคนไม่เป็น Network ก็ทำได้ แถมยังโหลด App เพื่มความสามารถได้อีกต่างหาก  Network Admin จะตกงานก็เพราะเจ้านี่แหละ

SNAG-0033

โฉมหน้า App Center ที่รวมเอา App เพิ่มความสามารถด้านการจัดการใน Linksys EA-6500 ให้เทพมากขึ้นไปอีก (ปล. App ต้องซื้อนะครับ ตัวละ 0.99$ – 4.99$ เรียกว่าราคาไม่แพงนะ)

SNAG-0029

หน้าควบคุม Linksys EA-6500 ที่เรียกได้ว่า ง่ายเหลือเชื่อ!

Spec ของ Linksys EA-6500 ที่เด่นๆนะครับ

  • รองรับ Wireless ครบทุกมาตรฐาน a/b/g/n และ ac ที่ draft 4.0 บนมาตรฐาน N สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 450 Mbps และบน AC สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 1,300 Mbps ถ้าการ์ด Wireless LAN บนเครื่องคุณรองรับ
  • รองรับระบบ Dual Band สามารถปล่อย Wifi ออกมาเป็นคลื่น 2.4Ghz และ 5Ghz พร้อมๆกัน บน
  • Wireless LAN สามารถสร้าง Guest Mode ไว้ให้เพื่อนเล่นแค่ Internet อย่างเดียว แต่ห้ามเข้าถึงไฟล์ใน Network ของเราก็ได้ด้วย (โคตรเทพ)
  • เสาอากาศทั้งหมด 6 เสา เป็นของ 2.4Ghz จำนวน 3 เสา และของ 5Ghz อีก 3 เสา (เสายิ่งเยอะ ความเร็วในการรับส่งยิ่งเยอะ และสัญญาณก็จะดีขึ้นด้วย)
  • Gigabit LAN + WAN Port ซึ่งไม่ค่อยมีในตลาด
  • รองรับการใช้งาน USB 2 Port ซึ่งผมเอา External HDD 2 ลูกไปเสียบ กลายเป็น File Server ขนาด 1TB บน Network ไปเลย แจ๋วมาก
  • ระบบ Folder Access สามารถกำหนด User + Password ในการเข้าใช้งานแต่ละ Folder ที่เราแชร์ได้ด้วย เช่นถ้า Folder ส่วนตัวเราก็ใส่ user + password ของเราไว้ซะ คนอื่นก็เข้าไม่ได้
  • มีระบบ Media Prioritization สามารถจัดการได้ว่า เครื่องไหน หรือ โปรแกรมไหนใน Network ของเรา สามารถออก Internet ได้ก่อนคนอื่น

ข้อเสียของ Linksys EA-6500

  • ราคาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว เพราะมันเป็นตัว Top ของ Linksys ตระกูล EA ทั้งหมดเลยล่ะครับ มันเลยแพงเพราะไม่มีกั๊กความสามารถเลย
  • ร้อนครับ .. เพราะชิปรับส่งมันรองรับหลายมาตรฐานมาก + เสาอากาศอีก 6 เสา และ CPU ของตัวอุปกรณ์ก็โคตรแรง เลยทำให้มันร้อนมาก แต่ใช้งานในห้องที่ไม่ได้เปิดแอร์มันก็ยังทำงานรอดได้อยู่นะครับ

โดยรวมแล้ว Linksys EA-6500 เหมาะมากกับ องค์กรขนาดเล็กที่มีพนักงานไม่เกิน 20 คน หรือ บ้านที่มีขนาดใหญ่มาก และมีคนใช้งานเยอะครับ เพราะจุดเด่นของมันอยู่ที่ รองรับความเร็วในการรับส่งชนิดเร็วมหาศาล และการจัดการ Client ที่ง่ายอย่างเหลือเชื่อ รวมไปถึงถ้ามีปัญหาหรืออยาก Setup อะไรเพิ่มเติม ก็ยังสามารถทำงานผ่าน Cisco Connect Cloud ที่เป็นบริการของ Cisco ได้อีกด้วยครับ

Check Also

รีวิว Auto-Empty Dock ของที่ต้องมีถ้ามีคุณ Roborock s7

ไม่ต้องเกริ่นเยอะ สำหรับคนที่ใช้งานหุ่นยนต์ทำความสะอาด ถึงแม้ว่ามันจะสะดวกสบายก็เถอะ แต่มันก็ยังเหลือ ภาระนิดๆ ให้คุณต้องมาจัดการบ่อยๆ นั่นก็คือ ต้องเอาฝุ่นใน Dustbin มันมาทิ้ง!! Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine

67 comments

  1. Aran Arayawattana

    ราคาขายครับ

Leave a Reply